นายจ้างบริษัทดัง เข้าคุกทันที ศาลไม่ให้ประกัน เซ่นลอยแพ 859 ชีวิต
กรณีบริษัทยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) เลิกจ้างลอยแพพนักงาน 859 คน ไม่จ่ายเงินชดเชย ล่าสุดทางเฟซบุ๊ค เซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน สัดส่วนเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน เปิดเผยว่า 5 สิงหาคม 2568 ผมและอดีตลูกจ้างบริษัทยานภัณฑ์ จำกัด(มหาชน) ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่อัยการนัดสั่งฟ้องนายจ้างบริษัทยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
กรณีเลิกจ้างลูกจ้าง 859 คน โดยไม่จ่ายเงินค่าชดเชยและเงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้ารวมเป็นเงินประมาณ220 ล้านบาท หรือ ”สองร้อยยี่สิบล้านบาท“ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 แม้พนักงานตรวจแรงงานออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินให้ลูกจ้าง แต่นายจ้างก็ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ทำให้พนักงานตรวจแรงงานและลูกจ้างได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้าง พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องนายจ้าง แต่นายจ้างก็พยายามยื้อระยะเวลาโดยขอเลื่อนวันนัดกับอัยการจังหวัดสมุทปราการแต่อัยการไม่อนุญาต
แม้อัยการจังหวัดสมุทรปราการจะไม่อนุญาต แต่นายจ้างก็ไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อส่งตัวให้อัยการตามนัด จะด้วยเหตุใดไม่ทราบแทนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับนายจ้าง (ผู้ต้องหา) แต่กลับออกหมายเรียก เมื่อครบกำหนดนายจ้างก็ไม่ได้มาตามนัด แต่ได้มอบหมายให้ทนายยื่นขอเลื่อนวันเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนออกไปอีก ซึ่งพนักงานสอบสวนก็เหมือนจะใจดี อนุญาตให้เลื่อนไปอีก 5 วัน
และในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ครบจำนวนวันที่ขอเลื่อนนัด นายจ้าง (ผู้ต้องหา) ได้เดินทางมาพบอัยการจังหวัดสมุทรปราการเพื่อให้สั่งฟ้อง และได้ขอยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว
ลูกจ้างได้เอกสารคัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุผลนายจ้างละเมิดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน เลิกจ้างลูกจ้างไม่จ่ายเงินค่าชดเชยทำให้ลูกจ้างและครอบครัวเดือดร้อนจำนวนมาก ฯลฯ
ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้พิจารณา ไม่อนุญาตให้กรรมการบริหารบริษัทยานภัณฑ์ฯ ทั้ง 4 คนได้รับการประกันตัว และถูกส่งเข้าเรือนจำทันทีด้วยความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน 2541
ที่ผ่านเราแทบจะไม่เคยเห็นกรณีนายจ้างเลิกจ้างไม่จ่ายเงินค่าชดเชยและมีการดำเนินคดีอาญาจน”นายจ้างต้องติดคุก” เช่นกรณีนี้ นี่ถือเป็นกรณีตัวอย่างการลุกขึ้นสู้ของพี่น้องแรงงาน ที่ไม่ยอมจำนนต่อการกดขี่ของนายจ้างและการเพิกเฉยละเลยของรัฐบาล กระทรวงแรงงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อการบังคับนายจ้างให้นำเงินมาจ่ายให้ลูกจ้างตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับพี่น้องแรงงานอดีตลูกจ้างบริษัทยานภัณฑ์ฯนั้นการต่อสู้ตลอดระยะเวลามากกว่า 8 เดือนของพวกเขาไม่สูญเปล่า ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล กระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องนับครั้งไม่ถ้วน วันนี้ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่ได้รับเงินค่าชดเชยตามสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ แต่ก็เห็นว่าศาลยังให้ความเป็นธรรมกับพวกเขาบ้าง โดยไม่อนุญาตให้นายจ้างได้รับสิทธิ์การประกันตัว
ถึงแม้นายจ้างจะติดคุกในวันนี้ แต่พี่น้องแรงงานยังไม่ได้รับเงินค่าชดเชย รอติดตามว่านายจ้างจะยอมนำเงินมาจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างหรือไม่หรือจะยอมติดคุกชดใช้หนี้กรรมที่ทำกับคนงาน สำหรับข้อเสนอของอดีตคนงานยานภัณฑ์ฯ ต่อรัฐบาล กระทรวงแรงงาน คือขอให้นำเงินมาจ่ายเยียวยาช่วยเหลือลูกจ้างที่วันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน “ปิดปากเงียบ” ไม่ปริปากพูดถึงปัญหาของพวกเขาและคนงานอีกจำนวนมากกว่า 43,000 คนที่ถูกนายจ้างลอยแพว่าจะแก้้ไขปัญหาอย่างไร
วันนี้แม้คนงานยานภัณฑ์ฯจะยังไม่ได้รับเงินค่าชดเชย แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าพวกคุณคือนักต่อสู้ตัวจริง หัวใจพวกคุณ “เกร่งจนน่ากราบ” ขบวนการแรงงานจะต้องจดจำพวกคุณตลอดไป
สุดท้ายผมเชื่อว่า การรวมกลุ่มในขบวนการแรงงาน แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายโดยเฉพาะการที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายที่เอื้อต่อการรวมกลุ่มก้อน กรณีศึกษาของกลุ่มยานภัณฑ์ทำให้เห็นว่า ทุกการต่อสู้ของเรามีความหมาย การรวมตัวเพื่อเรียกร้องสิทธิสามารถนำไปสู่ปลายทางที่เป็นธรรมได้ ลุกขึ้นสู้เถิดพี่น้องแรงงาน