“หมาก” นอกกระดาน !?
เหมือนลูกจะเข้าทาง ได้จังหวะทำประตู แต่ปรากฏว่า “พรรคสีส้ม” พรรคประชาชน แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน กลับไม่แยแสส่งสัญญาณว่าต้องการเข้าร่วมในปฏิบัติการ “ซักฟอก” รัฐบาลในสภา ร่วมกับ “พรรคภูมิใจไทย” ที่เพิ่งเปลี่ยนข้างมาเป็น “ฝ่ายค้านป้ายแดง” ฝ่ายแค้น “พรรคเพื่อไทย” เสียอย่างนั้น
พรรคภูมิใจไทย เพิ่งย้ายตำแหน่งผู้เล่นมารับบท “ฝ่ายค้าน” แม้จะไม่เต็มใจนัก แต่กลับขึงขัง เพราะหวังว่าจะใช้ “เวทีสภาฯ” จัดการ “เพื่อไทย” แถมยัง “เอาคืน” ผู้นำรัฐบาลอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” ที่บัดนี้เหลือพื้นที่เพียง “รมว.วัฒนธรรม”
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้อง “คลิปเสียงฮุน เซน” เอาไว้พิจารณาและยังสั่งให้ “หยุดปฏิบัติหน้าที่” จนกว่าศาลฯจะมีคำวินิจฉัยออกมา
ผลพวงจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้นายกฯแพทองธาร ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้ด้านหนึ่งจะส่งผลกระทบในทางการเมืองตามมาแล้ว แต่ขณะเดียวกัน กลับกลายเป็นการ “เบรก” การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามที่พรรคสีน้ำเงิน ประกาศกร้าว ทั้งที่มาเป็น ฝ่ายค้านได้เพียง 3 วันไปโดยปริยาย
โดยหากอ้างจากการให้สัมภาษณ์ของ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อธิบายกับสื่อเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำสั่งออกมาในวันที่ 1 กรกฎาคม ว่า หากศาลฯสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คงยื่นซักฟอกนายกฯไม่ได้
“หากศาลสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่สามารถยื่นอภิปรายได้ แต่ยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายเฉพาะนายกฯ เพียงคนเดียว หรือรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย ต้องดูญัตติก่อน แต่เชื่อว่าฝ่ายค้านจะดูด้วยความรอบคอบว่าจะอภิปรายใครบ้าง” (30 มิ.ย.68)
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคส้ม ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังกลายเป็น “จุดอ่อน” ที่ทำให้ถูกบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า นอกจากที่ผ่านมาจะ “ชกไม่เต็มหมัด” แล้ว ยัง “กั๊ก” ไม่ยอมเล่นบทโหด ด้วยการร่วมมือกับพรรคสีน้ำเงิน ใช้เวทีสภาฯ อภิปรายไม่ไว้วางใจ จะด้วยเพราะ “หวัง” ที่จะร่วมรัฐบาลในครั้งหน้า หลังการเลือกตั้งปี 2570 ใช่หรือไม่
อย่างไรก็ดี หากมองในมุมของพรรคสีส้ม ที่ต้องรับบท เป็น “ตัวแปร”ทางการเมืองหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะการเข้าไปเป็น “สมการ” หรือ “สูตร” จัดตั้งรัฐบาลตามข่าวลือ ข่าวลวงมาตั้งแต่ พรรคเพื่อไทยเปิดศึกกับพรรคภูมิใจไทย ก่อนมาถึงการปรับพรรคภูมิใจไทยพ้นรัฐบาลผสม
และขณะเดียวกัน พรรคประชาชน ยังถูกดึงเข้าไปเกี่ยวพันกับการสร้างอำนาจต่อรอง ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับ พรรคร่วมรัฐบาล ด้วยการปล่อยข่าวว่า เตรียมจะดึงเข้ามาร่วมรัฐบาล เพื่อกำราบพรรคร่วมฯ จนทำให้พรรคส้มต้องออกมาปฏิเสธ แข็งขัน ว่าไม่คิดร่วมรัฐบาลกับใครทั้งสิ้น จนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่
จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่พรรคส้ม พุ่งเป้าไปที่การเรียกร้องให้แพทองธาร ควรตัดสินใจ “ยุบสภา” เพื่อเปิดทางให้ทุกพรรค ทุกสี ลงไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง บนความเชื่อ และความมั่นใจว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ กระแสพรรคประชาชน จะแรงแซงหน้าทุกพรรคโดยไม่ต้องสงสัย
แต่ดูเหมือนว่าเสียงเรียกร้องของพรรคประชาชน ยังห่างไกลกับความเป็นไปได้ เมื่อ อำนาจการตัดสินใจยุบสภาฯยังอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทย ซึ่งแน่นอนว่าพรรคเพื่อไทย จะไม่ยอมลงสนาม ตราบใดที่ ไม่มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งแล้วได้กลับมาอีกครั้ง
สถานการณ์ของพรรคประชาชน ในท่ามกลางการต่อสู้ ระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับศัตรูมาจากรอบทิศรอบทาง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ “เก้าอี้นายกฯ” ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ได้ว่า แม้ “กระแสดี” แล้วพรรคส้ม จะได้มีโอกาสประคองตัวไปจนถึงวันเลือกตั้งครั้งใหม่ อย่าลืมว่า คดี 44อดีตสส.ก้าวไกล ว่าด้วยการลงชื่อเสนอแก้ไขม.112 นั้นยังรออยู่ ข้างหน้า
ดังนั้น สมการการเมืองครั้งต่อไป ยังตอบได้ยากว่าพรรคส้ม จะอยู่ตรงไหนบนกระดานการเมือง !?