15 สิงหาคม พ.ศ. 2417 รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ตั้ง “สภาที่ปรึกษาในพระองค์” รากฐาน “องคมนตรี” ที่ดำรงหน้าที่คู่ราชบัลลังก์มาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง 'สภาที่ปรึกษาในพระองค์' หรือ Privy Council ขึ้นเป็นครั้งแรก มีสมาชิก 49 คน ทำหน้าที่ถวายคำปรึกษาในราชกิจ ต่อมาในปี พ.ศ. 2435 จึงเปลี่ยนชื่อเป็น 'คณะองคมนตรี' ซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
ในสมัยรัชกาลที่ 6 องคมนตรีถูกปรับโครงสร้างเป็น 'สภากรรมการองคมนตรี' ทำหน้าที่พิจารณาร่างกฎหมาย พร้อมแต่งตั้งสมาชิกใหม่ทุกปีในพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา จนสิ้นรัชกาลมีสมาชิกสะสมถึง 233 คน แสดงถึงความสำคัญของบทบาทที่ปรึกษาในราชสำนัก
ถัดจากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ทรงจัดระเบียบคณะที่ปรึกษาราชการแผ่นดินใหม่ แบ่งเป็น 3 องค์กรหลัก ได้แก่ อภิรัฐมนตรีสภา เสนาบดีสภา และสภากรรมการองคมนตรี แต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 องคมนตรีถูกยกเลิก และเว้นว่างไปนานถึง 15 ปี
จนกระทั่งในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2490 และ พ.ศ. 2492 ได้รื้อฟื้นสถาบันองคมนตรีขึ้นใหม่ ภายใต้ชื่อ 'คณะองคมนตรี' ทำหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัย โดยต้องไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือตำแหน่งในหน่วยงานรัฐอื่น เพื่อคงความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือ
ปัจจุบัน องคมนตรีประชุมกันสัปดาห์ละครั้งที่ทำเนียบองคมนตรี บริเวณพระราชอุทยานสราญรมย์ ใกล้พระบรมมหาราชวัง โดยยังคงเป็นสถาบันสำคัญที่มีบทบาทเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย