DUSIT ร่วง 6% นักลงทุนแพนิก ข่าวถอดถอน “ชนินทธ์ โทณวณิก” พ้นบอร์ดบริษัท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (27 ส.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ณ เวลา 10:46 น. อยู่ที่ระดับ 9.00 บาท ลบ 0.55 บาท หรือ 5.76% สูงสุดที่ระดับ 9.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 805,000 บาท
สำหรับราคาหุ้นมีแรงเทขายออกมาเป้นการแพนิก หลังบมจ.ดุสิตธานี เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพียงรูปแบบเดียว โดยกำหนด Record Date ในวันที่ 10 กันยายน 2568
สำหรับการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นตามสิทธิของผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีวาระสำคัญ อาทิ รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568,พิจารณาอนุมัติงบการเงินปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567 ,พิจารณาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการ รวมถึงการถอดถอนและแต่งตั้งกรรมการใหม่ โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ และพิจารณาเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ และมอบอำนาจในการดำเนินการจดทะเบียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามมีวาระที่ 3 ถือเป้นวาระสำคัญ เรื่องพิจารณาอนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท โดยคณะกรรมการบริษัทดำเนินการนำเสนอวาระดังกล่าวเพื่อพิจารณาต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ตามบทบัญญัติของมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) เนื่องจากบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ได้มีหนังสือถึงคณะกรรมการบริษัทให้เรียกและจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และเสนอวาระดังกล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการซึ่งไม่รวมกรรมการที่มีส่วนได้เสีย (ได้แก่ นายชนินทธ์ โทณวณิก และนางสินี เธียรประสิทธิ์) มีความเห็นเพิ่มเติมว่า ผู้ถือหุ้นควรใช้วิจารณญาณในการพิจารณาในวาระถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก เนื่องจากคุณสมบัติของกรรมการบริษัทควรสอดคล้องกับธุรกิจหลักของดุสิต คือ ด้านโรงแรมและอาหาร ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีผู้นำที่มีความเข้าใจในธุรกิจและการปฏิบัติการอย่างลึกซึ้ง รวมถึงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะดำเนินธุรกิจที่ตนสร้างขึ้นมาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
นายชนินทธ์ โทณวณิก เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจโรงแรมและอาหารมาอย่างยาวนาน และเป็นทายาทคนโตของผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี เป็นผู้ที่ทราบและเข้าใจความเป็นมาของโรงแรมเป็นอย่างดี เป็นบุคคลสัญลักษณ์ของดุสิตธานี และสืบต่อเจตจำนงของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ในการรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยของโรงแรมดุสิตธานีมาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งมีเครือข่ายในวงการ hospitality อย่างแข็งแกร่ง และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล รวมถึงการริเริ่มโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งนายชนินทธ์ โทณวณิก เป็นผู้ริเริ่มและเป็นผู้นำในการดำเนินการ รวมถึงแนวคิดและกลยุทธ์ต่างๆ
โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นหนึ่งในโครงการของบริษัทที่คาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท และเป็นโครงการที่ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อให้ดุสิตมีความทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อให้เป็นมรดกตกทอดไปถึงรุ่นลูกหลานของไทย ดังนั้น การถอดถอนนายชนินทธ์ โทณวณิก จะส่งผลกระทบต่อบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) รวมถึงโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วนที่มีต่อบริษัท
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า การจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ เป็นกระบวนการปกติภายใต้กฎหมายและหลักบรรษัทภิบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาเรื่องสำคัญของบริษัทฯ
“ดิฉันขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น โดยทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคนยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จนกว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะมีมติ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต บริษัทฯ พร้อมที่จะแจ้งให้ทราบโดยทันที และเรายังคงยึดมั่นในการทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ด้วยความโปร่งใสภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กร ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน”
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้บริหารและพนักงานของกลุ่มดุสิตธานี ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ โดยมุ่งหวังที่จะวางรากฐานที่มั่นคงให้กับดุสิตธานี โดยเฉพาะโครงการสำคัญอย่าง ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งนับเป็นอีกก้าวแห่งประวัติศาสตร์ที่จะยกระดับบริษัทฯ เข้าสู่ Chapter ใหม่
“หลังจากนี้ จะเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวจากสิ่งที่ผู้บริหารและพนักงาน รวมถึงคณะกรรมการบริษัทฯ ได้สร้างไว้ ดังนั้น ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการหรือผู้บริหาร แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้อย่างแน่นอน คือ การที่ดุสิตธานีจะสามารถรับรู้รายได้และผลกำไรในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนภายในปีหน้า หลังจากจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอาคารที่พักอาศัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกลุ่มดุสิตธานี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าว