“มีน พีรวิชญ์” ไม่ตกใจคลิป “ดรีม” เมาเละ แซวรู้มากกว่าในคลิป รับคุยอนาคตแต่ยังไม่คิดแต่ง
“มีน พีรวิชญ์” ไม่ตกใจคลิป “ดรีม” เมาหนัก แซวขำๆ รู้ทุกอย่างมากกว่าในคลิป เม้าธ์เมื่อก่อนไม่เที่ยว เรียบร้อย อยู่ในกรอบ แต่ตอนนี้มีปีกสวยๆ แล้ว รับพักหลังรู้ทางเวลาไปดื่มด้วยกันชิงเมาก่อนแล้วแฟนสาวจะไม่กล้าเมา เผยเคล็ดลับรักยืนยาว คุยกันทุกเรื่องจบในวันเดียว แพลนอนาคตสร้างบ้านใหม่หลังผ่อนบ้านปัจจุบันหมด เรื่องแต่งงานยังไม่คิด
กลายเป็นวีรกรรมที่ทำเอาแฟนๆ พากันขำกลิ้ง เมื่อยูทูปเบอร์หน้าหวาน “ดรีม อภิชญา พานิชตระกูล” กอดคอกันดริ๊งก์กันดื่มกับเพื่อนซี้ “ก้อย อรัชพร โภคินภากร” และ “นัตตี้ นันทนัท ฐกัดกุล” จนเมาหนักมาก
ล่าสุด “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” เผยถึงความขี้เมาของแฟนสาว “ดรีม อภิชญา” ที่เป็นสายปาร์ตี้ว่า ตนไม่เคยห้ามเรื่องการดื่มของแฟน เพราะรู้ว่าเขาดูแลตัวเองได้ดี หากครั้งไหนตนไปด้วยก็ดูแลได้ หรือหากตนไม่ไปเขาก็จะมีเพื่อนดูแล แซวขำๆ พักหลังรู้ทางเวลาไปดื่มด้วยกัน ตนก็ชิงเมาก่อน
“จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ดื่มน้อย แล้วเป็นคนที่ถ้าเมื่อก่อนจะกลับบ้านเที่ยงคืน ก็จะเริ่มได้ประมาณ 22.00 น. เพราะว่าเขาจะสูบฉีดเร็วนิดนึง แล้วเวลาไปต่างประเทศเขาจะสนุกทิ้งตัวเอ็นจอยครับ เดี๋ยวนี้คอแข็งขึ้นเยอะแล้ว เมื่อก่อนแก้วสองแก้วก็มึนแล้ว เดี๋ยวนี้เขาเก่งขึ้นมากเขามีพัฒนาการที่ดี”
ไม่ตกใจคลิปดรีมเมาหนัก ยันรู้ทุกอย่างมากกว่าในคลิป
“ถ้าถามเรา เราไม่ตกใจนะแต่ตลกมากกว่า เรารู้ว่าเพื่อนเขาทุกคนเป็นแก๊งที่เขาซัปพอร์ตกันเขาช่วยเหลือกันอยู่แล้วเขาก็เลยกล้าที่จะทิ้งตัว เราว่าปกตินะเวลาเราไปต่างประเทศ เราทำอะไรก็ได้ไม่มีใครรู้จักเราสนใจเรา แล้วอากาศดีหนาวเหมาะกับการดื่มโจ๊กร้อนๆ อาจจะมีการดื่มเข้าไปแล้วก็คายโจ๊กออกมาบ้างก็เกิดขึ้นได้
คือจริงๆ เห็นมากกว่าในคลิป เหมือนเวลาเขาอาจจะส่งรูปมาหรือว่าเพื่อนเขาเล่าให้ฟัง หรือเขากลับมาแล้วเล่าให้ฟังเราคิดว่าเราค่อนข้างรู้มากกว่าในคลิป เรารู้แล้วก็เป็นห่วงตั้งแต่โมเมนต์นั้นอยู่แล้ว แต่เราก็รู้ว่าเขามีคนพร้อมที่จะช่วยเหลือกันซัปพอร์ตกัน แล้วพอมาดูในคลิปมองเป็นมุมน่ารักดีกว่า ก็คงห่วงตอนตื่นมาแหละว่า อาจจะแฮงก์ไหม แต่ถ้าระหว่างกิจกรรมความสนุกก็ไม่ห้ามนะ”
แซวขำ ๆ พักหลังรู้ทางเวลาไปดื่มด้วยกัน ตนชิงเมาก่อน แล้วแฟนสาวก็จะไม่เมา
“ก่อนคบกันรู้ครับว่าเป็นคนเอ็นจอยโมเมนต์กับเพื่อนเวลาปาร์ตี้ ก็พยายามบอกให้ดูแลตัวเอง หรือว่าถ้ามีคนไปด้วยเราก็จะมีรีเช็คบ้าง แล้วก็ฝึกให้เขากิน เราไม่ดุ ดุไม่ได้ พูดไปก็หาว่าเม้าธ์อีก คือจะมีเรื่องที่เราจะรู้กันว่า ถ้าสมมติไปปาร์ตี้เราห้ามถามว่าจะกลับกี่โมง คือไม่ได้ห้ามถามแต่ว่าถ้าถามไปเขาจะรู้สึกว่าเขากังวล แล้วเราก็รู้สึกว่าเขาก็ทำงานหนัก ก็มีพาร์ตการทำงานที่เข้มข้น เวลาเขาเที่ยววันไหนที่เขาสนุกก็ปล่อยเขา แต่ว่าก็จะถามมีใครไปบ้าง ถ้าวันไหนเราไปก็โอเค แต่ว่าเรากลับก่อนบ่อยมากเลยนะอันนี้ขอสารภาพเพราะว่ามันดึก เวลาถ้าไปด้วยกันเราจะแอบกลับก่อนอยู่บ่อยๆ แต่ก็จะเห็นว่าเขามีคนขับรถ ดูแลตัวเองได้
เวลาที่เราไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันห่วงอยู่แล้ว แต่เราก็บอกเขาตลอดว่าอัปเดตมานะ ส่วนใหญ่เขาก็จะบอกกำลังกินกันอยู่ จังหวะเริ่มแอลกอฮอล์ไปครึ่งถังแล้ว ก็เริ่มโทร.มาบอกส่งรูปมาให้ดู เราก็จะไม่เบรกหรือไม่งั้นเราก็ชิงเมาก่อน เพราะถ้าเราชิงเมาปุ๊บเขาก็ต้องดูแลเรา เขาก็จะไม่กล้าเมาอันนี้เป็นความลับเลยนะครับ ห่วงไม่ห่วงแต่ถ้าวันไหนเรากลัวเขาเมา เราจะชิงเมาก่อนเลย
เราก็เคยถามว่ากลับกี่โมง เขาก็บอกว่าไม่ถามได้ไหม เดี๋ยวไม่สนุก เดี๋ยวเบื่อก็กลับ (คือเราตามใจ?) เข้าใจมากกว่า เราก็อาจจะผ่านโมเมนต์พวกนั้นมา เราก็รู้สึกว่าเวลาเราทำงานหนักๆ เราได้พักผ่อนเราก็ไม่อยากกังวลเรื่องอะไร เหมือนเด็กๆ เขาไม่ค่อยได้กิน เมื่อก่อนเขาเป็นคนที่ไม่เที่ยว เป็นเด็กเรียบร้อยเป็นเด็กอยู่ในกรอบนิดนึง แบบตั้งใจเรียน เรียนเสร็จกลับบ้าน แล้วพอได้เริ่มไปกับแสงสีเริ่มมีปีกที่สวยๆ แล้ว”
มองแฟนสาวไปปาร์ตี้ก็เป็นความสุขของชีวิตเขาจะได้คลายเครียด
“เห็นเขาสนุก เราเห็นพาร์ตที่เขาเครียดแล้ว พอเราเห็นพาร์ตที่เขาสนุกแล้วเรารู้สึกว่าถ้าเขาสนุกขนาดนี้มันก็เป็นเวลาของเขาที่มันก็ไม่ได้เยอะแล้วก็รู้ว่าพรุ่งนี้ไม่ได้ทำงาน แต่ถ้าวันไหนพรุ่งนี้มีงานเช้าเราก็จะห้ามได้ ส่วนใหญ่ก็จะคุยกันเยอะ เรื่องไหนที่เราคิดว่าทำแบบนี้ไม่ดีก็จะคุย ไม่ได้ดุหรอกจะคุยกันมากกว่าบอกกันมากกว่าแลกเปลี่ยนกันอะไรแบบนี้
อยากเห็นพาร์ตเวลาเขาดุ เขาดุยังไง เขาจะทำได้แบบจริงจัง ไม่ถามได้ไหม เดี๋ยวเบื่อก็กลับ เราก็โอเคก็ได้ๆ แต่มันก็ไม่ได้เชิงคำสั่ง เขาก็อยากใช้เวลานี้เราก็เห็นเขามีความสุขดี ให้ห้ามความสุขคนก็ไม่ได้หรอกครับ”
เวลาโกรธ งอน ทะเลาะกัน ลดอีโก้ หันหน้าคุยให้จบภายในวันนั้นลดปัญหาระยะยาว
“ต้องปรับเข้าหากันเรื่อยๆ ถามว่าอะไรที่หนักแน่นให้มาถึงทุกวันนี้ เราว่าคุยกันแหละ คือตั้งแต่รู้จักกันมาคุยกันมาน้อยครั้งมากที่จะมีปัญหากันเกินวันหนึ่งข้ามคืน คือมันเป็นโจทย์ที่คุยกันไว้แล้วก็พยายามทำให้ได้คือถ้ามีปัญหาก็ต้องเคลียร์กันให้ได้ก่อนนอนภายในวันนี้ไม่ให้ค้างข้ามวันไป เรารู้สึกว่าเมื่อก่อนถ้าเรามีปัญหากับใคร ไม่ใช่เรื่องความรัก เรื่องงานเรื่องความสัมพันธ์ ถ้าเรามีปัญหากับใครเรายอม เรารู้สึกว่าเราขี้เกียจเถียง ยอมไปเงียบใส่แต่มันก็จะเป็นปัญหาระยะยาว
แต่ถ้าเราเคลียร์กันเลยคุยกันเลย แต่ก็คุยด้วยเหตุผลแหละอาจจะมีอารมณ์บ้างก็เข้าใจได้ แต่พอมันเคลียร์กันจบมันกลายเป็นว่า ความเข้าใจมันเกิดขึ้นแล้วมันอยู่ยาวกว่า ยอมทะเลาะกันสัก 1 ชั่วโมง หรือ 1 วันแลกกับการเข้าใจกันไปอีกตลอด ซึ่งคนเรามันมีเรื่องที่คิดเห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกบอกกันไหม หรือบางทีเราคิดว่าเรื่องนี้เราถูกมากเลยนะพอเราพูดไป แต่ฟังเหตุผลที่เขาพูดกลับมาเอ่อมันเป็นอีโก้เราประมาณนึงเหมือนกันเนอะ มันก็จะได้ปรับจูนหากันบ้าง”
เผยคุยเรื่องอนาคตกันตลอดแต่ยังไม่คิดเรื่องแต่ง
“เราไม่รู้เลยอย่าถามเราเลยเราไม่อยากเดา ทุกคนก็มีพาร์ตของตัวเองแล้วกันที่อยากทำ อยู่ที่จังหวะและเวลาพูดไป พอพูดคู่เราก็กดดันคู่เรา พอพูดคู่เขาก็กดดันคู่เขา อย่าเลยๆ แต่เห็นเขาสร้างบ้านกันแล้ว
มันก็มีคุยกันตลอดแหละ ทุกวันนี้อยากทำอะไร อนาคตเป็นยังไง เราคิดว่าพอมันอายุมากขึ้นมันก็คุยกันแบบอย่าพูดว่าเป็นการกำหนดเลย แชร์กันเป็นไอเดียมากกว่าว่าอยากทำอย่างนั้นอยากทำอย่างนี้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เราอยากคุยเรื่องความฝัน บ้านเรายังผ่อนไม่หมดเลย ให้เราผ่อนบ้านหลังที่เราเพิ่งทำเสร็จก่อน ขออยู่กับพ่อแม่ก่อน บ้านที่ฉะเชิงเทรายังขายไม่ออกเลย ปล่อยเช่าอยู่ ตอนนี้บ้านเราเสร็จหมดแล้วอยู่มาสักพักใหญ่แล้ว
ถ้าจะสร้างเรือนหอต้องเป็นหลังใหม่ หลังนี้เหมือนเป็นการทดลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ความต้องการก็จะต่างกันออกไป ก็ได้เรียนรู้มาเยอะมากเลยกว่าจะสร้างเสร็จ รู้สึกดีใจที่ได้สร้างบ้านหลังแรกไปเพราะว่าปัญหาเยอะ แล้วบางอย่างสร้างมามันไม่ใช่ฟังก์ชั่นจริงๆ ชอบเพราะดูในรูปสวย แต่พอสุดท้ายใช้งานจริงอยากเปลี่ยนทุกวันเลย ก็จะทำให้เรารู้ว่าอนาคตที่เราสร้าง ถ้าเราจะสร้างบ้านหลังใหม่เราจะต้องทำอะไรแนะนำได้”
ขอผ่อนบ้านหลังปัจจุบันให้หมดก่อน
“ไม่แน่ใจเลย ถ้าเราจะมีครอบครัวก็ต้องมีบ้านหลังใหม่เพิ่มแหละ แต่ว่าจะมาก่อนมาหลังจะอะไรยังไงเป็นเรื่องอนาคตแล้วกัน แล้วแต่คู่แล้วแต่คนแล้วกันถ้าถามเรา แล้วแต่ความพร้อม ณ ตอนนั้น แล้วแต่เวลาแล้วแต่จังหวะที่เหมาะสม เราเชื่อว่าทุกคนก็อยากมีแหละ ทุกคนก็อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากมีครอบครัว เราเชื่อว่ามันมาพร้อมกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องอยู่ที่แต่ละคนต้องอยู่ที่แต่ละครอบครัวว่าอันไหนมันจะมาก่อนวันไหนจะมาหลังให้ความสำคัญกับอะไร ถ้าบ้านต้องมาก่อนแต่ต้องรอไปอีก 10 ปี แบบนี้มันก็ไม่ไหว แต่ถ้าแต่งกันวันนี้แต่ยังไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย เราคิดว่าทุกคู่ก็มีวิธีการจัดสรรของตัวเองที่ทำให้มีความสุขแหละ เราไม่อยากให้มองเรื่องของการแต่งงานเป็นแบบแฮปปี้เอนดิ้ง จุดเริ่มต้นของซัมติงหรือจุดจบของซัมติงมันก็คือพาร์ตหนึ่งในชีวิตที่มันต้องมีอย่างอื่นด้วย
พาร์ตของการเป็นลูก เราก็ทำให้พ่อแม่เรียบร้อยแล้ว คือถามว่าทุกวันนี้พอเราโตขึ้นเราก็มองพาร์ตของความสัมพันธ์อนาคตมากขึ้น แต่พาร์ตของตัวเราเองมันก็ยังมีอยู่ เราก็พยายามบาลานซ์สองพาร์ตนี้ให้มันบาลานซ์ในช่วงชีวิตนี้ ก็มีแต่คุยมีเป้าหมายว่า อีกกี่ปีจะเป็นยังไงอยากทำอะไร แต่ว่ายังไม่บอกครับ เก็บไว้ก่อนเก็บไว้ให้มาถามอีก”
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO