กองทัพภาค 1 ขู่เอาผิด! “ชาวเขมร” หากรุกล้ำทำลายป้ายแจ้งเตือนบ้านหนองจาน
วันที่ 4 กันยายน 2568 พลตรีสุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนบริเวณบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมี มวลชนชาวกัมพูชา รวมตัวแสดงออกกดดันทหารไทย ภายหลังคำสั่งของ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ที่ให้เจ้าหน้าที่ ติดป้ายแจ้งเตือน ให้ 170 ครัวเรือนชาวกัมพูชา ที่รุกล้ำพื้นที่ของไทย ย้ายออกจากพื้นที่
พลตรีสุรวิชญ์ ระบุว่า การรวมตัวของมวลชนชาวกัมพูชา มีทั้งเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ ที่มาแสดงออกในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย และขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถ ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 กล่าวย้ำว่า หากมีการฝ่าฝืนคำเตือน หรือ ทำลายป้าย ที่ติดตั้งอยู่ในพื้นที่ของไทย เช่นในกรณีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับ รั้วลวดหนาม ฝ่ายไทยจะ ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น เตรียมใช้กฎหมายดำเนินคดีหากยังเพิกเฉย หากชาวกัมพูชายังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ตามคำสั่งเตือน จะมีการพิจารณาบังคับใช้กฎหมายไทย ซึ่งครอบคลุมหลายฉบับ ได้แก่
1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท
2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท
พลตรีสุรวิชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทหารไทย ไม่ต้องการใช้กฎหมายกับประชาชนชาวกัมพูชา แต่หากยังมีการฝ่าฝืน เช่น การเข้ามารุกล้ำพื้นที่หรือทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ก็จะต้องดำเนินคดี อย่างถึงที่สุด ตามกฎหมายภายในราชอาณาจักรไทย โดยทางกองทัพได้มีการ ประสานกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้เข้าไปจัดระเบียบและควบคุมประชาชนของตนเอง ไม่ให้เข้ามากระทำผิดในเขตแดนไทย