“ผลงานชิ้นแรก”
ถอยกรูดมาทันทีหลัง “เจ๊เดือน” มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ขอเลื่อนวาระการประชุมสภาฯ เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ กม.กาสิโนออกไปก่อน
โดยแก้เกี้ยวอ้างขอไปรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม ทั้งที่ช่วงปิดสมัยประชุมคนเพื่อไทยยืนยันว่าประชาชนเห็นด้วยเกิน 100% เพราะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประเทศ
แต่คนการเมืองต่างรู้ว่าสาเหตุที่กฎหมายกาสิโนเดินต่อไม่ได้ เพราะบรรยากาศการเมืองของรัฐบาลในตอนนี้ ที่กำลังเจอข้อหาด้วยคำถาม “ขายชาติ” หลังเกิดคลิปเสียงที่นายกฯไทยแสดงการอ่อนด้อย และต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
แถมนายกฯ ไทยยังพูดจาลบหลู่แม่ทัพภาค 2 สร้างความหวาดระแวงและแตกแยกให้คนไทย
ฉะนั้น หากดันต่ออาจเจอแรงต้านจากม็อบ เข้ามาผสมโรง ยกระดับการชุมนุม ขยายตัว ขยายวงให้จุดติดได้ สอดรับกับผลของนิด้าโพลที่บอกว่าประชาชนส่วนใหญ่ 56.72% ไม่เห็นด้วยให้มีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีบ่อนกาสิโนอยู่ด้วย
และ เหตุผลสำคัญที่สุด คงหนีไม่พ้นเสถียรภาพของรัฐบาลไม่เหมือนเดิม จากที่เข้มแข็ง 330 เสียง แต่เพื่อสนองความต้องการ “นายใหญ่” ริบกระทรวงมหาดไทย ยอมให้รัฐบาลเหลือ 261 เสียง กลายเป็นเสียงปริ่มน้ำ
มีเสียง สส.เกินกึ่งหนึ่งประมาณ 13 เสียง สุ่มเสี่ยงที่จะแพ้โหวตในสภาสูง ถ้าหาก สส.ฝ่ายรัฐบาลป่วย หรือลา หรือไม่อยู่ในห้องประชุม รวมถึงท่าทีของพรรคประชาชาติที่ก่อนหน้าเคยออกแถลงการณ์ประกาศไม่เอากาสิโน เพราะขัดต่อหลักศาสนา รวมถึงความไม่มั่นใจว่าจะมีฝ่ายค้านในรัฐบาลอยากแผลงฤทธิ์ตบหน้านายใหญ่หรือไม่
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ในทางการเมือง “พรรคภูมิใจไทย” จึงได้เครดิตไปเต็มๆ หลัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคสีน้ำเงินประกาศเป็นฝ่ายค้าน และไม่สนับสนุนกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ทำให้ “กาสิโน” ล่มทันที
นี่คือผลงานชิ้นแรกของ ภท.หลังการถอนตัวออกจากรัฐบาล และหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีอะไรเด็ดๆ ออกมาอีกเพียบ.
ช่างสงสัย