จดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ 5 เดือนแรก ลดลง 5.68% แต่มีทุนเข้ามาเพิ่ม 11.89%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยสถานการณ์จดทะเบียนธุรกิจเดือนพฤษภาคม 2568 และ 5 เดือนที่ผ่านมาปี 2568 พบมีธุรกิจตั้งใหม่ 6,667 ราย ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย ด้านทุนจดทะเบียนสะสม 5 เดือนพุ่งแตะ 131,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ในช่วง 5 เดือนของปี 2568 (มกราคม-พฤษภาคม 2568) มีจำนวน 36,815 ราย ลดลง 2,217 ราย (-5.68%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (39,032 ราย) ในขณะที่ทุนจดทะเบียน 131,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,927 ล้านบาท (11.89%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 2,910 ราย ทุนจดทะเบียน 5,988 ล้านบาท
2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,483 ราย ทุนจดทะเบียน 9,314 ล้านบาท และ
3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 1,537 ราย ทุนจดทะเบียน 3,027 ล้านบาท
ด้านการจดทะเบียนเลิก 5 เดือนของปี 2568 (มกราคม-พฤษภาคม 2568) มีจำนวน 4,776 ราย เพิ่มขึ้น 153 ราย (3.31%) เมื่อเทียบกับ 5 เดือนของปี 2567 (4,623 ราย) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 20,140 ล้านบาท ลดลง 51,704 ล้านบาท (-71.97%) เมื่อเทียบกับ 5 เดือนของปี 2567
ธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 447 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 847 ล้านบาท
2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 232 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 1,096 ล้านบาท
3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 202 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 487 ล้านบาท
ภาพรวมแม้ตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 จะมีจำนวนลดลง 5.68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 แต่หากดูที่มูลค่าการลงทุนจัดตั้งธุรกิจในปี 2568 จะพบว่า เพิ่มขึ้นถึง 11.89% เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าการลงทุนสูงเมื่อเทียบกับปี 2567 อาทิ ธุรกิจโฮลดิ้ง การผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ การผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม และการผลิตโซ่ ลวดสปริง สลักเกียว เป็นต้น
ในขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด การให้คำปรึกษาด้านการจัดการ การขายส่งสินค้าทั่วไป และการขนส่งและขนถ่ายสินค้า ยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดี เนื่องจากทั้งจำนวนการจัดตั้ง และมูลค่าการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้เมื่อเทียบกับปีแล้ว ซึ่งปัจจัยหนึ่งน่าจะสืบเนื่องจากนโยบาย และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล การขยายตัวของห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และการที่กลุ่มธุรกิจต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยบริหารจัดการและวางกลยุทธ์ของธุรกิจ เป็นต้น
เรื่องที่เกี่ยวข้อง