สิ่งที่ต้องรู้ นักท่องเที่ยวไปสหรัฐอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมากกว่า 8 พันบาท
รวมสิ่งที่ต้องรู้ ผู้เดินทางไปสหรัฐอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรวม 14,000 บาท สหรัฐมีเป้าหมายอะไรในการเก็บ จะเริ่มเมื่อไหร่ และขอเงินคืนได้อย่างไร
ผู้มาเยือนสหรัฐอเมริกาจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใหม่ Visa integrity fee ตามพระราชบัญญัติ One Big Beautiful Bill (OBBBA) หรือ “กฎหมายยิ่งใหญ่งดงาม” ของรัฐบาลประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะบังคับใช้กับทุกคนที่มีวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว ไม่ใช่ผู้อพยพ อย่างไรก็ตาม ผู้มาเยือนสามารถรับเงินคืนได้ตามข้อกำหนด
เดิมทีขั้นต่ำของค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,095 บาท ในช่วงงบประมาณปี 2025 ของสหรัฐ (1 ตุลาคม 2024 – 30 กันยายน 2025) อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมีอิสระที่จะกำหนดค่าธรรมเนียมที่สูงกว่านี้ จากนั้นค่าธรรมเนียมจะถูกปรับตามอัตราเงินเฟ้อ
เป้าหมายการเก็บค่าธรรมเนียม
ข้อมูลสำนักงานวิจัยรัฐสภาสหรัฐ ระบุว่า ในปีงบประมาณระหว่างปี 2019-2022 มีผู้มาเยือนที่ไม่ใช่ผู้อพยพระหว่าง 1%-2% ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกานานเกินกำหนดวีซ่า และประมาณ 42% ของประชากรที่ไม่ได้รับอนุญาตประมาณ 11 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้เข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย แต่อยู่นานเกินกำหนดระยะเวลาที่กำหนด
โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ กล่าวว่า ร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill ของทรัมป์ มอบนโยบายและทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อฟื้นฟูความซื่อสัตย์สุจริตในระบบตรวจคนเข้าเมืองของประเทศเรา
ใครบ้างที่ต้องจ่าย ?
สำหรับค่าธรรมเนียม Visa integrity fee จะถูกใช้กับผู้มาเยือนทุกคนที่ถือวีซ่าประเภทไม่ใช่ผู้อพยพ ซึ่งหมายรวมไปถึงจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อธุรกิจ และนักเรียนต่างชาติ โดยจะเรียกเก็บเมื่อได้รับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น คนที่ถูฏปฏิเสธในการขอวีซ่าจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมนี้
“สตีเวน เอ. บราวน์” หุ้นส่วนของสำนักงานกฎหมายด้านการย้ายถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮิวสตัน โพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า ค่าธรรมเนียมใหม่นี้ถูกเรียกเก็บเพิ่มเติมมาจากค่าธรรมเนียมวีซ่าเดิมที่มีอยู่แล้วอื่นๆ รวมถึงค่าธรรมเนียมวีซ่าตามปกติ ตัวอย่างเช่น แรงงานที่ถือวีซ่า H-1B เดิมที่ต้องจ่ายค่ายื่นวีซ่า 205 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 455 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,734 บาท เมื่อค่าธรรมเนียมมีผลบังคับใช้
นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องยื่นบันทึกการเดินทางขาเข้า-ขาออก ซึ่งก็คือผู้เดินทางส่วนใหญ่ ยังจะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าธรรมเนียม “ฟอร์ม I-94” จากเดิม 6 เป็น 24 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 777 บาท)
อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมนี้ไม่ใช้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงพลเมืองของประเทศที่อยู่ในโครงการยกเว้นวีซ่าของสหรัฐ รวมถึงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จากแคนาดาและเบอร์มิวดา
ปัจจุบันมี 42 ประเทศและรัฐอิสระที่อยู่ภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่าVisa Waiver ซึ่งหมายความว่าพลเมืองของประเทศเหล่านี้จะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม หากเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาสูงสุด 90 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ ขณะที่ประเทศอื่น รวมถึงไทยที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางไปสหรัฐจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ชำระ – รับเงินคืนได้อย่างไร ?
