ไอซ์ รักชนก จี้ถาม ทำไมรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ถึงไม่มาชี้แจงงบเอง ด้านชลน่าน สวนกลับทันควัน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ซึ่งมี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธาน ดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 3 ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 โดยเข้าสู่การอภิปราย มาตรา 24 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานในกำกับ
นายไชยา พรหมา ประธาน พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569
ในช่วงการอภิปราย นางสาวรักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ในนามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้ขอหารือกับประธานในที่ประชุม โดยตั้งข้อสังเกตว่า การพิจารณางบประมาณจำนวนมากในหลายกระทรวง กลับไม่มีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมาชี้แจงด้วยตนเอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ ทั้งที่ตัวรัฐมนตรีคือผู้กำหนดนโยบายหลัก และควรรับผิดชอบชี้แจงต่อสภาเอง ไม่ใช่ตอบเพียงสั้น ๆ ไม่กี่นาทีในวาระแรก หรือบางครั้งไม่มาชี้แจงเลย
เธอยังเปิดเผยว่า พรรคประชาชนเคยเสนอในชั้นกรรมาธิการให้นำรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเข้ามาตอบคำถามโดยตรง แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ พร้อมยกตัวอย่างกรณี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการ ที่ไม่เคยเข้าชี้แจงในประเด็นสำคัญ เช่น เรื่องภาษีทรัมป์
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายตอบว่า แม้ไม่ใช่ประเด็นในมาตรานี้ แต่จำเป็นต้องชี้แจงให้เข้าใจว่า ขั้นตอนในวาระ 2 เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการที่ทำงานร่วมกับสภาฯ ส่วนการเชิญรัฐมนตรีเข้าชี้แจงในชั้นนี้ สามารถทำได้ หากมีความประสงค์ แต่โดยทั่วไป เมื่อกรรมาธิการสรุปและเสนอรายงานเข้าสู่ที่ประชุมแล้ว การอภิปรายจะเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการและสมาชิก เว้นแต่รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. จะใช้สิทธิพาดพิง
ต่อมา นางสาวรักชนก ได้ใช้สิทธิขอชี้แจงว่าไม่ได้เรียกร้องให้รัฐมนตรีมาตอบในวาระนี้ แต่ต้องการสะท้อนว่า แม้ในชั้นกรรมาธิการจะไม่มีข้อห้ามในการเชิญรัฐมนตรีมาชี้แจง แต่กลับไม่เคยเกิดขึ้นจริง พร้อมอ้างข้อบังคับการประชุมฯ ปี 2562 ข้อ 30 ที่ระบุว่า หากนายกฯ หรือรัฐมนตรีต้องการชี้แจง ประธานสามารถอนุญาตได้
ภายหลังจากการหารือ นายไชยา ในฐานะประธานที่ประชุม ได้กล่าวชี้แจงประเด็นที่มีสมาชิกบางรายตั้งข้อสังเกตเรื่องความเป็นกลางของประธาน โดยยืนยันว่า
แม้ผมจะมีสังกัดพรรคการเมือง แต่เมื่อนั่งในตำแหน่งประธาน จะยึดมั่นในความเป็นกลาง ใช้สามัญสำนึกและจิตสำนึกของผู้ดำรงตำแหน่ง ขอให้สมาชิกเปิดใจและให้โอกาสในการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด
การอภิปรายในประเด็นนี้สะท้อนถึงข้อถกเถียงเรื่องบทบาทความรับผิดชอบของรัฐมนตรี และการทำงานของระบบกรรมาธิการในสภา ที่ยังคงเป็นที่จับตามองจากทั้งประชาชนและผู้แทนฯ ด้วยกันเอง