เปิดเอกสาร MFC เมีย พีระพันธุ์ โอนหุ้นไม่สำเร็จ ส่อขาดคุณสมบัติ รมต.
สถานการณ์ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก ภายหลังมีการเปิดเผยเอกสารจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (MFC) ซึ่งระบุอย่างชัดเจนว่า การโอนหุ้นของภริยา“นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค” ไปยัง MFC ไม่สำเร็จตามกฎหมาย และ MFC ได้เพิกถอนสัญญาโอนหุ้นทั้งหมดอย่างเป็นทางการแล้ว
เอกสารระบุว่า นางสุนงค์ ยังคงถือหุ้นในบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด จำนวน 21.68% ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 187 ที่กำหนดชัดเจนว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทใด ๆ และข้อกำหนดดังกล่าวให้ใช้กับคู่สมรสของรัฐมนตรีด้วย เพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์และการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
การที่ นางสุนงค์ พยายามโอนหุ้นดังกล่าวให้ MFC จัดการแทนตัวเอง ผ่านสัญญา 2 ฉบับ ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2566 และ 4 กันยายน 2567 ในช่วงที่ นายพีระพันธุ์ ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นความพยายามหลีกเลี่ยงข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ แต่กลับล้มเหลวเนื่องจากติดข้อบังคับภายในของบริษัทเอง
ข้อบังคับข้อ 6 ของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ระบุว่า “ห้ามมิให้โอนหุ้นให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่จะโอนให้ผู้ถือหุ้นเดิม หรือ ทายาทผู้ถือหุ้นเดิม” ซึ่ง นางสุนงค์ ในฐานะผู้ถือหุ้นเดิม ย่อมทราบข้อบังคับนี้เป็นอย่างดี แต่กลับฝ่าฝืนด้วยการทำสัญญาโอนหุ้นให้ MFC โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากบริษัท
ต่อมา เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ได้ทำหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ MFC ว่า “ไม่สามารถจดแจ้งการโอนหุ้นได้” เนื่องจากขัดต่อข้อบังคับของบริษัทเอง ทำให้การโอนหุ้นถือเป็นโมฆะ
แต่สิ่งที่ยิ่งตอกย้ำสถานะผู้ถือหุ้นของ นางสุนงค์ คือ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เธอได้เข้าร่วมประชุมและใช้สิทธิในฐานะ “ผู้ถือหุ้น” เต็มรูปแบบ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เธอยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าของหุ้นของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 บริษัท MFC ได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาการโอนหุ้นทั้ง 2 ฉบับ พร้อมทั้งเพิกถอนการรับโอนหุ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2566 เสมือนไม่เคยมีการโอนหุ้นเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมจะรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป
ประเด็นที่ตามมา คือ การที่ นางสุนงค์ ยังถือหุ้นเกินกว่า 5% ขัดต่อเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ และถือเป็นการขาดคุณสมบัติของรัฐมนตรีตามมาตรา 187 โดยชัดแจ้ง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัว นายพีระพันธุ์ ที่ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน
ทั้งนี้ มาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ระบุไว้ว่า
“รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทใด ๆ และข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรีด้วย”
และ
“ห้ามรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหรือการควบคุมหุ้นในบริษัทในทุกกรณี”
ในกรณีนี้ แม้พยายามใช้การโอนหุ้นให้ MFC เพื่อบริหารแทน แต่เมื่อการโอนเป็นโมฆะ และมีการใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นของ นางสุนงค์ อย่างต่อเนื่อง ย่อมเท่ากับไม่มีการหลุดพ้นจากการถือหุ้น ส่งผลให้ นายพีระพันธุ์ อาจต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติทันที
ปัจจุบันมีความเคลื่อนไหวจากหลายฝ่ายยื่นให้ ป.ป.ช. และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกรณีนี้โดยเร็ว เนื่องจากถือเป็นกรณีตัวอย่างของการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และการอาจฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงของบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง