ศึกชิงรองประธานสภาฯ คนที่ 1 พรรคกล้าธรรมดันชื่อ-เพื่อไทยยันโควต้าเดิม

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กรณีถอดถอน “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” สะเทือนเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 1 พรรคกล้าธรรมชิงเสนอชื่อใหม่ ขณะที่เพื่อไทยย้ำชัดเป็นโควต้าเดิม

เมื่อเก้าอี้รองประธานสภาฯ ว่างลง กลายเป็นศึกวัดใจในรัฐบาลปริ่มน้ำ

ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กำลังกลายเป็นพื้นที่ทดสอบเสถียรภาพของรัฐบาลผสมอีกครั้ง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พ้นจากตำแหน่งทั้งในฐานะ สส. และในตำแหน่งรองประธานสภาฯ เนื่องจากกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยการใช้หรือแทรกแซงงบประมาณเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและการเมืองในพื้นที่เลือกตั้ง

เรื่องนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล แต่ยังเปิดทางให้เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในสภาฯ อย่างเงียบแต่ชัดเจน โดยพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้ประกาศความพร้อมในการเสนอชื่อ “นายสะถิระ เผือกประพันธ์” สส.ชลบุรี ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนทันที โดยยืนยันว่าเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้กลับถูกจับตาว่าอาจกลายเป็นชนวนความสั่นคลอนในพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อ “นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันหนักแน่นว่า ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ยังคงเป็นโควต้าของพรรคเพื่อไทยตามข้อตกลงตั้งแต่เริ่มจัดตั้งรัฐบาล

ประเด็นนี้ยิ่งน่าสนใจเมื่อพิจารณาจากบริบทของ “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” ที่แทบไม่มีที่ว่างให้กับการเขย่าภายใน แม้เสียงจากพรรคกล้าธรรมอาจเป็นเพียงกระซิบ แต่ในทางยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทุกเสียงนับมีความหมาย และทุกความเคลื่อนไหวอาจสะเทือนไปถึงเสถียรภาพของรัฐบาลโดยรวม

สำหรับพรรคเพื่อไทย แม้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้ที่จะได้รับการเสนอให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่าภายในพรรคมีการหารือและจะมีการประชุมเพื่อโหวตกันในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ เพื่อให้เป็นมติพรรคอย่างชัดเจนก่อนนำชื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภา

การต่อสู้เพื่อครองตำแหน่งนี้จึงไม่ใช่แค่เกมในสภา แต่คือบททดสอบความเป็นปึกแผ่นของรัฐบาลผสม หากเพื่อไทยยังสามารถรักษาโควต้าไว้ได้สำเร็จ ก็จะย้ำชัดว่าแกนนำรัฐบาลยังควบคุมเกมได้อยู่ แต่หากเกิด “เซอร์ไพรส์กลางสภา” ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนแรงถึงการเปลี่ยนเกมการเมืองในไม่ช้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง