โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ดูดวง

คึกฤทธิ์ชีวิตไทย (31)

สยามรัฐ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ลีลาชีวิต / ทวี สุรฤทธิกุล

คนไทยเน้นเรื่องหน้าตา แต่ส่วนมากเพื่ออวดร่ำรวยหรือวาสนาบารมี แต่บางคนกลับต้องการยืนยันศักดิ์ศรีของความเป็นไทย กับความถูกต้องในทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

บ้านไทยของท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้รับคำยกย่องว่าเป็นหมู่เรือนไทยที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรม ที่หมายถึงการประกอบก่อสร้างขึ้นตามรูปแบบไทยเดิมอย่างสวยงามแล้ว ยังมีการจัดองค์ประกอบอื่น ๆ จนทำให้ความสวยงามตามแบบไทยนั้นสวยสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายในหรือการจัดสวนภายนอก รวมถึงสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่จะทำให้ “ความเป็นไทย” นั้นสวยสมบูรณ์ไปให้สุด ๆ

คนที่เคยไปเยี่ยมชมบ้านไทยในซอยสวนพลูของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ สิ่งแรกที่สะดุดตาเป็นที่สุดในทันทีที่เดินเข้าประตูด้านหน้าบ้านก็คือ “ศาลาไทย” หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านขวามือ เชื่อมโยงด้วย “สวนไทย” ที่มีกำแพงศิลาแลงเป็นกรอบสวน มีสระบัวเชื่อมแนวสวนไปยังเรือนรับแขกของหมู่เรือนไทย ในสวนนี้มีกระถางไม้ดัดแบบโบราณจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ประดับเป็นจังหวะด้วยรูปปั้นและรูปแกะสลักหินทั้งแบบไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างงดงาม ซึ่งศาลาไทยหลังนี้มีประวัติที่น่าสนใจ จึงน่านำมาเล่าไว้ในที่นี้เพื่อให้ทราบถึง “จิตวิญญาณแห่งความเป็นไทย” ที่เจ้าของบ้านหลังนี้มีอยู่อย่างเปี่ยมล้น

ศาลาไทยหลังนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2511 ถึง 2512 ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เล่าให้ฟังว่า สร้างขึ้นเพื่อให้เป็น “ต้นแบบ” ทางประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมไทยในสมัยสุโขทัย อันเป็นยุคแรกของชาติไทย ซึ่งท่านเองก็ไม่ได้คิดที่จะมีศาลาไทยหลังใหญ่แบบนี้มาตั้งอยู่หน้าบ้านมาตั้งแต่แรก แต่พอสร้างขึ้นแล้วก็สวยงามสมบูรณ์อย่างลงตัว เกิดผลพอได้ให้เจ้าของบ้าน “มีหน้ามีตา” ขึ้นพอสมควร นั่นก็คือคำชื่นชมของผู้ที่มาเยี่ยมเยือนบ้านนี้ ที่เมื่อทราบประวัติและเรื่องราวความเป็นมาแล้วก็ชื่นชมและสรรเสริญเจ้าของบ้านไปด้วย

ตอนนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์มีตำแหน่งทางธุรกิจเป็นประธานบริษัทภูมิภวันจำกัด เจ้าของคือนายเล็งเลิศ ใบหยก ซึ่งเป็นคนที่เคารพรักท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เป็นอย่างมาก บริษัทภูมิภวันฯเป็นผู้ก่อสร้างโรงแรมอินทรากับศูนย์การค้าประตูน้ำในยุคแรก และต่อมาก็สร้างตึกใบหยก 1 และ 2 ที่ได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดของประเทศไทยในสมัยก่อน นายเล็งเลิศจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาย่านประตูน้ำ ครั้นพอสร้างโรงแรมอินทราเสร็จแล้ว นายเล็งเลิศก็มาปรึกษาท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ว่าอยากได้สถานที่จัดเลี้ยงบนดาดฟ้าชั้น 4 ของโรงแรมเป็นศาลาแบบไทย ๆ รวมถึงให้มีสวนแบบไทย ๆ ที่จะสื่อถึงความเป็นไทยให้แขกของโรงแรมได้ตื่นตาตื่นใจและประทับใจ

ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์บอกนายเล็งเลิศว่า ประเทศไทยนั้นเริ่มต้นที่อาณาจักรสุโขทัย ที่มีความหมายว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข” ถ้าได้สร้างศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยแบบสุโขทัยขึ้นที่โรงแรมอินทราก็จะสื่อความหมายของยุคแห่งการเริ่มต้นของอารยธรรมไทยนั้นด้วย นายเล็งเลิศก็เห็นด้วย ครั้นไปบอกสถาปนิกให้ร่างแบบออกมาแล้วเอามาให้ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ดู ท่านก็บอกว่ายังไม่ใช่ ท่านจึงให้พาสถาปนิกและคุณเล็งเลิศด้วยนั้นเดินทางไปยังสุโขทัยที่อุทยานประวัติศาสตร์หรือเมืองเก่าสุโขทัย และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ก็ให้ก่อสร้างศาลาไทยนั้นขึ้นที่บ้านในซอยสวนพลูของท่าน เพื่อเป็น “โมเดล” หรือ “แบบตัวอย่าง” เมื่อเวลาที่ไปสร้างบนโรงแรมอินทราจะได้เรียบร้อยสวยงามอย่างที่ต้องการและ “ถูกต้อง”

