สลด! พบศพ ด.ช.วัย 4 ขวบ หลังหายตัวปริศนานานเกือบ 30 ชม.

สลด! พบศพ ด.ช.วัย 4 ขวบ หลังหายตัวปริศนานานเกือบ 30 ชม. คาดเล่นริมแม่น้ำก่อนพลัดตกน้ำ

(30 มิ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉลามภัย ทีมกู้ชีพสันติ และชาวบ้านในพื้นที่ ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ต่างเร่งระดมกำลังออกค้นหา ด.ช.แวยูนุส (สงวนนามสกุล) อายุ 4 ขวบ หลังจากหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ช่วงเช้าของ วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีรายงานการหายตัวของเด็กในเวลาประมาณ 10.00 น. ครอบครัวแจ้งว่าหลังจากออกไปเล่นนอกบ้าน เด็กชายรายนี้ก็ไม่กลับมาอีกเลย

ภายหลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เริ่มปูพรมค้นหาในพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะบริเวณชุมชนนอกค่าย ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำยะหริ่ง ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยง เนื่องจากเป็นพื้นที่เปิดโล่งติดริมน้ำ และมักเป็นจุดที่เด็กๆ ในชุมชนชอบไปเล่นกันเป็นประจำ

ในเช้าวันที่ 30 มิ.ย. หน่วยกู้ภัยได้ประสานงานกับหน่วยสนับสนุนต่างๆ นำอุปกรณ์ค้นหาใต้น้ำ อาทิ เครื่องสแกนโซนาร์ และชุดประดาน้ำ เข้าทำการค้นหาในแม่น้ำยะหริ่ง ซึ่งกินระยะเวลายาวนานกว่า 30 ชั่วโมงติดต่อกัน โดยมีครอบครัวและชาวบ้านร่วมเฝ้าติดตามด้วยความหวังว่าจะพบตัวเด็กปลอดภัย

กระทั่งเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตรวจสอบในจุดใกล้กองอำนวยการค้นหา ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 200 เมตร หนึ่งในทีมกู้ภัยได้สังเกตเห็นวัตถุปริศนาลอยอยู่บนผิวน้ำตืดกับอะไรบางอย่าง จึงเร่งเข้าไปตรวจสอบ และพบว่าเป็นร่างของ ด.ช.แวยูนุส ที่หายตัวไปแล้วอยู่ในสภาพไร้ชีวิต ลอยอยู่บนผิวน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของครอบครัวและชาวบ้านที่ยืนเฝ้ารอ

เจ้าหน้าที่ได้นำร่างขึ้นจากน้ำ และรีบนำส่งโรงพยาบาลยะหริ่งเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด โดยเบื้องต้นคาดว่าเด็กน่าจะจมน้ำเสียชีวิตจากการพลัดตกในขณะที่เล่นอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของเพื่อนบ้านบางรายที่ระบุว่าเห็นน้องไปเล่นกับเพื่อนๆ อีก 1-2 คนในช่วงเช้า

มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุเด็กชายผู้เสียชีวิตซึ่งก็เป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริง ได้ออกเล่นนอกบ้านกับเพื่อนๆ จากนั้นครอบครัวเห็นว่าเด็กชายไม่ได้กลับบ้าน ญาติ ชาวบ้านพยายามออกตามหา และสอบถามเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ได้เบาะแสที่แน่ชัด จนต้องแจ้งหน่วยงานให้ช่วยตามหา กระทั่งพบน้องกลายเป็นศพ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม และตรวจสอบสภาพศพอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัจจัยอื่นที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต และจะมีการสรุปผลการชันสูตรเพื่อประกอบสำนวนในภายหลัง

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสลดหดหู่แก่ชุมชนอย่างมาก หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีมาตรการดูแลพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำหรือแหล่งน้ำใกล้แหล่งชุมชน พร้อมรณรงค์ให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต