สึกแล้ว อดีตรอง ผบ.ตร. ปมบุกอาคารย่านสีลม ก่อนแจ้งความกลับอดีตภรรยา ยักยอกทรัพย์

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

ตัวแทนบริษัท หอบเอกสารโฉนดที่ดิน 217 แปลงมอบคืนร้อยเวร สน.สมเด็จเจ้าพระยา หลัง “อดีตรอง ผบ.ตร.” แจ้งจับ “อดีตภรรยา” ข้อหายักยอกทรัพย์ ฝั่งอดีตภรรยาพร้อมเจรจาเรื่องจบ ล่าสุดมีรายงานว่า อดีตรอง ผบ.ตร. สึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ตร.จ่อออกหมายเรียกสอบ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา นายอัครวิชญ์ เนติพงษ์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเอกชน 2 แห่งได้เดินทางนำเอกสารโฉนดที่ดิน รวม 217 แปลง ส่งมอบให้กับ ร.ต.อ.อภิชาติ ปิ่นวัฒนา รอง สว.(สอบสวน) สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณี อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าแจ้งความอดีตภรรยากลับในข้อหายักยอกทรัพย์ เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.)
โดย นายอัครวิชญ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ อดีตรอง ผบ.ตร. บวชเป็นพระ ได้เข้าไปที่บริษัทที่อยู่ภายในอาคารย่านสีลม กทม. และบริษัทที่พัฒนานิคม จ.ชลบุรี โดย อดีตรอง ผบ.ตร. ได้หยิบเอาเอกสารส่วนตัวของบริษัท ที่เป็นเอกสารสำคัญ เช่น เช็ค, สมุดบัญชีธนาคาร รวมถึงสัญญาซื้อขายเกี่ยวกับที่ดิน และสัญญาโรงไฟฟ้า ซึ่งหยิบไปโดยพละการ แม้ว่าขณะนั้นจะมีพนักงานอยู่ แต่พนักงานก็ไม่กล้าจะทำอะไร เนื่องจากรู้ว่าเขาเป็นใคร ส่วนเขาจะเอาเอกสารไปทำอะไรนั้นตนก็ไม่ทราบ

ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ตนได้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนบริษัทไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางรัก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ในข้อหาบุกรุกและลักทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ได้ดำเนินการในเชิงรุก เพราะอยากให้พูดคุยเจรจาและนำเอกสารมาคืนกัน โดยสาเหตุที่ไปแจ้งความช้า เนื่องจากจะต้องตรวจสอบเอกสารว่าอดีตรอง ผบ.ตร. เอาเอกสารอะไรไปบ้าง หลังเกิดเหตุยังไม่ได้มีการพูดคุยกับอีกฝ่าย ส่วนอดีตภรรยาจะมีการพูดคุยด้วยหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องระหว่างของทั้งคู่
นายอัครวิชญ์ กล่าวอีกว่า ตำแหน่งของ อดีตรอง ผบ.ตร. ในบริษัทเป็นผู้ถือหุ้น เนื่องจากเป็นบริษัทมหาชน ใครก็สามารถถือหุ้นได้ แต่อำนาจบริหารอยู่ที่บอร์ดกรรมการ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยวกับเอกสารของบริษัท
เมื่อถามว่าก่อนที่จะหย่าร้างกับภรรยา อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นประธานของทั้ง 2 บริษัทนี้จริงหรือไม่ นายอัครวิชญ์ กล่าวว่า เขารับราชการ สามารถทำได้หรือไม่ เนื่องจากตอนที่หย่าร้างกันอยู่ช่วงปี 58 ขณะนั้นตัว อดีตรอง ผบ.ตร. ยังรับราชการตำรวจอยู่ ส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น ตนก็ไม่ทราบ

ส่วนวันนี้ที่ตนมา สน.สมเด็จเจ้าพระยา เนื่องจากทราบว่า อดีตรอง ผบ.ตร. มีการมาแจ้งความเอาผิดกับอดีตภรรยาไว้ ในข้อหายักยอกโฉนดที่ดิน 217 แปลง โดยโฉนดนี้อยู่ในตู้เซฟภายในบ้าน ซอยเจริญรัช 19 ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทครอบครัว กุญแจของตู้เซฟก็อยู่กับอดีตรอง ผบ.ตร. ตลอด โดยขณะที่อดีตรอง ผบ.ตร. บวช และบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่ จึงต้องนำเอกสารทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ ซึ่งอดีตรอง ผบ.ตร. ก็ไม่เคยแจ้งว่าต้องการโฉนด แต่กลับมาแจ้งความ และขอหมายค้นก่อนพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นที่บ้านย่านบางพลี (บ้านลูกน้อง) เมื่อวานนี้ แต่ก็ไม่เจอเอกสารเพราะว่าเอกสารกระจัดกระจายอยู่ ขอรางวัดที่กรมดินบ้าง ติดจำนองบ้านบ้าง แต่ตอนนี้สามารถรวบรวมได้แล้วจึงนำเอามาคืนให้ไว้กับร้อยเวรที่รับผิดชอบ ซึ่งโฉนดที่ดินนี้ไม่ใช่ชื่อของอดีตรอง ผบ.ตร. คนเดียว แต่มีชื่อลูกอยู่ด้วย
ทั้งนี้การแจ้งความของอดีตรอง ผบ.ตร. มองว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขา อย่างไรก็ตามฝ่ายของตนสามารถเจรจาจบลงได้หากฝั่งอดีตรอง ผบ.ตร. มีการเข้ามาพูดคุยกันทั้งสองฝ่าย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.68 นายอัครวิชญ์ เนติพงษ์ ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเอกชน 2 แห่งได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อแจ้งความดำเนินคดี อดีตรอง ผบ.ตร. ในความผิดฐาน "ลักทรัพย์, บุกรุก และความผิดอื่น" ที่ตรวจสอบพบในภายหลัง
โดย นายอัครวิชญ์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2568 อดีตรอง ผบ.ตร. ขณะบวชเป็นพระภิกษุ ได้บุกเข้าไปภายในบริษัทตั้งอยู่ภายในบริเวณอาคารย่าน ถ.สีลม และได้เอาทรัพย์สิน เป็นสมุดเช็คบัญชีเงินฝากเดินสะพัด ของบริษัทฯ จำนวน 3 รายการ มูลค่า 2,250 บาท จากนั้นได้เดินออกจากบริษัทดังกล่าวไป เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย นอกจากนี้เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2568 อดีตรอง ผบ.ตร. ได้บุกเข้าไปภายในบริษัท โดยหยิบเอาสมุดเช็คบัญชีเงินฝากเดินสะพัด ของผู้เสียหาย จำนวน 1 เล่ม ราคา 750 บาท และเอกสารของบริษัทฯ ในเครือ จำนวน 15 รายการ ทำให้ได้รับความเสียหายจึงมอบอำนาจให้ตัวแทนบริษัท เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนคดีถึงที่สุด และหากตรวจพบความเสียหายเพิ่มเติมจะมาให้การเพิ่มเติมในภายหลัง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงรับคำร้องทุกข์เลขที่ 981-982/68 ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาออกหมายเรียกให้อดีตรอง ผบ.ตร. ผู้ถูกกล่าวหามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับคดีนี้ บริษัทที่เป็นผู้ร้องทุกข์ ซึ่งเป็นบริษัทของอดีตภรรยาและลูกของอดีตรอง ผบ.ตร. ผู้ก่อเหตุ โดยมีปัญหาความขัดแย้งกันภายในครอบครัว จนกระทั่งมีการแจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่าย และอดีตรอง ผบ.ตร. คนดังกล่าวได้ลาสิกขา (สึก) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สึกแล้ว อดีตรอง ผบ.ตร. ปมบุกอาคารย่านสีลม ก่อนแจ้งความกลับอดีตภรรยา ยักยอกทรัพย์