ศาลาไทยที่โรงแรมอินทรายังคงตั้งอยู่อย่างสง่างามมาจนถึงทุกวันนี้ ดูเผิน ๆ จะคล้าย ๆ กันกับศาลาไทยที่บ้านซอยสวนพลูของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์มาก เพียงแต่ของโรงแรมอินทราจะใหญ่กว่าพอสมควร และไม่ใช่ศาลาโถงหรือเปิดผนังโล่งแบบที่บ้านซอยสวนพลู ซึ่งถ้าเอากระจกกันแสงแดดไปใส่เข้าที่ศาลาไทยในบ้านซอยสวนพลูก็จะดูเหมือนศาลาไทยที่โรงแรมอินทรา อย่างกับเป็นคู่แฝดพี่น้องกัน อนึ่ง ที่โรงแรมอินทราตรงทางเข้าไปลานดาดฟ้าชั้น 4 ที่จะเดินเข้าไปสู่ศาลา “สุโขทัย” หลังใหญ่นั้น จะมีประติมากรรมเป็นแผ่นหินแกะสลักตั้งต้อนรับอยู่ข้างหน้า สลักเป็นคำว่า “เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสังเหตุง ตะถาคะโต” ประดับไว้ คำนี้ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์บอกว่าเป็น “หัวใจพระพุทธศาสนา” แปลเป็นไทยว่า “ธรรม(สรรพสิ่ง)ทั้งหลายย่อมมีมาแต่เหตุ” ซึ่งท่านก็แนะนำให้นายเล็งเลิศไปบอกให้ประติมากรสร้างขึ้น ก็เพื่อให้เข้าคู่กันกับศาลายุคสุโขทัยที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นชาติไทย นั่นก็คือคาถา “เย ธัมมาฯ” ก็คือจุดเริ่มต้นของศาสนาพุทธ อันเป็นศาสนาประจำชาติไทย ที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยนั้นด้วย

สำหรับศาลา “สุโขทัย” ที่บ้านซอยสวนพลู เมื่อสร้างขึ้นแล้วก็มีการประดับตกแต่งภายในให้สวยงามยิ่งขึ้น ที่เป็นจุดเด่นสะดุดตาอีกส่วนหนึ่งก็คือ เมื่อมานั่งภายในศาลาแล้วเงยหน้าขึ้นไปที่เพดานข้างบน ตรงแนวแผ่นกระดานที่เชื่อมหลังคาสองระดับเข้าด้วยกันทั้ง 4 ด้าน จะมีภาพวาดแบบ “ไทยประเพณี” หรือภาพวาดแบบไทยโบราณที่เขียนตามวัดเก่า ๆ ประดับอยู่จนเต็ม ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เล่าว่า ตอนนั้นท่านมีลูกศิษย์เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปากรอยู่กลุ่มหนึ่ง (คนหนึ่งต่อมาได้เป็นบรรณาธิการสยามรัฐ คือนายจัตวา กลิ่นสุนทร) ได้มาอาสาที่จะเขียนภาพให้กับศาลาไทยหลังนี้ ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะวาดไปก็ “เลี้ยงดู” กันไป ส่วนหนึ่งก็ “เฮฮา” ตามประสาคนหนุ่ม และบางส่วนก็ “มึนเมา” ตามประสาความห้าว ๆ ของคนในวัยนั้น แต่ผลงานก็ออกมาสวยงามเป็นที่พอใจของเจ้าของบ้านเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีจิตรกรใหญ่ที่รักและเคารพท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เป็นอย่างมากอีกคนหนึ่ง คือนายถวัลย์ ดัชนี ได้มาเยี่ยมบ้านซอยสวนพลูและได้มานั่งชมศาลาไทยหลังนี้ ก็เกิด “แรงบันดาลใจ” กลับไปวาดตู้พระธรรมเลียนแบบตู้พระธรรมลายรดน้ำโบราณขึ้นใบหนึ่ง แล้วนำมามอบให้ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เป็นสิ่งระลึกถึงความเคารพรักอย่างยิ่งนั้น (อย่าลืมว่า “ค่าฝีมือ” ของนายถวัลย์แต่ละภาพมีราคานับล้าน ๆ บาท ตู้พระธรรมที่มีผลงานของนายถวัลย์ใบนี้ถ้าจะตีราคาในยุคนั้นก็น่าจะเป็นสิบ ๆ ล้านบาทขึ้นไป แต่นายถวัลย์มอบให้ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ “ฟรี ๆ”) ตู้พระธรรมนี้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับไตรภูมิในแนวคิดไทยโบราณ เป็นลวดลายแบบไทยประเพณี แต่เส้นสายและไอเดียเป็นแบบ “ถวัลย์ ดัชนี” ที่ตื่นตาและอลังการ์ ดูแล้วก็ทำให้เกิด “พลังธรรม” ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งท่านอาจารย์คึกฤทธิ์บอกว่าคนหนุ่ม ๆ ก็อาจจะเกิดพลังเหมือนกัน แต่เป็น “พลังธรรมชาติ” (ฮ่า ๆ) ท่านว่าอย่างนั้น

ตอนที่ผู้เขียนทำงานเป็นเลขานุการของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์อยู่ที่บ้านซอยสวนพลู ในช่วง พ.ศ. 2520 - 2532 ได้เคยช่วยท่านเจ้าของบ้านต้อนรับแขกคนสำคัญต่าง ๆ หลายคน ทุกคนที่มาจะต้องได้รับการนำชมบ้านหลังนี้อย่างครบถ้วนทุกซอกทุกมุม โดยตัวเจ้าของบ้านเองเป็นผู้นำชม ซึ่งก็คงจะเป็นด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจของเจ้าของบ้าน ที่อยากจะ “อวด” ของดีในความเป็นไทยที่ท่านได้สร้างขึ้นและรักษาไว้ แต่ที่ผู้เขียนสังเกตได้อย่างชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านอยากจะสื่อถึง “ความเป็นไทยแท้” ที่ท่านคิดว่าเป็นความสามารถเป็นอย่างยิ่งของคนไทยมาตั้งแต่อดีต นั่นก็คือ “ความสามารถในการปรับตัว”

ท่านบอกแก่แขกวีไอพีว่า ทุกวันนี้มีคนไทยเพียงส่วนน้อยที่อยู่บ้านไทยและใช้ชีวิตแบบไทย ๆ เหมือนท่าน และแม้แต่ตัวท่านเองก็ยังต้องพยายามปรับเปลี่ยนความเป็นไทยเหล่านั้นให้เข้ากับยุคสมัยและพัฒนาไปตามสภาพแวดล้อมของสังคมที่เปลี่ยนไป ท่านเห็นด้วยกับนักปราชญ์บางคนที่เปรียบเทียบว่า คนไทยนั้นเหมือนน้ำ ย่อมเคลื่อนที่ไหลไปตามธรรมชาติ ผ่านโตรกธารซอกแคบก็ฝ่าฟันไหลลอดไป เมื่อถึงเวิ้งกว้างก็แผ่ตัวขยายจนเต็มออกไป น้ำนั้นย่อมสะท้อนสีท้องฟ้าอยู่เสมอ แต่เมื่อตักขึ้นมาดูก็ยังใสสะอาดดั้งเดิม

คนไทยสามารถปรับตัวได้มาทุกยุคทุกสมัย กับคนทุกชาติทุกสถานการณ์ และยังคง “อยู่เย็นเป็นสุข” เรื่อยมา

ดูข่าวต้นฉบับ

ดูดวงออนไลน์ กับ LINE ดูดวง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ตะกั่วทุ่งลุยปราบยาเสพติด บุก 4 เป้าหมาย รวบผู้ต้องหา 5 ราย ยึดยาบ้า-กระสุนปืน

11 นาทีที่แล้ว

เปิดพาวิลเลียนสตาร์ทอัพ-ดึงทุนสุขภาพ Thailand LAB INTERNATIONAL 2025 เชื่อมวิจัยสู่ตลาดระดับเอเชีย

14 นาทีที่แล้ว

กห. ยืนยันจีน-สหรัฐฯ ร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC วันสุดท้าย ไม่กระทบหลักการหารือทวิภาคีไทย-กัมพูชา

28 นาทีที่แล้ว

ระทึก! ไล่ล่าแก๊งอุ้มสาววัย 18 จากตรัง หวังรีดหนี้แทนสามี 3 แสน ช่วยได้ทันที่สตูล

34 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความดูดวงอื่น ๆ

Pick A Card ดวงรายสัปดาห์ วันที่ 3-9 สิงหาคม 2568

Horoworld

ดวงรายสัปดาห์ 12 ราศีวันที่ 3 - 9 สิงหาคม 2568 อ.พราหมณ์ ศตวรรษ BY Horoworld

Horoworld

โหรรัตนโกสินทร์ ทักแรง 3 นักษัตร สุดเฮง เศรษฐีใหม่ เดือนสิงหาคม 2568

สยามนิวส์

ภาพรวมของคนที่เกิดถึง 7 วันในช่วงเดือนสิงหาคม by อ.สุวภัทร โหราพยากรณ์

ดวง Live

สารจากฟ้า… สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้คุณรู้" เสียงจากพลังงานเบื้องบน ผ่านไพ่และบุญเสริมดวงเดือนสิงหาคม by MADAM ROSE

ดวง Live

เตรียมพลิกดินสู่ดาว 6 ราศี โชคชะตาพารวย

ดวง D

เปิดดวง "12 ลัคนา" 1-15 ส.ค. 68 โหรดัง ลั่นตรง ๆ มีทั้ง ปัง และ ร่วง

TNews

คำเตือนประจำสัปดาห์ 4-10 ส.ค. 68 by ภูริดา

ดวง Live

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...