น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 5.52 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทอุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว
ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ
อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง
ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว ทำอาหารแจกเข้าสู่วันที่ 3 วัน ซึ่งพ่อครัวจิตอาสา ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่วันที่แรกที่เกิดการปะทะ กำลังจะเก็บของอพยพ แต่มีเจ้าหน้าที่และชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ได้ออกจากพื้นที่ไม่มีอาหารรับประทาน จึงตัดสินใจอยู่ในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือด้านเสบียง อีกทั้งมีเพื่อนๆ ที่ทราบข่าวได้ช่วยการสนับสนุนบริจาคทุนทรัพย์ในการทำอาหาร แจกจ่ายประชาชนในพื้นที่
ตลอด 3 วันที่ผ่านมา จะนำอาหารบรรจุเป็นกล่อง โดยประชาชนในพื้นที่ ที่ทราบจะมารับด้วยตนเอง อีกส่วนหนึ่ง นำไปแจกจ่ายกับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนส่งจนทั่วพื้นที่ ซึ่งบางคนต้องเฝ้าบ้านเรือน ไม่มียานพาหนะออกมารับได้ ทั้งนี้พ่อครัวจิตอาสา ยังติดตามผลการเจรจาของทั้งสองประเทศไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรอยากให้ยุติความรุนแรงก่อน เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
ส่วนบรรยากาศในศูนย์อพยพอีกหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนจิตอาสารวมถึงประชาชนต่างหลั่งไหลมาช่วยกันบรรจุแพ็กอาหารเพื่อนำไปส่งยังศูนย์อพยพต่างๆ รวมถึงพระสงฆ์ในพื้นที่ ที่เดินทางมาช่วยเป็นสะพานบุญทั้งการติดต่อประสานงานและการรับบริจาคสิ่งของ รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอาหารในพื้นที่ให้เพียงพอ โดยให้ข้อมูลว่าในยามวิกฤติแบบนี้ถึงแม้จะเป็นพระสงฆ์ แต่ก็เป็นคนไทย จึงต้องช่วยกันเหลือกัน เพื่อให้ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปให้ได้.-สำนักข่าวไทย