วิจารณ์สนั่น! เทศกิจแอบถ่ายสาว โพสต์คุกคามรูปร่าง ก่อนต้นสังกัดยอมรับผิด เตรียมลงโทษ
เจ้าหน้าที่เทศกิจแอบถ่ายภาพหญิงสาวขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนนำไปโพสต์พร้อมข้อความคุกคามรูปร่างในโซเชียลมีเดีย ผู้เสียหายสุดทน ร้องเรียนแต่ไร้การตอบรับ จึงตัดสินใจเดินหน้าแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่ล่าสุดต้นสังกัดออกโรงยอมรับผิด พร้อมสั่งสอบสวนและเตรียมลงโทษทางวินัยและกฎหมาย
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความตำหนิภาพเจ้าหน้าที่เทศกิจรายหนึ่ง หลังถ่ายภาพขณะที่ตนเองกำลังปฎิบัติหน้าที่โดยมีภาพของผู้โพสต์ติดไปด้วย แต่ปรากฎว่ามีการนำภาพดังกล่าวไปคอมเมนต์ในทางที่ไม่ดี โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
"สวัสดีค่ะ เราโดนแอบถ่ายโดยเจ้าพนักงานเทศกิจในเครื่องแบบ และนำไปโพสต์ปลุกปั่นให้คอมเมนต์คุกคามวิจารณ์รูปร่างเราอย่างสนุกสนานและน่ารังเกียจ ปัจจุบันไร้ขอโทษจากบุคคลหรือองค์กรใด จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นภายในงานของทางรัฐ ที่จัดขึ้นบริเวณคลองโอ่งอ่าง ระหว่างวันศุกร์ที่ 11 – วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา เราไปร่วมเปิดบูธขายของในงานนี้
1.) วันศุกร์ที่ 11 ก.ค. เวลาประมาณ 4 โมงเย็น ขณะกำลังเริ่มจัดร้าน ได้เจอพี่ ๆ เทศกิจในเครื่องแบบกลุ่มหนึ่ง ทั้งชายและหญิง เดินตรวจตราบริเวณร้านขายของ เรายิ้มแย้มให้ตามปกติ เพราะเข้าใจว่าเขาคือคนที่คอยดูแลความปลอดภัยในงาน
2.) ในขณะนั้นเราสังเกตได้ว่าเจ้าพนักงานบางคนมองเราและซุบซิบกันแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเจ้าพนักงานท่านหนึ่งให้เจ้าหน้าที่อีกคนช่วยถ่ายรูปบริเวณหน้าร้านของเราเราคิดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าจงใจแน่นอน เพราะแปลกมาก มองหน้าเราและขำกัน
3.) วันเสาร์ที่ 12 ก.ค. เรามาตั้งร้านตามเดิม ได้เปิดดูข้อความตอนช่วงเย็น เห็นว่าเพื่อนส่งโพสต์ต้นทางมาให้ดู พบว่าเป็นรูปที่เขาถ่ายติดเราบริเวณหน้าร้าน เห็นหน้าชัดเจน โดยมี “เจ้าพนักงานเทศกิจในเครื่องแบบ” เจ้าของโพสต์อยู่ในรูปด้วยเช่นกัน
4.) ภายใต้โพสต์มีการคอมเมนต์วิจารณ์รูปร่างของเราอย่างสนุกสนาน โดยผู้ที่ร่วมกันคอมเมนต์ส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจในกลุ่มเดียวกับที่มาดูแลความสงบในงานวันแรก มีการชักชวนให้มาตรวจตราแถวนี้ไปจนถึง ‘เชิญชวนมาเป็นเทศกิจด้วยกัน’
ราวกับว่า “การมาดูเรือนร่างของประชาชนเป็นรางวัลของเจ้าพนักงาน”
5.) การกระทำนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแอบถ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นใบหน้าชัดเจน นำภาพไปเผยแพร่ พร้อมเปิดให้เกิดการคอมเมนต์ในเชิงคุกคามและเกิดขึ้นในขณะเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบราชการ
6.) เราได้ร้องเรียนผ่านเพจสำนักเทศกิจผลคือโพสต์ต้นทางถูกลบเงียบ ไม่มีคำชี้แจง ไม่มีการขอโทษไม่มีการติดต่อกลับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
7.) เราเข้าแจ้งความที่ สน.สำราญราษฎร์ ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค. ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย
นี่ไม่ใช่เพียงพฤติกรรมส่วนบุคคล แต่สะท้อนถึงวินัยองค์กร และการจัดการภายในที่ไร้ความรับผิดชอบหากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งควรเป็นผู้ปกป้องประชาชน ใช้อำนาจในหน้าที่ไปในทางที่ละเมิดศักดิ์ศรีของผู้อื่น แล้วองค์กรปล่อยผ่านนั่นไม่ใช่ความผิดพลาดเฉพาะบุคคลอีกต่อไป
อัปเดต 17/07/68 – 15:10 (ขณะร่างโพสต์) เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ท่านดังกล่าวได้เข้าไปที่สถานีตำรวจ (ทางเราไม่ทราบจุดประสงค์) เราแจ้งว่าไม่ประสงค์จะพูดคุยหรือเจรจาใด ๆ เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย
จนถึงขณะนี้ ไม่มีการติดต่อหรือขอโทษใด ๆ จากทั้งตัวบุคคลหรือองค์กรมีเพียงการติดต่อจากตำรวจเพื่อแจ้งว่าบุคคลดังกล่าวไปที่สถานีเท่านั้น
ขณะที่เราต้องสูญเสียเวลา การงาน สุขภาพจิตผู้กระทำและองค์กรยังคงเลือกจะนิ่งเฉยนั่นคือสิ่งที่ตอกย้ำว่า ความเจ็บปวดที่พวกคุณมีส่วนร่วมก่อขึ้น จะไม่มีวันถูกเยียวยาทุกวันที่คุณยังใช้ชีวิตได้ตามปกติทุกครั้งที่เรานั่งอ่านประโยคขำขันเกี่ยวกับรูปร่างของเรา ที่พวกคุณร่วมกันพิมพ์ล้อเลียนวนไปวนมาเพื่อพยายามสู้กับเสียงในหัวที่กระซิบว่า “ฉันเองนี่แหละผิด” ทุกวินาทีต่อจากนี้ที่เราจะไม่มีทางรู้สึกปลอดภัยในสังคม ทุกอย่างล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย จึงขอแจ้งมาเพื่อกระจายข่าวสารและเตือนภัย
สังคม รวมถึงเรียกร้องความเป็นธรรมที่เราทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียม
ขอบพระคุณค่ะ"
ล่าสุด ในวันนี้ (18 ก.ค.) ทางเพจ "สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร" ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงถึงประเด็นดรามาดังกล่าว ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้มีพฤติกรรมตามที่ผู้เสียหายกล่าวมาจริง เตรียมสอบสวนและรับโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป โดยทาง "สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร" ได้ระบุข้อความว่า
"สำนักเทศกิจ ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่เทศกิจเผยแพร่ภาพบุคคลผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว
สำนักเทศกิจ ตรวจสอบแล้วพบว่า กรณีเจ้าหน้าที่เทศกิจเผยแพร่ภาพบุคคลผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวดังกล่าว ผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ สังกัดสำนักงานเขตพระนคร และได้ให้การยอมรับต่อพนักงานสอบสวนแล้วว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง เพื่อรับโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ในส่วนโทษทางวินัยนั้นขึ้นอยู่กับการสอบสวนของสำนักงานเขตพระนครซึ่งเป็นต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่เทศกิจรายดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักเทศกิจได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจของสำนักเทศกิจที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความโปร่งใสในการทำงาน รวมทั้งประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด"
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO