“บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มือปราบ “อลัชชี”
ภารกิจในมือ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ดำเนินมานานหลายสัปดาห์ คือการลุยปราบ “พระสงฆ์” ที่ทำผิดพระธรรมวินัย พัวพันการทุจริต เงินวัด มิหนำซ้ำยังเสพเมถุน จนต้อง “สึก” ออกไปแล้วไม่ต่ำกว่าสิบราย
แน่นอนว่า การเดินหน้าเปิดปฏิบัติการปกป้องพระพุทธศาสนา ด้วยการตรวจสอบและใช้กฎหมายเอาผิดบรรดาพระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีสมณศักดิ์สูง ที่เข้าไปพัวพันกับ “สีกากอล์ฟ” ที่ต้องกลายมาเป็น ปุถุชนทั่วไปนั้นเป็นมหากาพย์ที่ยังไม่จบ เพราะแม้การสึก การขาดจากความเป็นพระสงฆ์ ด้วยเหตุปาราชิก เสพเมถุน คือ “ฉากจบ” ในภาคของสงฆ์
แต่ภาคต่อจากนี้คือการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ที่อลัชชีแต่ละคนยักยอกเอาทรัพย์ของวัด ไปใช้จ่ายให้กับผู้หญิง หรือไม่ และจำนวนเท่าใด
ณ เวลานี้ ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา ซึ่งกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)จะเข้ามาเป็นหน่วยงานหลักในการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระ และวัด
ทั้งนี้ปฎิบัติการเก็บกวาดทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา บิ๊กเต่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ใช่ว่าจะไม่เจอกับ “แรงกดดัน” ทั้งจากเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ พระสงฆ์ หรือแม้แต่พุทธศาสนิกชนที่ยังไม่เข้าใจ แต่ในบางฝ่ายต่างพากันเอาใจช่วย เพราะสิ่งที่บิ๊กเต่ากำลังทำอยู่นี้ถือเป็นการปกป้องพระศาสนาด้วยกฎหมาย
สำหรับประวัติบิ๊กเต่า เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2511 ปัจจุบันอายุ 55 ปี เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 29 และจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 45 เริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.144 จังหวัดเพชรบุรี
จากนั้นเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าชุดยาเสพติด ตชด.ภาค 1 จากนั้นเติบโตในสายงานสืบสวนสอบสวน จากนั้นติดยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่งผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
บิ๊กเต่า เคยฝากผลงานการจับกุมคดีสำคัญๆมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การจับกุม “รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา” อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงคดี “ศรีสุวรรณ จรรยา” นักร้องทางการเมืองคนดัง และพวก กรณีเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เมื่อปี 2567