ส่วนการขอรับเงินคืน ผู้ถือวีซ่าต้องปฏิบัติตาม 2 เงื่อนไข คือไม่รับทำงานที่ไม่ได้รับอนุญาต และพำนักในสหรัฐไม่เกินวันที่วีซ่าหมดอายุเกิน 5 วัน และจะได้รับเงินคืนหลังจากวีซ่าเดินทางหมดอายุ แต่เนื่องจากว่าวีซ่ามีอายุใช้งานหลายปี สำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐ (CBO) จึงคาดการณ์ว่า “จะมีคนจำนวนไม่มากที่ขอรับเงินคืน”
ยิ่งไปกว่านั้น CBO คาดการณ์ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะต้องใช้เวลาหลายปีในการดำเนินกระบวนการคืนเงิน ด้วยเหตุนี้จึงประเมินว่าการบังคับใช้บทบัญญัตินี้จะช่วยเพิ่มรายได้และลดการขาดดุลงบประมาณลง 2.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2025-2034
บราวน์ กล่าวว่า เขาแนะนำให้ลูกค้าถือว่า ค่าธรรมเนียมนี้ไม่สามารถขอคืนได้
“ถ้าได้รับเงินคืนก็ดี แต่โดยปกติแล้วการขอเงินคืนจากรัฐบาลเป็นเรื่องยาก” เขากล่าว “ผมอยากให้พวกเขามองว่าเป็น ‘โบนัส’ ถ้าได้รับเงินคืน”
อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมยังไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ จึงยังไม่มีกำหนดว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ แต่คาดว่าจะเริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2568 ที่จะถึงนี้
“เชื่อว่าจำเป็นต้องมีกฎหรือประกาศในทะเบียนของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องนี้” บราวน์ กล่าว
เช่นเดียวกับสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐ ระบุว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า นักท่องเที่ยวจะต้องชำระค่าธรรมเนียมนี้อย่างไร
“ร่างกฎหมายกำหนดให้รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) เป็นผู้เรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่กระทรวงฯ ไม่ได้เป็นเจ้าของกระบวนการยื่นขอวีซ่า ออกวีซ่า หรือต่ออายุวีซ่า ดังนั้นกระทรวงฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมนี้ที่ไหนและเมื่อใด” โฆษกกล่าว
ทำให้ต้องมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนที่จะนำมาใช้จริง
ผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว
บราวน์กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือวีซ่าประเภท B หรือผู้มาเยือนที่เดินทางมาเพื่อพักผ่อนและเพื่อธุรกิจ รวมถึงนักศึกษาต่างชาติมากกว่าผู้มาเยือนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
ค่าธรรมเนียมใหม่นี้ บวกกับค่าธรรมเนียม “ฟอร์ม I-94” เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญหลายงานในปี 2026 รวมถึง “America 250” งานเฉลิมฉลองวันครบรอบก่อตั้งประเทศ 250 ปี และการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA
อุปสรรคเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากปัญหาของ Brand USA องค์กรการตลาดด้านการท่องเที่ยวสหรัฐ ซึ่งพระราชบัญญัติ One Big Beautiful Bill Act ได้หั่นเงินงบประมาณจาก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การตัดงบประมาณครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปลดสมาชิกคณะกรรมการของ Brand USA เกือบครึ่งหนึ่งในเดือนเมษายน
ก่อนที่กฎหมายฉบับใหม่จะผ่าน เจฟฟ์ ฟรีแมน ประธานสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐ กล่าวชื่นชมการมีส่วนร่วมของร่างกฎหมายนี้ต่อโครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมการจราจรทางอากาศ และความมั่นคงชายแดนของสหรัฐ
แต่เขาเสริมว่า “การลงทุนอย่างชาญฉลาดในขั้นตอนการท่องเที่ยว ทำให้ค่าธรรมเนียมใหม่ไม่สมเหตุสมผลสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการลดงบประมาณของ Brand USA ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของอเมริกายิ่งยากที่จะยอมรับ”
อ้างอิง CNBC และ Yahoo News
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สิ่งที่ต้องรู้ นักท่องเที่ยวไปสหรัฐอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมากกว่า 8 พันบาท
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net