หยุดยาววันแม่ปี 68 คาดเงินสะพัดหมื่นล้าน แต่คนไทยใช้จ่ายน้อยลง ห่วงเศรษฐกิจแย่ลง ปัญหา ‘การเมือง’ ไม่นิ่ง
หอการค้าคาด ‘วันแม่ ปี 2568’ เงินสะพัด 1.1 หมื่นล้าน เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่ง 5 เดือนติด หลังคนไม่กล้าใช้จ่าย 59.1% กังวลเศรษฐกิจซึมยาว ‘การเมือง’ ไม่นิ่ง
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันแม่ ปี 2568 จาก 1,422 ตัวอย่างทั่วประเทศ
โดยคาดว่าปริมาณเงินสะพัดในช่วงวันแม่อยู่ที่ 11,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.9%
อย่างไรก็ดี จากการติดตามยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความกังวลในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน 59.1% สะท้อนจาก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 5 เดือนติดยังซึมตัวต่อเนื่อง เพราะประชาชนยังกังวลเรื่องการเมือง ซึ่งสูงถึง 40% และผลสำรวจยังพบว่าเศรษฐกิจของไทยในปีนี้แย่ลงมาก เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา
ยังวางแผนทำกิจกรรมต่างๆ
เนื่องจากวันแม่ปีนี้ เป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน ส่วนใหญ่จะพาแม่ไปทานข้าว ทำบุญ ทำกิจกรรมอื่นนอกบ้าน และพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ทั้งแบบค้างคืน และไม่ค้างคืน ซึ่งจะใช้เงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“แต่การวางแผนพาแม่ไปเที่ยวต่างประเทศลดลงจากปีก่อนประมาณ 20% เฉลี่ย 12,000 บาท จากปีก่อนใช้เงินเฉลี่ย 15,000 บาท ส่งผลให้วันแม่ปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 11,062 ล้านบาท ขยายตัว 1.9%”
ทั้งนี้ มาตรการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ผู้ใช้สิทธิไม่มากนัก และในช่วงวันแม่ก็มองว่าการเข้าไปใช้สิทธิอาจจะไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการสุ่มตอบคำถามกลุ่มตัวอย่างคนที่ลงทะเบียนแล้ว มีการใช้สิทธิเพียง 46.4% ยังไม่ใช้สิทธิ 53.6% และคาดว่าจะใช้สิทธิเร็วๆ นี้ 3.6% ยังไม่แน่ใจ 96.4%
“ปีนี้เห็นหลายสัญญาณที่คนยังระมัดระวังการใช้จ่าย แม้วันแม่ตรงกับวันหยุดยาว และยังตรงกับโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง แต่กลุ่มตัวอย่างจำนวนมากไม่วางแผนไปทำกิจกรรมกับแม่ และเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวมถึงหลายกิจกรรมใช้เงินลดลง”
โดยเฉพาะไปเที่ยวต่างประเทศ สะท้อนบรรยากาศเศรษฐกิจซึมตัว เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท มาตรการเที่ยวไทยคนละครึ่ง รวมถึงมาตรการทางการเงินจากการลดดอกเบี้ย ยังไม่ทำงาน
อีกทั้ง ยังมีความเสี่ยงทางการเมือง สงครามทางการค้า และการบริหารจัดการค้าชายแดน สอดคล้องกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ชะลอตัว 5 เดือนต่อเนื่อง
ดังนั้น การฟื้นเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้จึงขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การพิจารณางบประมาณปี 2569 เป็นหลัก
ขณะที่ปัจจัยสงครามทางการค้า ชัดเจนแล้วว่าไทยโดนภาษีนำเข้า (Reciprocal Tariffs) อัตรา 19% น่าจะคลายตัวมากขึ้น
ภาพ: CandyRetriever / Getty Images