โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

จากเงาในป่า สู่เงาในทำเนียบ: สุญญากาศชื่อ ‘ภูมิธรรม’ อำนาจที่ไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูก

ไทยโพสต์

อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 18.02 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในยามที่ประเทศต้องการ ผู้นำที่ปลุกเร้า สร้างศรัทธา และกำหนดทิศทางให้เดินหน้า ชายที่ยืนอยู่กลางทำเนียบกลับไร้น้ำหนัก ไร้ถ้อยคำจุดประกาย ไร้พลังใดที่ทำให้สังคมรู้สึกว่ามีใครนำอยู่จริง “ภูมิธรรม เวชยชัย” จึงไม่ใช่ผู้นำ หากแต่คือ เงาบางของระบบเดิม ที่ยังเคลื่อนไหวในทำเนียบ โดยไร้เป้าหมาย ไร้ปลายทาง และไร้แม้กระทั่งเหตุผลของการมีอยู่

ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีเพียงไม่กี่คนที่เคยยืนอยู่ตรงปลายสุดของสเปกตรัมความขัดแย้ง จากการจับปืนสู้รัฐในฐานะ “สหายใหญ่” แห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จนถึงการนั่งหัวโต๊ะบริหารประเทศ ในตำแหน่ง รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ภูมิธรรม เวชยชัย คือหนึ่งในนั้น

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ เส้นทางจากป่าสู่ทำเนียบของเขา ไม่ได้เต็มไปด้วย “แรงส่งทางพลังและอำนาจ” หากเต็มไปด้วย“ร่มเงา” ของคนอื่นที่ทอดทับทุกก้าว

แม้จะผ่านบทบาทสำคัญ แม้จะยืนอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของอำนาจแทบทุกยุคของพรรคเพื่อไทย แต่ภูมิธรรมกลับ ไม่เคยเป็นเจ้าของพลังการนำ อย่างแท้จริง ไม่เคยเป็นชื่อแรกที่ประชาชนเรียกหาในยามวิกฤต

จากสหายในป่า เปลี่ยนสนามสู้รบเป็นสนามเลือกตั้ง กลายเป็นนักการเมืองที่เดินอยู่ในขอบเขตของอำนาจ โดย ไม่เคยถือธงนำ ปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังผู้นำตระกูลชินวัตรเสมอมา แต่ไม่เคยยืนอยู่หน้าฉากของวาทกรรมการเมือง ในฐานะผู้กำหนดทิศทางของประเทศ

เขาคือบุคคลที่ ปรากฏตัวเสมอในฉากอำนาจ แต่ไม่เคยปลุกพลังอะไรขึ้นมาเลยแม้สักครั้ง และนั่นคือ ภาพจำ ที่ค่อยๆตอกย้ำขึ้นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

และเมื่อประเทศเผชิญ ภาวะผู้นำสุญญากาศ จากกรณีที่แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ภูมิธรรม ในฐานะรองนายกฯ จึงต้องขึ้นมารักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่การก้าวขึ้นมาเช่นนี้ ไม่ได้มาพร้อมพลังในการนำ ไม่ได้มีเสียงประชาชนรองรับ และที่สำคัญที่สุด ไม่ได้มีอะไรจะส่งต่อให้ประเทศเลย

บนเวทีโลก ผู้นำประเทศต้องสามารถแสดงตัวแทนของชาติในยามวิกฤตได้อย่างสง่างาม แต่นี่คือช่วงเวลาที่ไทยกลับมีแค่ “ผู้รักษาการ” ที่ไม่มีทั้งบุคลิกของผู้นำ และวาทกรรมของรัฐบุรุษ

ในการเจรจาหยุดยิงชายแดนที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ภูมิธรรม แสดงท่าทีราวกับเป็นเพียง “แขกบ้านแขกเมือง” ไม่ใช่ ผู้แทนรัฐไทยอย่างเต็มภาคภูมิ

ผู้นำกัมพูชาแถลงข่าวอย่างมั่นใจ เป็นภาษาอังกฤษยาวถึง 4-5 นาที ขณะที่ฝั่งไทยพูดเพียงสั้น ๆ ไม่ถึงหนึ่งนาที ด้วยถ้อยคำที่ไม่ต่างจากคำปราศรัยในเวทีพรรค มากกว่าถ้อยแถลงแห่งรัฐในห้วงยามเผชิญหน้าและความตึงเครียดชายแดน

สิ่งที่หายไปไม่ใช่แค่ ความหนักแน่นของถ้อยคำ แต่คือการที่ประเทศไทยไม่มีใคร สื่อสารแทนทั้งประชาชนและกองทัพ ได้อย่างเต็มน้ำเต็มเนื้อในเวทีระหว่างประเทศ

ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า “รักษาการ” แบบนี้ ไม่สามารถแบกหน้าประเทศได้แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ

ท่ามกลางวิกฤต รัฐบาลไม่เพียงต้องจัดการสถานการณ์ แต่ต้องสามารถทำให้ประชาชน รู้สึกว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้ง

แต่สิ่งที่ปรากฏจาก ภูมิธรรม เวชยชัย กลับเป็นภาพของคนที่ พูดเหมือนนักการเมืองในยามปกติ ไม่มีความหนักแน่น ไม่ยืนหยัดในหลักการ และไม่แม้แต่จะ ปลอบขวัญประชาชนอย่างจริงใจ

เขาควรจะเป็น กระบอกเสียงของรัฐ แทนประชาชน แทนประเทศ แทนสิ่งที่เราเรียกว่า “ไทย” แต่กลับ กลายเป็นเพียงคนกลาง ที่ไม่กล้าพูดในสิ่งที่สังคมอยากฟัง

ตัวอย่างง่ายๆ คือ การไม่กล้าสื่อสารกับต่างชาติ ว่าไทยกำลังถูก ละเมิดอธิปไตย ในแนวชายแดน หรือแม้แต่การเรียกร้องให้โลกเห็นใจ ทหารและพลเรือนที่บาดเจ็บและล้มตาย

เสียงของภูมิธรรม เบาเกินไป เบาเกินกว่าจะข้ามพรมแดนความรู้สึก เบาเกินกว่าจะทำหน้าที่แทนรัฐในห้วงวิกฤต

ยืนอยู่ตรงนั้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขายืนเพื่ออะไร?

ในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนไม่ได้คาดหวังเพียงท่าทีแข็งกร้าว หากแต่ต้องการให้รัฐบาล ส่งสัญญาณชัด ว่า ประเทศจะยืนอยู่ตรงไหน ระหว่างการประนีประนอมอย่างไร้หลัก หรือการรักษาอธิปไตยด้วยศักดิ์ศรี

สิ่งที่ขาดหายจาก ภูมิธรรม เวชยชัย คือ ภาษาทางการเมืองที่สามารถสร้างพลัง ความมั่นใจ หรือแม้แต่ปลุกเร้าสำนึกร่วมของสังคม

คำพูดของภูมิธรรม ไม่ได้ผิดเพี้ยนจากหลักการใด แต่ ขาดน้ำหนัก ขาดทิศทาง และขาดแรงส่ง ที่จะพาประเทศออกจากภาวะลอยคว้าง

ไม่ใช่แค่เรื่อง การสื่อสารที่ไม่เฉียบคม แต่คือการที่ผู้นำคนหนึ่ง ไม่สามารถยืนหยัดเป็น จุดรวมศูนย์ทางความรู้สึกในยามวิกฤต ได้

ในห้วงเวลาที่ประชาชนมองหารัฐบุรุษ เขากลับถูกจดจำในฐานะ “คนรักษาการ” ที่ไม่มีพลังนำของตัวเอง

และเมื่อผู้นำไร้น้ำหนัก คำถามต่อไปย่อมไม่ใช่แค่ว่า รัฐบาลจะพาเรารอดไหม แต่คือจะพาเราไปไหนกันแน่

