5 ขั้นตอนเลือกประกันการเดินทางให้ตอบโจทย์
5 ขั้นตอนเลือกประกันการเดินทางให้ตอบโจทย์
การเดินทางในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อท่องเที่ยว ทำงาน หรือเรียนต่อต่างประเทศ ล้วนมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินล่าช้า สัมภาระสูญหาย อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินที่อาจทำให้ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงโดยไม่คาดคิด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “ประกันการเดินทาง” กลายมาเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
การเลือกประกันการเดินทางที่ดี
ไม่ใช่เพียงเลือกจากราคาถูกหรือซื้อเพราะเป็นข้อกำหนดของสายการบินหรือประเทศปลายทางเท่านั้น แต่ควรเลือกอย่างเข้าใจ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการจริง ๆ
บทความนี้จึงขอนำเสนอ “5 ขั้นตอนเลือกประกันการเดินทางให้ตอบโจทย์” สำหรับนักเดินทางทุกคน
1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการเดินทาง
ก่อนจะเลือกซื้อประกันการเดินทาง ควรเริ่มจากการตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า "เดินทางครั้งนี้เพื่ออะไร?" เช่น ท่องเที่ยว พักผ่อน ทำงาน ประชุม หรือเรียนต่อ วัตถุประสงค์ของการเดินทางจะเป็นตัวกำหนดประเภทของประกันที่เหมาะสม เช่น หากเดินทางเพื่อเรียนระยะยาว ควรเลือกแผนที่มีความคุ้มครองโรคภัยไข้เจ็บและการรักษาต่อเนื่อง หากเป็นการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมผาดโผน อาจต้องมองหาแผนที่ครอบคลุมอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากกิจกรรมเหล่านั้นโดยเฉพาะ
2. ตรวจสอบระยะเวลาความคุ้มครอง
ประกันการเดินทางแต่ละแบบมีระยะเวลาคุ้มครองที่ต่างกัน บางฉบับคุ้มครองเฉพาะระหว่างการเดินทางเท่านั้น ขณะที่บางฉบับคุ้มครองตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนถึงเดินทางกลับประเทศไทย ผู้เดินทางควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่าแผนประกันที่เลือกครอบคลุมตลอดทริปหรือไม่ และระยะเวลาคุ้มครองตรงกับแผนการเดินทางของตนหรือเปล่า โดยเฉพาะการเดินทางต่อเครื่อง หรือแวะเปลี่ยนประเทศที่อาจใช้เวลาหลายวัน
3. พิจารณาความคุ้มครองหลักให้ละเอียด
สิ่งที่ควรตรวจสอบในประกันการเดินทางคือรายละเอียดของความคุ้มครอง เช่น
ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ
การเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉิน
การสูญหายหรือเสียหายของกระเป๋าเดินทาง
ความล่าช้าของเที่ยวบิน
การยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง
การอพยพฉุกเฉินกลับประเทศ
หากเดินทางกับครอบครัว ควรดูด้วยว่าแผนประกันครอบคลุมคู่สมรสหรือบุตรด้วยหรือไม่ โดยความคุ้มครองที่เพียงพอจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน
4. เปรียบเทียบแผนจากหลายบริษัท
ไม่ควรเลือกซื้อประกันการเดินทางจากบริษัทแรกที่พบ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขและราคาจากหลายบริษัทประกัน เพื่อดูว่าแผนไหนคุ้มค่าที่สุด บางบริษัทอาจมีโปรโมชั่น หรือเงื่อนไขพิเศษ เช่น คืนเงินหากไม่มีการเคลม หรือมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นประโยชน์เพิ่มเติมที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วย
5. อ่านข้อยกเว้นและเงื่อนไขอย่างรอบคอบ
แม้ประกันการเดินทางจะมีความคุ้มครองครอบคลุมหลายกรณี แต่ก็มีข้อยกเว้นที่ไม่อยู่ในขอบเขตการรับผิดชอบ เช่น การบาดเจ็บจากกิจกรรมเสี่ยง การเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังที่มีอยู่เดิม หรือเหตุการณ์ที่เกิดจากความประมาทของผู้เอาประกันเอง ดังนั้นควรอ่านเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์หรือเงื่อนไขให้เข้าใจชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในภายหลัง
การเลือกประกันการเดินทางที่เหมาะสมไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากคุณมีแนวทางในการพิจารณาอย่างเป็นขั้นตอน ประกันการเดินทางที่ดีจะช่วยให้คุณอุ่นใจในทุกทริปไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก็ตาม โดยเริ่มจากการรู้จุดประสงค์การเดินทาง ตรวจสอบความคุ้มครอง เปรียบเทียบแผน และอ่านเงื่อนไขให้ครบถ้วน หากคุณใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ ก็จะสามารถเลือกประกันการเดินทางที่ตอบโจทย์ได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าในระยะยาว