ผัก 5 ชนิดนี้ ห้ามแช่แข็งเด็ดขาด แม่บ้านมาบอกเองให้เลี่ยงดีกว่า
“ผัก 5 ชนิดนี้ ห้ามแช่แข็ง” การแช่แข็งเป็นวิธีมหัศจรรย์ที่ช่วยถนอมอาหารได้นาน แต่ไม่ใช่ผักทุกชนิดจะเหมาะกับการแช่แข็ง โดยเฉพาะผักที่มีปริมาณน้ำสูง เพราะเมื่อน้ำแข็งตัว ผลึกน้ำแข็งจะไปทำลายเซลล์ของผัก ทำให้เนื้อสัมผัสเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พอละลายแล้วก็จะ "เละ" ไม่น่ากินเหมือนเดิม
ผัก 5 ชนิดนี้ ห้ามแช่แข็งเด็ดขาด แม่บ้านมาบอกเองให้เลี่ยงดีกว่า อยากรู้ไหมว่ามีผักชนิดไหนบ้างที่คุณควรหลีกเลี่ยงการแช่แข็ง? มาดูกันเลย
1. แตงกวา
แตงกวาประกอบด้วยน้ำมากกว่า 90% เมื่อนำไปแช่แข็ง ผลึกน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจะไปทำลายผนังเซลล์ของแตงกวาจนหมดสิ้น พอละลายน้ำแข็ง คุณจะได้แตงกวาที่เละเป็นน้ำ และสูญเสียความกรอบสดไปอย่างสิ้นเชิง เหมาะกับการกินสดๆ มากกว่านำไปแช่แข็ง
2. ผักกาดหอม (และผักสลัดทุกชนิด)
ผักตระกูลผักกาดหอม รวมถึงผักใบเขียวสำหรับทำสลัดอื่นๆ เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค หรือผักกาดแก้ว ก็มีปริมาณน้ำสูงและมีเนื้อสัมผัสที่บอบบางมาก การแช่แข็งจะทำให้ผักเหล่านี้สูญเสียความกรอบ พอละลายออกมาก็จะกลายเป็นผักที่นิ่ม เหี่ยว และไม่น่ารับประทานอีกต่อไป
3. คื่นช่าย / เซเลอรี่
แม้คื่นช่ายจะดูแข็งแรง แต่จริงๆ แล้วมันมีปริมาณน้ำสูงเช่นกัน และเนื้อสัมผัสก็ค่อนข้างเปราะบาง เมื่อผ่านการแช่แข็งและละลายน้ำแข็ง คื่นช่ายจะสูญเสียความกรอบ และกลายเป็นเส้นใยที่นิ่มเละ ไม่เหมาะกับการนำไปทำอาหารที่ต้องการความกรอบหรือเคี้ยวได้อีกแล้ว
4. หัวหอมใหญ่
หัวหอมใหญ่เมื่อนำไปแช่แข็งแล้ว พอละลายออกมาจะกลายเป็นหอมที่นิ่มเละและมีกลิ่นฉุนที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป ไม่เหมาะกับการนำไปประกอบอาหารที่ต้องการความกรอบหรือเนื้อสัมผัสที่คงรูปอยู่
5. มันฝรั่ง (ดิบ)
หากนำมันฝรั่งดิบไปแช่แข็งโดยตรง มันจะเปลี่ยนสภาพเป็นก้อนแป้งที่เละและมีรสชาติแปลกไปหลังจากละลายน้ำแข็ง ถ้าคุณต้องการเก็บมันฝรั่งจริงๆ ควรนำไปต้ม บด หรือทอดให้สุกก่อนแล้วค่อยแช่แข็ง จะช่วยรักษาคุณภาพไว้ได้ดีกว่า
สรุปง่ายๆ: ผักที่เหมาะกับการแช่แข็งมักจะเป็นผักที่มีเนื้อแน่น มีปริมาณแป้งหรือเส้นใยสูง และต้องผ่านการลวก (Blanching) ก่อนเสมอ เพื่อคงคุณภาพและรสชาติไว้ แต่สำหรับ 5 ชนิดที่กล่าวมานี้ ทางที่ดีที่สุดคือซื้อมาแล้วใช้ให้หมด หรือเก็บในช่องแช่เย็นธรรมดาตามเทคนิคที่เหมาะสมจะดีที่สุด