“ฮุน เซน” ขยับ “ทักษิณ” ขยาด !
ประเด็นเก่า ยังไม่ทันได้เคลียร์คัท เสียงครวญปะกับความไม่พอใจ จาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเขาไม่เข้าใจทำไม คนไม่รักกัน และไปเชื่อ คนอย่าง “สมเด็จ ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปรากฏว่าล่าสุด “อดีตเพื่อนรัก” โพสต์ข้อความ “เขย่าขวัญ” ช่วงวันหยุด ระลอกใหม่ ซ้ำเข้าที่แผลเดิม
และยังเป็นแผลเก่าที่ ทักษิณ ยังไม่สามารถ “ทำความเข้าใจ” ให้กับประชาชน ได้อย่างกระจ่าง ด้วยซ้ำ ทั้งกรณีที่สมเด็จ ฮุน เซน แฉว่า เขารู้เรื่องการเมืองไทยตลอด รวมถึงยังเคยได้ “ข้อมูลลับทางราชการ” จากทักษิณ ในสมัยรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ด้วยซ้ำ
การขึ้นเวทีตอบคำถาม ในงาน“ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก” จัดโดย อสมท. เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ที่หวังจะฟาด สมเด็จ ฮุน เซน ว่า “ไม่มีจริยธรรม”
“ผู้นำเขมรไร้จริยธรรม แต่เรากลับไปเข้าข้าง ผมก็งงว่าวันนี้ ทำไมคนไทยไม่รักกัน ไม่มีผู้นำคนไหนในโลกเขาทำกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่เพิ่งหลุดจากพรรคร่วมรัฐบาล เลยไม่รู้ว่าตกลงว่า เขาเป็นเขมรหรือเป็นไทย” (17 ก.ค.68)
เมื่อความสัมพันธ์ สองตระกูลระหว่าง ทักษิณ กับ ฮุน เซน อยู่ในสภาพที่ต่างฝ่ายต่างขัดแย้งและแฉกันเอง เช่นนี้ ยังไปเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับปัญหาอธิปไตยของไทย มิหนำซ้ำยังลดทอนความเชื่อมั่นของรัฐบาลที่มี “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ ซึ่งเป็นผู้สานต่อความสัมพันธ์มาสู่ “รุ่นลูก” จนนำไปสู่คำร้องของ “38 สว.” ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบจริยธรรม ของผู้นำรัฐบาล ซึ่งคำร้องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ณ เวลานี้
ล้วนไม่ส่งผลดีต่อตัวทักษิณ พรรคเพื่อไทย มิหนำซ้ำยังทำให้ นายกฯแพทองธาร ถูกตั้งคำถามว่า ยืนอยู่ข้างเดียวกับ “กองทัพ” จริงหรือไม่ ล่าสุด ฮุน เซน โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุคเมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 ตอกหัวตะปูย้ำอีกว่า วันนี้ระหว่างทักษิณ กับฮุน เซน แท้จริงแล้วใครตกอยู่ในสถานะ “ลำบาก” มากกว่ากัน
โดย บางข้อความที่ ฮุน เซน โพสต์ตอบโต้ทักษิณ ล่าสุด คือ “ ผมอยากถามคุณว่า ถ้าผมขาดศีลธรรม ทำไมคุณถึงพึ่งพาผมมาตลอด 19 ปี ทำตามคำแนะนำของผม และยังเรียกผมว่า ผู้นำหมายเลข 1อีกด้วย”
และ “ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมไม่ได้กล่าวถึง รวมถึงการแต่งตั้งบุคคลในรัฐบาล ข้อกล่าวหาที่ว่าเขาครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นความจริง รวมถึงการหักหลังพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทั้งหมดเป็นความคิดของเขาเอง ไม่ใช่ของอุ๊งอิ๊ง”
สิ่งที่ฮุน เซน ออกมาแฉ “อดีตเพื่อนรัก” แม้ตัวทักษิณ เองพยายามทำให้เป็นเรื่อง “ไร้สาระ” ไม่ให้น้ำหนัก แต่ขณะเดียวกัน ทุกข้อกล่าวหา ทุกข้อมูลจากฝั่งกัมพูชา ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าทักษิณยังไม่มีคำตอบที่สามารถ “หักล้าง” เรียกความเชื่อมั่นได้เลย ด้วยซ้ำ !