‘ชัชชาติ’ กับการวางแผนต่อท่ออำนาจ สู่ผู้ว่าฯ สมัยที่ 2

การเดินเกมที่ไม่ใช่แค่ “ทำงานหนัก” แต่คือ “คิดเป็นระบบ”

นับตั้งแต่วันแรกที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก้าวขึ้นเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย หนึ่งในคำถามที่ถูกตั้งแต่ต้นคือ “เขามีแผนจะไปต่อแค่ไหน?” คำตอบดูเหมือนจะชัดขึ้นในปีที่ 3 ของวาระ เมื่อหลายการเคลื่อนไหวบ่งบอกว่า แผนสู่สมัยที่ 2 ไม่ได้หวังแค่บริหารต่อ แต่คือการเชื่อมโยงทุน สื่อ พื้นที่ และความชอบธรรมให้เป็นท่ออำนาจในระยะยาว

1. ขยับจากผู้บริหารท้องถิ่น สู่ผู้สร้างระบบ

ชัชชาติไม่ได้ทำแค่ “ลุย” ในพื้นที่ แต่พยายามสร้างระบบที่ สืบทอดได้แม้ไม่มีตัวเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการดึงภาคีเครือข่ายเอกชนเข้ามาร่วมมือ (เช่น โครงการเดิน-วิ่ง-ปั่นในเขตเมือง, กรีนพาธ, ร่วมทำเมือง) หรือการตั้งระบบ Open Data เพื่อให้ข้อมูลของ กทม. เข้าถึงง่าย สืบตรวจสอบได้ ซึ่งต่างจากอดีตที่เน้นบุคคลไม่ใช่ระบบ

จุดนี้ทำให้เขาวางภาพของ “ผู้นำที่เปลี่ยนระบบ” ไม่ใช่แค่ “คนขยัน”

2. วางฐานเสียงใหม่ ไม่ใช่แค่เดิม

แม้ฐานเสียงหลักของชัชชาติคือคนเมือง-ชนชั้นกลาง แต่เขาเริ่มเจาะกลุ่มใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มแรงงาน คนรุ่นใหม่สายสิ่งแวดล้อม และชุมชนย่านเก่า ผ่านโครงการลงพื้นที่แบบมีสาระ ไม่ใช่แค่โชว์ภาพใกล้ชาวบ้าน โดยเฉพาะการเดินสายกับผู้อำนวยการเขต ซึ่งเสมือนการขยาย “ท่อน้ำเลี้ยงเสียง” ลงลึกถึงระดับเขต

3. วางตัวเป็นกลางแต่ไม่ว่างเปล่า

แม้ไม่สังกัดพรรค แต่ไม่เคยไร้อำนาจทางการเมือง ชัชชาติเลือกวางตัว “ไม่ขัดอำนาจส่วนกลาง” แต่ก็ไม่แสดงความสยบชัดเจน เช่น กรณีงบประมาณหรือการจัดการ PM 2.5 ที่บางครั้งใช้ “ข้อมูล” เป็นอาวุธมากกว่าคำพูด นี่ทำให้เขารักษาภาพเป็นกลาง ขณะเดียวกันได้ใจคนเบื่อขั้วการเมืองเดิม

4. ไม่สร้างศัตรู แต่ไม่ปล่อยอำนาจลอย

หลายคนคิดว่าเขา “ไม่มีทีม” แต่ความจริงคือมีการวางทีมที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น ใช้ influencer สายข้อมูล, นักวิชาการเมือง-สิ่งแวดล้อมเป็นโฆษกเงา, และมีสายสัมพันธ์กับภาคธุรกิจ-สื่อแบบ Loose Alliance ไม่จำเป็นต้องอยู่พรรคเดียวกัน แต่อยู่ในแนวคิดเดียวกัน

5. จะไปถึงสมัย 2 ได้ ต้องมีจังหวะ “ชูผลงาน”

ช่วงปี 2568-2569 จะเป็นปีทองของการ “ปล่อยของ” โดยเฉพาะโครงการที่เริ่มแต่ต้นสมัย เช่น ทางเท้าอัจฉริยะ, คลองโอ่งอ่างเฟสใหม่, รถเมล์ไฟฟ้าในมือ กทม., และการจัดการผังเมืองใหม่ หากสามารถใช้โครงการเหล่านี้เป็น “ภาพแห่งความต่อเนื่อง” จะกลายเป็นเหตุผลในการขออำนาจต่อ

บทสรุป: ชัชชาติไม่ได้แค่ “อยู่ให้ครบวาระ” แต่ “ต่อท่ออำนาจ” อย่างเงียบแต่มั่นคง

เส้นทางของชัชชาติสู่ผู้ว่าสมัยที่ 2 จึงไม่ใช่การหาเสียงแบบดั้งเดิม แต่คือการสร้าง “โครงสร้างอำนาจใหม่ในเมือง” ที่ประชาชนรู้สึกมีส่วนร่วม และต้องการให้เขาอยู่ต่อเพื่อทำให้เสร็จ ซึ่งอาจเป็นโมเดลที่ข้ามพ้นแนวทางแบบพรรคการเมืองเดิมไปเลยก็ได้

#Thepoint #Newsthepoint

#ชัชชาติสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่ากทม #โครงสร้างอำนาจใหม่ในเมือง