เปิด 6 กลุ่มเสี่ยงหากกินไข่ไก่มากเกินไป อันตรายถึงชีวิต
รู้หรือไม่? 6 กลุ่มเสี่ยง ที่ไม่ควรกิน "ไข่ไก่" มากเกินไป
ไข่ไก่เป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ จึงถูกขนานนามว่าเป็น "ซูเปอร์ฟู้ด" ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมาย ไข่ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะบางกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวหรือข้อจำกัดด้านสุขภาพ ซึ่งการบริโภคไข่ในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลได้
1. ผู้ที่มีภาวะไข้สูง: หากมีอาการไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงการกินไข่ เพราะโปรตีนที่สมบูรณ์ในไข่จะทำให้ร่างกายผลิตความร้อนเพิ่มขึ้นถึง 30% ในกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งจะยิ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการลดไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ง่าย
2. ผู้ป่วยโรคตับ: ตับมีหน้าที่หลักในการจัดการไขมันและคอเลสเตอรอลที่ได้รับจากอาหาร การกินไข่มากเกินไปจะเพิ่มภาระให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ ควรจำกัดการบริโภคไข่ เพราะไข่แดงมีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งอาจทำให้ตับเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และทำให้อาการของโรครุนแรงกว่าเดิม
3. ผู้ป่วยโรคไต: ไตทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกาย เมื่อไตทำงานได้ไม่ดี การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงอย่างไข่จะทำให้ปริมาณยูเรียในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ไตทำงานหนักกว่าปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะยูเรมิก และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้ป่วยโรคไตจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม
4. ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด: การวิจัยจากมหาวิทยาลัย Western ในประเทศแคนาดา ชี้ว่าการบริโภคไข่เพียง 3 ฟองต่อสัปดาห์ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมของคราบไขมันในหลอดเลือด ผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบอยู่แล้ว จึงควรหลีกเลี่ยงการกินไข่หรือจำกัดปริมาณให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดในหัวใจและสมอง
5. ทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน: ระบบย่อยอาหารของทารกที่ยังไม่สมบูรณ์ อาจเกิดอาการแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ได้ง่าย หากเริ่มให้กินไข่เร็วเกินไป โดยเฉพาะส่วนไข่แดง จึงควรให้ทารกอายุครบ 6 เดือนก่อน และเริ่มต้นในปริมาณที่น้อยมากๆ พร้อมกับสังเกตอาการแพ้อย่างใกล้ชิด
6. ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่: อาการแพ้ไข่มักเกิดจากโปรตีนในไข่ขาว ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ผื่นแพ้ ปวดท้อง หรือท้องเสีย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก การแพ้ไข่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการแพ้อาหาร ซึ่งหากเคยมีประวัติแพ้ไข่ไก่มาก่อน ควรหลีกเลี่ยงไข่ชนิดอื่น เช่น ไข่เป็ด หรือไข่นกกระทาด้วย เพื่อป้องกันปฏิกิริยาการแพ้แบบไขว้
แม้ว่าไข่ไก่จะเป็นแหล่งสารอาหารที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถบริโภคได้อย่างไร้กังวล หากคุณหรือคนใกล้ชิดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนบริโภค เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว
แหล่งที่มาอ้างอิง
1.Medthai. “ประโยชน์ของไข่ไก่” และ “ข้อควรระวังในการกินไข่ไก่.” เข้าถึงเมื่อ 14 สิงหาคม 2568. https://medthai.com/ไข่ไก่
2.บทความวิชาการจากมหาวิทยาลัย Western ประเทศแคนาดา (อ้างอิงจากข้อมูลในเนื้อหา)
3.ข้อมูลโภชนาการและสุขภาพจากเว็บไซต์ของโรงพยาบาลและสถาบันสุขภาพชั้นนำต่างๆ (อ้างอิงจากข้อมูลในเนื้อหา)