มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สนับสนุนศิลปะไทย มอบรางวัลการประกวดจิตรกรรมร่วมสมัย MR. D.I.Y. ในหัวข้อ “อัตลักษณ์และความหลากหลาย” มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท
มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ ปิดฉากการประกวดจิตรกรรมร่วมสมัย MR. D.I.Y. ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ในหัวข้อ “อัตลักษณ์และความหลากหลาย (Identity and Diversity)” โดยได้จัดงานมอบรางวัลให้กับศิลปินผู้ชนะการประกวดที่มีผลงานโดดเด่นรวม 18 รางวัล ครอบคลุมทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทสถาบันการศึกษา และ ประเภทประชาชนทั่วไป รวมมูลค่ากว่า 1,010,000 บาท ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายอานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การประกวดจิตรกรรมร่วมสมัยที่มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. จัดขึ้นเป็นปีแรกนี้ ได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากศิลปินทั้ง 2 ประเภทที่ได้ร่วมส่งผลงานเข้ามามากกว่า 1,000 ผลงาน เพื่อร่วมสร้างอีกหนึ่งปรากฏ การณ์ให้วงการศิลปะไทยไปด้วยกัน การเปิดเวทีให้ศิลปินรุ่นใหม่และผู้มีใจรักศิลปะจากทั่วประเทศได้ถ่ายทอดมุมมองและแรงบันดาลใจ ผ่านผลงานที่สะท้อนตัวตนและสังคมอย่างลึกซึ้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึง ความตั้งใจ และความพร้อมของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในการสนับสนุนวงการศิลปะไทย ผลักดันและขับเคลื่อนให้ศิลปะกลายเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคม อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจและร่วมลงทุนกับสังคมอย่างยั่งยืน” การประกวดจิตรกรรมร่วมสมัย MR. D.I.Y. ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมกว่า 1,000 ชิ้น โดยในงานมอบรางวัล มีการประกาศผู้ชนะรวม 18 รางวัล ครอบคลุมทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทสถาบันการศึกษา และ ประเภทประชาชนทั่วไป โดยผู้ชนะเลิศทั้งสองประเภทได้รับเงินรางวัลสูงสุด 200,000 บาท ได้แก่
ประเภทสถาบันการศึกษา: Pain is Temporary โดย กฤติยา เรียงรวบ ถ่ายทอดภาพสะท้อนสังคมเยาวชนไทยที่หลากหลายและร่วมสมัย เต็มไปด้วยการตั้งคำถามต่อโลก “Pain is Temporary เป็นผลงานที่บอกเล่าความรู้สึกของมนุษย์ที่หลากหลาย โดยเรานำเสนอเรื่องของชนชั้น ด้วยความที่เราเกิดมาในชนชั้นกรรมาชีพ คุณพ่อทำงานก่อสร้าง ทำให้เรารู้สึกว่าความยากจนไม่ได้ทำงานกับเราแค่เป็นความเป็นวัตถุ แต่ทำงานในด้านความรู้สึก ที่ตั้งแต่เด็กเรารู้สึกว่าไม่สามารถเข้าถึงอะไรที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ได้ เพราะฉะนั้นมันเลยเป็นสิ่งที่สร้างบาดแผลให้กับเราเหมือนชื่อผลงาน ที่เรานำเสนอผ่านเด็กผู้หญิงที่กำลังถักเปีย โดยมีข้างหลังเป็นนั่งร้านก่อสร้าง มีผ้าคลุมสีขาวบาง ๆ สื่อถึงคุณพ่อที่เสียไปแล้ว เรารู้สึกว่า คนจนต้องการที่จะมีความสุข และความต้องการนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด หลายคนมีภาพจำความยากจนด้วยความเป็นวัตถุ บ้าน ความแออัดของชุมชน แต่เราอยากสื่อว่าชีวิตเราก็มีความต้องการแบบคนทั่วไป ก็เป็นเหมือนตัวตนของเราค่ะ” – กฤติยา เรียงรวบ
ประเภทประชาชนทั่วไป: Traces of love (ร่องรอยจากความรักษ์) โดย อัชมาวีย์ การี ถ่ายทอดมุมมองลึกซึ้งต่อความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนมุสลิมในมุมมองที่ละเอียดอ่อนและจับใจ “ผมเป็นคนพื้นที่อำเภอเบตง จ.ยะลา ที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ซึ่งการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯและบริบทสังคมเมืองทำให้ผมมีความทุกข์พอสมควร สิ่งแรกที่ผมทำ คือ การไปหาพื้นที่ที่จะช่วยเยียวยาความรู้สึกของตัวเอง จนผมไปเจอมุมหนึ่งของเมือง ซึ่งเป็นชุมชนเล็ก ๆ ไม่ได้มีความเรียบหรูหรือสะดวกสบาย แต่ส่งผลเชิงบวกกับผมมาก ๆ ผมได้เห็นวิถีชีวิตของชุมชนที่มีความรักความอบอุ่น มีความเกื้อกูลกันในชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมขาดหายจากการที่ผมมาใช้ชีวิตที่นี่ ทำให้พื้นที่ชุมชนนี้มีคุณค่ากับผม โดยเฉพาะชุมชนนี้ที่เป็นชุมชนมุสลิม ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้เห็นบรรยากาศที่มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม มีความผูกพันเรื่องศาสนา และความเชื่อ ความศรัทธา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตัวตนของผมด้วย ผมจึงหยิบเรื่องราวนี้มาสะท้อนผ่านงานชุดนี้ครับ” – อัชมาวีย์ การี
ตลอดระยะเวลา 13 วันของการจัดนิทรรศการทั้งสองสถานที่ ได้แก่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และมันมัน แกลอรี่ ศรีนครินทร์ มีผู้เข้าชมรวมกว่า 80,000 คน พร้อมเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามที่มองว่าเป็นเวทีศิลปะร่วมสมัยที่เปิดกว้างและสะท้อนมุมมองหลากหลายของสังคมไทยได้อย่างงดงาม