สรุป กัมพูชาแถลงต่อ UNSC ขอการแทรกแซง ส่งข้อพิพาทชายแดนไป ICJ
แถลงการณ์ของกัมพูชาต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (25 ก.ค.) เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้เรียกร้องให้มีการแทรกแซงระหว่างประเทศทันที ต่อสิ่งที่กัมพูชาเรียกว่า การรุกรานทางทหารของไทยตามแนวชายแดน
เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรกัมพูชาประจำสหประชาชาติได้ยืนยันจุดยืนและความต้องการของกัมพูชา ดังนี้
- เรียกร้องให้ไทยเคารพอธิปไตยกัมพูชาอย่างเต็มที่ และหยุดการกระทำการรุกรานทางทหารทั้งหมดในทันที
- กัมพูชาย้ำถึงกฎหมายในการอ้างสิทธิ์ในดินแดนของตน โดยอิงถึงอนุสัญญาในประวัติศาสตร์และคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) อาทิ อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 รวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000
- กัมพูชาร้องขอ UNSC ช่วยอำนวยความสะดวกในการหาข้อยุติความขัดแย้งด้วยการยื่นข้อพิพาทดินแดนทั้ง 4 ให้ ICJ ตัดสิน
- กัมพูชาแถลงต่อ UNSC ว่า ความขัดแย้งชายแดนในปัจจุบันกับไทยไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นผลจากแผนการทหารที่ไทยวางไว้ล่วงหน้า และบอกว่าไทยเปิดฉากโจมตีชายแดนโดยไม่มีการยั่วยุ
- นายเจีย แก้ว ได้ลำดับเหตุการณ์ความขัดแย้ง และกล่าวถึงการใช้ยุทธศาสตร์สงครามจักรพงษ์ ภูวนาถ ที่เคยใช้ในช่วงการปะทะชายแดนปี 2551-2554
- กัมพูชาพูดถึงการรุกรานของไทยที่ใช้อาวุธหนัก เช่น เครื่องบินรบ F-16 รถถัง รวมถึงการใช้ระเบิดลูกปรายและปืนใหญ่
- กัมพูชากล่าวต่อถึงการขยายความเตรียมพร้อมปฏิบัติการทางทหารจากการประกาศภาวะฉุกเฉินใน จ.จันทบุรี และตราด และบอกว่าฝ่ายตนเองยังไม่ได้ส่งกำลังทหาร หรือกำลังพล ไปยังพื้นที่ใกล้เคียงในฝั่งกัมพูชา
- กัมพูชายืนยันเช่นเดิมว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มการสู้รบและส่งกำลังทหารเข้าใกล้ชายแดน ก่อนที่ไทยจะโจมตี และบอกว่าตนใช้วิธีแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ
- กัมพูชาพูดถึงความเสียหายของฝ่ายตน ทั้งจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผลกระทบต่อโบราณสถานอย่างเขาพระวิหาร ว่าเป็นการละเมิดฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญากรุงเฮก
- กัมพูชาบอกว่าไทยใช้แผนที่ที่ร่างขึ้นฝ่ายเดียว เพื่ออ้างสิทธิ์เหนือดินแดนกัมพูชา
- กัมพูชาพูดถึงการหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียน โดยบอกว่าใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเย็นวันที่ 24 ก.ค. แล้วแต่กล่าวหาว่าไทยกลับคำตัดสินก่อนมีผลบังคับใช้
อ้างอิง: Khmer Times