วิกฤตผู้นำไม่ได้จำกัดอยู่แค่แนวชายแดน แต่ยังสะท้อนผ่าน นโยบายที่สวนทางกับบรรยากาศของบ้านเมืองโดยสิ้นเชิง

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนบางส่วนต้อง อพยพหนีภัยการสู้รบ บางส่วนส่งลูกหลานไปประจำแนวหน้า กระทรวงมหาดไทยภายใต้การกำกับของภูมิธรรม เวชยชัย กลับลงนามคำสั่งในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลดล็อกให้โป๊กเกอร์กลายเป็นกีฬาไม่ใช่การพนัน ทั้งที่สาระสำคัญคือ การเปิดทางให้การพนันสามารถดำเนินได้ภายใต้ชื่อใหม่ที่ฟังดูดี

คำสั่งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะลงนามโดยรัฐมนตรีที่ กำกับดูแลกลไกฝ่ายปกครองทั่วประเทศ และในห้วงเวลานั้น ยังดำรงตำแหน่ง รักษาการนายกรัฐมนตรี คนที่ควรเป็นหลักให้บ้านเมืองในยามวิกฤต

และเมื่อถูกนักข่าวตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสมของนโยบาย ภูมิธรรมก็ตอบด้วยน้ำเสียงประชดว่า “ทุกเรื่องต้องถามประชาชนก่อนเลยหรือ”

ประโยคนี้ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ ความไม่ใส่ใจต่ออารมณ์สาธารณะ แต่ยังเผยให้เห็นบุคลิกของผู้นำที่ ไม่แยกแยะน้ำหนักของจังหวะทางการเมือง

ในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการ แบบอย่างด้านความอดทน เสียสละ และยึดมั่นในหลักการ การปลดล็อกพนันในชื่อของ “กีฬา” คือภาพสะท้อนของรัฐที่ หลงลืมขอบเขตของความเหมาะสม

และเมื่อผู้ลงนามคือ รัฐมนตรีผู้กุมกลไกราชการ และในขณะเดียวกันก็กำลังแบกรักษาการนายกรัฐมนตรีไว้บนบ่า ความไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่การกล่าวหา แต่คือ การตอบสนองตามสามัญสำนึกของคนธรรมดา ที่ยังรู้จักวางน้ำหนักของบ้านเมืองให้ถูกจุด

ในโลกของอำนาจ การมี “ตำแหน่ง” ไม่ได้แปลว่ามี “ภาวะผู้นำ” และการนั่งอยู่บนจุดสูงสุดของฝ่ายบริหาร ก็ไม่รับประกันว่าใครคนนั้นจะเป็นผู้นำของประเทศจริง ๆ

ภูมิธรรม เวชยชัย คือภาพสะท้อนของปรากฏการณ์นี้อย่างชัดเจนที่สุด

เขาคือบุคคลที่ ไม่มีมวลชนรองรับ ไม่มีสัญญาประชาคมรองจ่าย และไม่มีภาษาทางการเมืองที่ประชาชนจะจดจำ

ในยามที่รัฐต้องการคำอธิบาย กลับ ไม่มีวาทกรรมที่ปลุกพลัง ในยามที่ประเทศต้องการทิศทาง กลับไม่มีใครกล้าวางใจให้เขาเป็นคนลากเส้นทางเดิน

ทั้งหมดจึงหลอมรวมกันเป็นสิ่งที่เรียกว่า “อำนาจที่ไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูก” ไม่มีน้ำหนักให้ไว้วางใจ ไม่มีโครงสร้างให้ยึดเกาะ เป็นเพียง อากาศธาตุในระบบการเมือง ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในโครงร่างของอำนาจเก่า

และในห้วงที่ แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ชื่อของ ภูมิธรรม ที่ถูกจัดวางขึ้นแทน กลับ ไม่สร้างความเชื่อมั่นได้แม้แต่น้อย

ไม่ใช่เพราะคนเดิมดีกว่า หรือมีภาวะผู้นำมากกว่า เพราะในสายตาประชาชน แพทองธาร ไม่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่ ภูมิธรรม ไม่มีพลังนำในตัวเอง จึงไม่สามารถสร้างภาพของผู้นำได้เลย ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวขึ้นสู่บทบาทรักษาการนายกรัฐมนตรี

ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือการที่ ประชาชนมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังพาเราไปไหน

นี่คือ ความ “สุญญากาศ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ไม่มีตัวบุคคล แต่คือ การไม่มีเนื้อหา ไม่มีพลังขับเคลื่อน และไม่มีบทบาทที่น่าจดจำเลยแม้แต่น้อย

จาก “สหายใหญ่” ที่เคยจับปืนเดินป่าในนามของอุดมการณ์ วันนี้เขากลายเป็น ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย

ไม่ใช่เพราะสังคมต้องการให้เขานำ ไม่ใช่เพราะรัฐเชื่อมั่นว่าจะปลุกพลังใดๆ ได้ แต่เป็นเพียง การจัดวางตามตำแหน่ง ที่เกิดขึ้นใน ห้วงสุญญากาศของผู้นำ

และเมื่อการมาถึงของผู้นำคนหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากแรงส่งของพลังนำในตัวเอง แต่เกิดจาก “ความจำเป็นของตำแหน่ง” ที่ต้องมีใครสักคนมานั่งอยู่ตรงนั้น นั่นแหละคือ “เงาในทำเนียบ” ที่ ราวกับไม่มีตัวตน ไม่มีภาษาทางอำนาจให้จดจำ และไม่มีใครเชื่อมโยงเขากับคำว่า “ผู้นำ” ได้อย่างแท้จริง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘ภูมิธรรม’ รับสั่งให้ฟ้อง ‘แพ่ง-อาญา’ เขมรแต่ไม่ใช่ที่ศาลโลก

27 นาทีที่แล้ว

‘เทนนิส’พร้อมเปิดบ้าน ต้อนรับชาติซีเกมส์ ‘สุชัย’ส่งทัพไทยแข่งทุกประเภท

35 นาทีที่แล้ว

กองทัพลั่นไม่ถอยกำลัง 11 จุดเขตอธิปไตยไทย!

46 นาทีที่แล้ว

จับยาเสพติดล็อตใหญ่กลางกรุง! ยาไอซ์ซุกถุงกระสอบ 314 กก.

57 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

“ภูมิธรรม” ชี้ ขอคืนพื้นที่ ศูนย์อพยพ ผู้ว่าฯ ต้องคุยทหารดูสถานการณ์ ย้ำ ต้องแก้ปัญหาให้ได้ ไม่มีเสียงวิจารณ์ ถก สมช.-ครม.ชุดเล็ก ก่อนเจรจาจีบีซี 7 ส.ค.

สยามรัฐ

‘ศุภชัย’ ลั่น “เขากระโดง” ไม่มีใครบุกรุก ย้อนเกล็ด ‘เดชอิศม์’ ญาติถูกจำคุกรุก “หัวเขาแดง”

THE STATES TIMES

‘ลิณธิภรณ์’ ย้ำยังไม่เปิดสถานศึกษาตามเขตปะทะชายแดน!

ไทยโพสต์

มทภ.2 ลั่น ไม่ยอมถอยกำลัง11จุด เขตอธิปไตยไทย หวังจีบีซีได้ข้อสรุปที่ดี สั่งกำลังพลโรยปูนขาวดับกลิ่น

MATICHON ONLINE

พรึบ! ผบ.ทบ.เป็นประธานวันสถาปนา 4 หน่วยงาน ครบรอบปีที่ 73

AEC10NEWs
วิดีโอ

สมช.จ่อถกข้อสรุปวงเลขานุการประชุมจีบีซี

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม