คมนาคมสั่งเข้ม ห้ามรถโดยสาร 2 ชั้น วิ่ง "กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว"
คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ภายใต้การนำของ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มีมติสำคัญเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขนส่งสาธารณะ
โดยมีคำสั่ง ห้ามรถโดยสารสองชั้น (มาตรฐาน 4) เดินรถบนทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว อย่างเด็ดขาด
เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงสูงและมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัวและเตรียมความพร้อม คณะกรรมการฯ ได้มีมติ ผ่อนปรนการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวกับอีก 6 เส้นทางเสี่ยง
เป็นระยะเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
6 เส้นทางผ่อนปรน และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
สำหรับผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นที่ต้องการเดินรถใน 6 เส้นทางที่ได้รับการผ่อนปรนชั่วคราว
จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร:
1. การตรวจสภาพรถ (Recall): รถโดยสารสองชั้นทุกคันจะต้องเข้ารับการตรวจสภาพ ณ กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
โดยเน้นการตรวจสอบความพร้อมในการใช้งานของตัวรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบห้ามล้อเพิ่มเติม (ระบบลมเบรก) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับขี่บนเส้นทางลาดชัน
2. อบรมพนักงานขับรถ: พนักงานขับรถทุกคนต้องเข้ารับการอบรมผ่านระบบ e-learning เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ใน หลักสูตร“การขับรถขนาดใหญ่บนเส้นทางลาดชัน” เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะที่จำเป็นในการรับมือกับเส้นทางที่มีความท้าทาย
3. จำกัดความเร็วตามกฎหมาย: ผู้ประกอบการต้องกำชับพนักงานขับรถให้ ปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็ว ที่กำหนดบนถนนอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
เส้นทางที่ได้รับการผ่อนปรนทั้ง 6 เส้นทาง ได้แก่:
- ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า - พัทลุง
- ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ - แม่ตีบ
- ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่ - ดอยนางแก้ว
- ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์ - โคกงาม
- ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ - อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
- ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว – อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
การประเมินผลและพัฒนาระบบเพื่อความปลอดภัยที่ยั่งยืน
กรมการขนส่งทางบกจะทำการประเมินผลของมาตรการที่ปรับปรุงใหม่นี้อย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนาระบบ GPS ที่สามารถสื่อสารสองทาง (Two-way Communication)
เพื่อนำมาใช้ในการควบคุมและกำกับการเดินรถให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางสาธารณะของประเทศไทย