มท.2 ประชุม กอปภ.ก. สั่งการจังหวัดพื้นที่เสี่ยงรับมือพายุ “คาจิกิ” ดูแลปชช. 24 ชม.
วันนี้ (25 สิงหาคม 2568) เวลา 15.00 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” กำชับจังหวัดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนโดยใช้กลไกพื้นที่ผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติงาน โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 58 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ระยะนี้ประเทศไทยได้เฝ้าระวังสถานการณ์การเคลื่อนตัวของพายุ “คาจิกิ” อย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าพายุลูกนี้จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ รัฐบาลจึงได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มกำลัง โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานและติดตามสถานการณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เปิด War room ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อติดตามการเตรียมการของจังหวัดในการรับมือพายุ “คาจิกิ”
“จากการรายงานข้อมูลของหน่วยงานด้านการพยากรณ์ พบว่าพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” จะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามในวันนี้ (25 ส.ค. 68) เวลา 16.00 น. และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ สปป.ลาว ในคืนนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงและเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค. 68) ซึ่งอิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร เริ่มมีฝนตกในพื้นที่แล้ว คาดว่าในวันพรุ่งนี้ ภาคเหนือบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน จะเริ่มมีผลกระทบ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว เห็นได้จากการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง การบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ การซ่อมแซมพนังกันน้ำ รวมไปถึงการพร่องน้ำในเขื่อนเพื่อรองรับน้ำที่เพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกในพื้นที่” นางสาวธีรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าว
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “พื้นที่ที่มีจุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ขอให้ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและตรวจสอบความสามารถในการระบายน้ำ พร้อมปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับระดับน้ำในเขื่อนและปริมาณฝนที่คาดว่าจะตกในพื้นที่ รวมถึงต้องประเมินพื้นที่เสี่ยงพร้อมวางแผนนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปประจำจุดให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ ซึ่งหากทุกอย่างมีการวางแผนล่วงหน้าและมีความพร้อมในการรับมือก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาและการช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประชาชนรู้สึกอุ่นใจและมั่นใจในการทำงานของหน่วยงานราชการ นอกจากนี้ ให้จังหวัดเตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนที่จำเป็นต้องอพยพหากสถานการณ์รุนแรง และสื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์ภัยที่ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนทราบและไม่ตื่นตระหนก”
ขณะที่นายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะใช้ส่งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว ขอให้จังหวัดใช้กลไกของท้องถิ่นและท้องที่ ช่วยกันเฝ้าระวังสถานการณ์และแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ของตนให้ทราบ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึงมากขึ้น เมื่อสถานการณ์มีความรุนแรงและมีการแจ้งเตือนให้อพยพ ขอให้แจ้งประชาชนให้ทราบผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของพื้นที่ และขอให้เร่งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้โดยเร็ว สำหรับจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ ขอให้พิจารณาสั่งห้ามประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ความคืบหน้าสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อนจาก Line ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป
#ปภ #ข่าว #คาจิกิ #ไต้ฝุ่น #แจ้งเตือน #น้ำท่วมฉับพลัน #น้ำป่าไหลหลาก #น้ำท่วมขัง #ดินถล่ม #คลื่นลมแรง