พาณิชย์ ชี้ 3 ปัจจัยกดดันข้าวไทย ส่งออก 5 เดือนแรกสาหัส ติดลบ 25%
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ในฐานะหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจการค้าของประเทศ ที่มีพันธกิจสำคัญในการยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้า พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในทุกระดับ และมุ่งสร้างความเข็มแข็งและความเป็นธรรมทางการค้า พร้อมปกป้องและรักษาผลประโยชน์สูงสุดทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย ให้สามารถฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและสถานการณ์ผันผวนทางการค้าระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี และเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์กรมฯ ใหม่ที่ว่า "ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความสำเร็จบนเวทีการค้าโลก ด้วยกฎระเบียบ มาตรการ มาตรฐาน และการให้บริการอย่างมืออาชีพ" กรมฯ จึงได้เร่งขับเคลื่อนแผนงานตามภารกิจของกรมฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของกรมฯ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค. - มิ.ย.) และแผนการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2568 (ก.ค. - ธ.ค.) ดังนี้
สินค้าข้าว
สถิติการส่งออกสินค้าข้าวไทยของปี 2568 (ม.ค. - พ.ค.) ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 3.05 ล้านตัน ลดลง 25.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 4.10 ล้านตัน และมีมูลค่า 63,098 ล้านบาท (ประมาณ 1,878 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ลดลง 34.03% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 95,645 ล้านบาท (ประมาณ 2,688 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
เหตุผลที่การส่งออกข้าวลดลง ได้แก่ (1) ปริมาณผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูก (ในปี 2568 คาดว่าผลผลิตข้าวโลกจะมีประมาณ 541 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 17 ล้านตัน) (2) อินเดียกลับมาส่งออกข้าวได้ตามปกติและมีปริมาณผลผลิตข้าวภายในประเทศปริมาณกว่า 150 ล้านตัน ทำให้แซงจีนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลก นอกจากนี้ อินเดียมีสต็อกข้าวปริมาณกว่า 60 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18%) จึงมีความสามารถในการแข่งขันด้านราคาเมื่อเทียบกับประเทศผู้ส่งออกอื่น และ (3) ประเทศผู้นำเข้าสำคัญโดยเฉพาะอินโดนีเซียมีความต้องการนำเข้าข้าวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดส่งออกสินค้าข้าวที่สำคัญ ได้แก่ อิรัก โดยไทยส่งออกข้าวไปอิรักมากเป็นอันดับหนึ่งที่ปริมาณ 0.41 ล้านตัน คิดเป็น 13.44% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด (เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.89%) รองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 0.37 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 8.82%) แอฟริกาใต้ 0.28 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 21.74%) จีน 0.25 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 78.57%) และฟิลิปปินส์ 0.13 ล้านตัน (ลดลง 55.17%)
ทั้งนี้ ไทยส่งออกข้าวลดลงประมาณ 25.61% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังสามารถส่งออกข้าวไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง อเมริกา และยุโรปได้เพิ่มขึ้น โดยไทยส่งออกข้าวไปภูมิภาคแอฟริกามากที่สุดที่ปริมาณ 0.97 ล้านตัน คิดเป็น 31.80% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด (ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.01%) รองลงมา ได้แก่ ภูมิภาคเอเชีย 0.79 ล้านตัน (ลดลง 56.83%) ภูมิภาคตะวันออกกลาง 0.56 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 12.00%) ภูมิภาคอเมริกา 0.48 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 6.67%) ภูมิภาคยุโรป 0.16 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 33.33%) และภูมิภาคโอเชียเนีย 0.09 ล้านตัน (ลดลง 18.88%)
แผนงานส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทย ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2568 (ก.ค. - ธ.ค.) ทั้งออนไซต์และออนไลน์ เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทยและช่วยให้มีคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าวไทยตลอดทั้งปี ดังนี้
จัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาขยายตลาดและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (3 – 6 ส.ค. 68) และประเทศญี่ปุ่น (7 – 10 ก.ย. 68)
ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้านานาชาติ ได้แก่ งาน Summer Fancy Food Show 2025 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (29 มิ.ย. – 1 ก.ค. 68) งาน Fine Food Australia 2025 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย (8 – 11 ก.ย. 68) งาน China-ASEAN EXPO (CAEXPO) 2025 ครั้งที่ 22 ณ เมืองหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน (17 – 21 กัก.ย. 68) และงาน ANUGA 2025 ณ เมืองโคโลญจน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (4 – 8 ต.ค. 68)
จัดงานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention (TRC) สัญจร 2025
ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคข้าวอินทรีย์ไทย “Healthy life by Thai Organic Rice” ร่วมกับร้านอาหาร หรือ Key Influencers ที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ และเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย