กต.เผยนำทูตดูผลกระทบไทย-กัมพูชา ส่งผลดี ยืนยันความจริง
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 23.25 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกต. 22 ส.ค.- กระทรวงต่างประเทศ ยื่นหลักฐานเขมรใช้ทุ่นระเบิด ในการประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวาที่กรุงเจนีวา วันนี้ ขอประชาคมโลกร่วมกดดันเขมรให้รักษาสัญญา เผยการนำทูตลงพื้นที่ดูผลกระทบไทย-กัมพูชา ส่งผลดี และเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่ไทยพูดเป็นความจริง
นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ชี้แจงกรณีที่ในวันนี้จะมีการประชุม Committee on Cooperative Compliance ภายใต้กลไกอนุสัญญาออตตาวา ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ว่า ขณะนี้เรากำลังรอคำตอบอยู่ กับการดำเนินการที่เกิดขึ้นที่เจนีวา ภายใต้กลไกของอนุสัญญาออตตาวา ผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ โดยได้แจ้งการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งไทยได้ดำเนินการไปแล้ว และรอการตรวจสอบจากเจนีวา
ด้านนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม พร้อมยืนยันว่าวันนี้มีการประชุม ในกรอบของคณะกรรมการ Committee on Cooperative Compliance ภายใต้กลไกอนุสัญญาออตตาวา จริง โดยนางสาวอุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย แต่เนื่องจากข้อแตกต่าง ของเวลาที่ประเทศไทยและกรุงเจนีวา จึงคาดว่าการประชุมดังกล่าวน่าจะยังไม่เริ่ม หรือเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้หากมีความคืบหน้า จะรีบแจ้งให้ทราบโดยเร็ว ขณะเดียวกันในวันนี้จะมีการยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ในการประชุมดังกล่าวด้วย เพื่อเป็นการบังคับให้รัฐภาคี ดำเนินการตามอนุสัญญา
ส่วนการที่รัฐบาลไทยนำคณะทูตลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบและประจักษ์พยานหลักฐานเกี่ยวกับการวางทุนระเบิดของฝ่ายกัมพูชา จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมครั้งนี้ด้วยหรือไม่ นายนิกรเดช ระบุว่า ในการลงพื้นที่ดังกล่าวทูตหลายท่านได้แสดงความคิดเห็น ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าความคิดเห็นเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับทุ่นระเบิด และอนุสัญญาออตตาวา ความคิดเห็นเหล่านั้นก็จะไม่เกี่ยวข้องนำเข้าที่ประชุม แต่ขอย้ำว่า ความคิดเห็นของคณะทูตที่มีการให้สัมภาษณ์สื่อ โดยเฉพาะในประเด็นที่ประเทศไทยเป็นผู้ถูกกระทำนั้น ถือเป็นผลดีต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน และแสดงให้เห็นชัดเจนว่า สิ่งที่ไทยได้พูดและนำเสนอนั้นเป็นความจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญต่อไทย ในการได้รับความสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ ในการยืนยันสิ่งที่เราพูดเป็นความจริง อีกทั้งเป็นการกดดันฝ่ายกัมพูชาให้ดำเนินการตามสิ่งที่ถูกต้อง -สำนักข่าวไทย