บอสณวัฒน์ ลั่น ชาล็อต ช่วงนี้แอบดื้อ ไม่ตอบแชท-ไม่อวยพรวันเกิด เตรียมยื่นโนติสต่อสัญญา ยืนยันยังไม่สั่งพักงาน
จากกรณี บอสณวัฒน์ ประธานองค์กร MGI ตอบคอมเมนต์แฟนคลับของสาว ชาล็อต ออสติน ที่ได้มีคอมเมนต์ถาม ผ่านไลฟ์สดของ บอสณวัฒน์ ถึงผลงานใหม่จะมีเพิ่มเติมอีกเมื่อไหร่ รวมไปถึงการที่มี ภาพของชาล็อตในงานวันเกิดของ ฟรีน สโรชา ที่ถูกเผยแพร่อยู่เต็มโซเชียล ล่าสุดเจอตัว บอสณวัฒน์ในงาน Queen of Thai Silk สำหรับการเก็บตัว Miss Universe Thailand2025 ที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้เปิดใจว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แรงมากคุณน้า! “ทนายธรรมราช” โดนชายปริศนา ทำร้ายจนร่วงกลางวงสัมภาษณ์
- แซ่บทิ้งทวนก่อนฤดูหนาว “วุ้นเส้น” โชวลุคสวมบิกินี่สีส้ม
ตอนนี้ชาล็อตไม่ค่อยเชื่อฟังแล้ว?
“ช่วงนี้ชาล็อตแอบดื้อนิดนึง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันรู้สึกแปลกๆ อย่างเช่นเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วมีการส่งข้อมูลผ่านทางไลน์ส่วนตัวไปให้ชาล็อต น้องก็ไม่ได้อ่านประมาณ 3 วัน 4 วัน จนผมประชุมบริษัทผมได้บอกหัวหน้าเออาร์ว่าไปดูศิลปินของเธอสิว่าทำไมไม่ตอบ ceo เลย มันเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าวันนั้นสั่งงานไปก็อยากให้ทำวันนั้นเลยด้วย เพราะวันนั้นมีงานชาลิตี้ที่จะมอบให้กับทหารที่เสียชีวิต ตอนนี้เราได้ทยอยโอนเงินแล้วฝากเรื่องทหารนิดนึง เราได้ให้คนละ 20,000 บาท ทั้งหมด 15 คน เราทยอยโอนไปได้ 8-9 คนแล้ว เพราะเราต้องตรวจสอบให้ถูกว่าเป็นภรรยาและแม่จริง เราก็เลยอยากให้ชาล็อตเป็นส่วนหนึ่ง ก็คือจะร่วมบริจาคไหม แต่น้องก็ไม่ได้อ่าน หลังจากนั้นผ่านอีก 2-3 วันก็ยังไม่อ่าน ก็เลยมีความรู้สึกว่าทำไมน้องไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แล้วก็เมื่อวันที่ 10 เป็นวันเกิดผม คือศิลปินทุกคนก็จะทำผ่านโซเชียลส่วนตัว ทั้งสตอรี่ทั้งอินสตสแกรม บางคนก็มีเฟซบุ๊ก แต่ด้วยความที่เราเป็นศิลปินที่อยู่ในบ้าน เป็นลูกหม้อ เขาก็จะส่งไลน์ส่วนตัวกันหมด ไม่ว่าจะเป็น หลิน (หลิน มาลิน) กชเบล (กชเบล ศรัณย์รัชต์) เฌอเอม (เฌอเอม ชญาธนุส) ทุกคนเขาส่งกันหมด ยกเว้นชาล็อตคนเดียว จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ส่งอะไรเลย ตั้งแต่วันนั้นมาก็ยังไม่ส่งอะไรเลย ผมก็เลยเอ๊ะว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยมีความรู้สึกว่าดูแปลกๆ สาเหตุที่ผมพูดไม่ได้หมายความว่า เอ๊ะ หรือทำไมไม่ถามลับหลังหรือพูดกันเอง ก็เพราะแฟนคลับชอบมาคอมเมนต์ขณะที่ผมทำงานอยู่บนโซเชียล ทำไมไม่หางานให้ชาล็อต ทำไมไม่หางานเดี่ยว ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะผมก็ยังติดต่อน้องไม่ค่อยได้เลยช่วงนี้ แล้วผมจะหางานอะไรให้น้อง แต่ว่าตอนนี้ผมขายมิเตอร์ให้ตัวหนึ่งก็หลายล้าน แล้วก็คอนเฟิร์มเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าน้องรู้หรือเปล่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา จะทำอะไรมันก็ยากนิดนึง“
แล้วเรื่องที่ไปร่วมงานวันเกิดฟรีน?
”เรื่องที่น้องไปร่วมงานวันเกิดฟรีน (ฟรีน สโรชา) จริงๆ แล้วผมว่าแฟนคลับต้องอย่าโอ๋ หรืออย่าเอาใจจนทำให้น้องเข้าใจอะไรผิด อย่างผมพูดไปเมื่อสักครู่ที่ผมอ่านคอมเมนต์ชาล็อตกับฟรีนเขาสนิทกันมากเขาเป็นเพื่อนกันนู่นนี่นั่น เพราะฉะนั้นปล่อยเขาบ้างเถอะ อะไรใดใด ผมรู้ว่าแฟนคลับต้องการช่วยให้บรรยากาศ และปกป้องศิลปินของเขา แต่จริงๆ แล้วสิ่งสำคัญคือผมไม่ได้บอกว่าไปไม่ได้ สิ่งสำคัญคือทุกอย่างศิลปินต้องไปตามข้อกำหนดของการจัดการ ถ้าเขาคอมเมนต์ว่าให้ไป ไปเพราะอะไร ไปแบบไหน เอาเออาร์ไปด้วยไหม มันจะมีวิธีการ แต่เรื่องนี้เราคุยกันแล้วว่าไม่ได้ไป แต่ว่าไม่ได้ไปเพราะมีปัญหากับฟรีนไม่ใช่ เพราะเดี๋ยวก็ทำงานกับฟรีนเบคเหมือนกัน ไม่ได้เกี่ยวแต่เมื่อมันถูกออเดอร์จากการจัดการว่างานนี้ไม่ไป งานนี้ไป มันมีเหตุผลของมัน เพราะฉะนั้นก็อย่าแหกคอก อย่าอยู่ๆ แอบไป ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ และการไปโดยที่ไม่มีเออาร์ ไม่มีผู้ช่วย ภาพที่ปรากฏ และสื่อบางสื่อที่เอาไปใช้เพื่อประโยชน์ของตน มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องดูแลภาพลักษณ์ เราไม่ว่ากันถ้าสนิท แต่ถ้าจะไปยืนกรี๊ด หรือทำอะไร หรือมีคนถ่ายคลิป สถานีโทรทัศน์เอาไปใช้ บางทีตำแหน่งของศิลปินมันทำไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจนิดนึงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นบอยเลิฟหรือเกิร์ลเลิฟ คู่ที่ค่อนข้างจะเฟมัสอยู่เขาจะควบคุมลักษณะกันหมด คุณลองนึกดู อย่างเช่นคู่เจมีไนน์โฟร์ท แค่จะทำอะไรมันก็ต้องดูลักษณะว่าแบบนี้ได้ไหมแบบนี้ได้ไหม ผมยังไม่เห็นความเป็นอิสระส่วนตัวมากจนเกินเหตุ เพราะฉะนั้นแฟนคลับชาล็อตต้องเข้าใจนะครับ ถ้าคุณจะคอมเมนต์แปลกๆ ว่าเป็นเรื่องของเขา ไม่นะครับมันเป็นเรื่องของเรา อย่าเข้าใจผิด ถ้าคุณยังสปอยล์น้องแบบนี้ อายุการใช้งานของน้องจะสั้นมาก แล้วมันจะลำบาก เพราะเราต้องเข้าใจถึงความเป็นมืออาชีพ เด็กรุ่นใหม่ๆ ทุกคนอย่างผมก็รู้จักวง BUS น้องภีมผมก็รู้จักกัน มันจะถูกกำหนดไว้หมดเลยแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ทีนี้เรื่องนี้มันถูกเอาไปใช้ออกสื่อ ทันทีที่ออกสื่อเราก็ต้องควบคุม ไม่ว่าลักษณะการแต่งตัว ลักษณะการแต่งหน้า ตำแหน่งที่คุณไปยืน ลักษณะอาการที่คุณทำ หรือคุณไปยืนถ่ายรูปกับใคร เราต้องระวังหมดเพราะคุณคือมูลค่า ไม่งั้นสปอนเซอร์เราก็จะโกรธ พรีเซนเตอร์เราก็จะไม่ชอบหรือเปล่า ที่สำคัญที่สุดคือบริษัทมีระบบการทำงานไม่ได้ปกป้องที่จะไม่ให้คุณไปไหน ถ้าปกป้องไม่ให้ คุณไปไหนคุณไปไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแค่ว่าถ้าคุณจะไปต้องไม่ออกสื่อ แต่ถ้าคุณออกสื่อคุณต้องถูกเราพาไป เพราะตอนนี้มันเอาไปใช้ในสื่อกันค่อนข้างเยอะ“
ที่บอกว่าน้องไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน คิดว่าเป็นเพราะอะไร?
“ไม่รู้ครับ อาจจะเป็นเพราะเวลานานขึ้น แล้วก็น้องอาจจะอยากมีงานเพิ่ม ผมก็พยายามหาให้ แต่ว่าในขณะที่น้องเดินห่างจากผมไป แล้วงานจะเพิ่มได้โดยวิธีไหน ต้องเชื่อกันด้วย ถ้าไม่เชื่อกัน ทีมจัดการ ทีมขายของ ทีมขายศิลปิน ทีมดูแลเขาก็ท้อใจ เขาท้อใจ เพราะว่าคนที่รับงานตามเบอร์เขายังไม่รู้เลยว่าไปงานนี้ เพราะว่าไม่ได้ขออนุญาตอย่างเป็นทางการ ทุกงานต้องขอ ยกเว้นไปกินข้าวกับเพื่อนกับพ่อกับแม่”
หลังจากนี้จะคาดโทษยังไงบ้าง?
“ไม่ได้คาดโทษแต่ให้ผู้ใหญ่ในออฟฟิศเป็นคนคุย ผมก็แค่ออกมาอธิบายเพิ่มและพูดถึงในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าหลักๆ ก็คือให้หัวหน้าเออาร์ หรือคนที่ออฟฟิศที่เป็นผู้ใหญ่ลองดูว่าจะจัดระบบยังไง”
ถ้าเป็นแบบนี้ส่วนใหญ่จะใช้ไม้แข็งยังไง ?
“ก็ต้องปรับตัวเองให้กลับมา เพราะว่าอยากให้มาโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทำ และต้องมีมาตรฐานให้อยู่ร่วมกัน คนเราจะดังแค่ไหนก็แล้วแต่ พูดได้เลยว่าจะต้องไม่ลืมตัวเอง และคนเราจะดังจริงๆ ต้องใช้ความสามารถสูงๆ คนเราทุกคนเกิดมาจากวันที่หนึ่งเป็นแบบไหนก็เป็นแบบนั้น ไม่ใช่ว่านานวันขึ้นแล้วจะมองข้ามหัวเราหรือเปล่า หรือเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ว่าลักษณะการกระทำมันทำให้เรารู้ได้ว่า ความน่าเอ็นดูกับความไม่น่าเอ็นดูมันมีเส้นบางๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังด้วย ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนที่เขาไม่อยากส่งเสริม แต่ผู้ใหญ่เขาก็ส่งเสริมสำหรับคนที่จริงๆ หนึ่งคุณภาพ สองสม่ำเสมอ สามไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่ก็ยังเหมือนเดิม อันนี้คือสิ่งที่ชอบ”
หลังจากนี้จะพักงานน้องไหม ?
“ไม่พักครับยังไม่ได้พักครับ เพราะว่างานยังมีอยู่ค่อนข้างเยอะ”
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหรือเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว?
“ก็มีบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็เป็นจังหวะๆ แต่ว่าตอนนี้ดูแบบงงๆ ตรงที่ว่าเมื่อวันที่ 10 ที่ผมสงสัยก็คือที่น้องไปแล้วผมสงสัยว่าทำไมหลายคนเอารูปน้องกับคลิปน้องไปใช้เยอะโดยที่เราไม่รู้เรื่องเลย โดยที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วทำไมน้องต้องไปยืนกรี๊ดและถือดอกไม้แล้วก็กรี๊ดในวันเกิดคนอื่น โดยที่ต้องเข้าใจนะครับว่าเขาก็มีคู่จิ้นอยู่ เราจะไปทำอะไรเกินหน้าเกินตาก็ไม่ได้ สติต้องมี เราไม่ได้หมายความว่าสนิทหรือไม่สนิท แต่เราหมายความว่าสาธารณะมันต้องเข้าใจ เราต้องเข้าใจในบริบท ตัวเองก็ต้องมานั่งกรี๊ดสิ่งที่ตัวเองทำด้วย อันนี้เป็นต้น พูดให้ฟังครับ”
สัญญาน้องเหลือกี่ปี ?
“ตอนนี้ก็เหลืออยู่ประมาณสัก 2 ปีกว่า”
มีผลต่อการตัดสินใจในอนาคตไหม ?
“เดี๋ยวก็จะยื่นแจ้งเตือนไปว่าจะขอต่อสัญญาเลย เพื่อความมั่นใจว่าจะยังไปต่อกับเรา ถ้าต่อสัญญาเลยเราก็จะคุยและไปต่อ ถ้ายังไม่ต่อสัญญาเราก็ไปเท่าที่จะทำได้“