เมื่อเขมรจอมโกหก โดดซบอกอเมริกาจอมหลอกใช้ ไทยยิ่งต้องระวัง เหตุยังมี “ไส้ศึกส้ม” ผสมโรงแทะตามสั่ง
(12 ส.ค. 68) ผมค่อนข้างเชื่อว่าถ้าไม่เกิดปัญหาสู้รบกันริมชายแดนระหว่าง “ไทยกับเขมร” ในห้วงเวลานี้ คนไทยจำนวนมาก ก็คงจะไม่ทราบว่า ผู้นำ ตลอดจนคนกัมพูชาจำนวนไม่น้อยมีนิสัยชอบสร้างเรื่องเท็จออกสู่สังคม และขาดปัญญาในการตรองหาข้อเท็จจริงชนิดที่ว่าไม่น่าจะมีเกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “คน” ได้เลย ความล้าหลังของล้าหลังทั้งปวง ต่ำทั้งจริยธรรม คุณธรรม ไร้ความรู้ และสามัญสำนึก หาดูได้ในสิ่งที่เรียกว่า “คนกัมพูชา” ยากจะมีในชนชาติอื่น
มากกว่าความปลิ้นปล้อน กลิ้งกลอก และการแต่งเรื่องโกหกรายวันเพื่อให้ “สังคมโลกเข้าใจผิด” ยังเป็นประเทศที่ “ไร้ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ” อย่างร้ายกาจ เรื่องการถูกหักหลังโดยกัมพูชา ประเทศที่เจ็บปวดอย่างเวียดนาม, จีน และไทยเราเองต่างรู้ซึ้งเป็นอย่างดี แต่เพราะความใจดีของ “สามชาติสุภาพบุรุษ” ที่ไม่อยากหมดเวลาไปกับการทำสงคราม จึงทำให้ “ชาติแห่งการเนรคุณ” ยืนหยัดสร้างความเสียหายให้กับโลกของเรามานานกว่าสิบปี ทั้งบ่อนพนัน, แหล่งค้ามนุษย์, ค้ายาเสพติด, เซฟเฮาส์ที่หลบซ่อนโจรทางการเมืองจากต่างประเทศ และที่สร้างความเสียหายต่อสังคมโลกมาหนัก ๆ ตลอดสามสี่ปีมานี้ก็คือ สแกมเมอร์, แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์
กลายเป็นประเทศที่เปิดหน้าว่าข้าคือ “โจรร้ายแห่งเอเชีย” หาเงินเข้าประเทศด้วยวิถีโจรอย่างเดียว แต่ถึงขนาดผู้นำชาติเป็น “โจรเถื่อน” ก็ยังมี “หนึ่งตระกูลที่ไม่ต่างจากโจร” ของประเทศไทย คอยอิงแอบ แนบชิด มีผลประโยชน์ร่วมกัน กระทั่งถึงวันที่ “ผลประโยชน์ไม่ได้ดังใจ” จึงเกิดสงครามชายแดน นำความสูญเสียของใหญ่หลวงตามมา ที่เจ็บใจที่สุดคือทำให้คนไทยผู้บริสุทธิ์ และทหารกล้าของไทยต้องเสียชีวิตเพราะ “ความชั่วของตระกูลหนีคดี” เป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริง
เมื่อเขมรสู้ไทยไม่ได้ จึงหนีจีนหันไปซบอกอเมริกา แลกกับผลประโยชน์ทางพื้นที่ทั้งบนบก และทางทะเล เหนือใด ๆ เป็นการสร้างภาพไว้ต่อรองที่จะหาทางรอดให้กับตนเอง
มองดู “นิสัยเขมร” แล้วชวนนึกถึง “ส้มสามกีบ” นั่นคือไม่มีหลัก ไม่มีราก ไม่มีความกตัญญู และไร้สัมมาทิฏฐิ ใครที่ยอมหมอบคลานให้กับชนชาติอื่นเพื่อเงิน ซ้ำยังคอยเป็น “ไส้ศึก” โจมตีประเทศตัวเองตามใบสั่ง คิดหรือว่าจะมีไอ้โง่ที่ไหนมันจะเชื่อ “คนเนรคุณชาติตัวเอง”
ก็แค่ “หลอกใช้ให้เช็ดรองเท้า” ไปวัน ๆ เท่านั้นแหละครับ