ทสจ.กาฬสินธุ์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ห้องประชุมโรงแรมริมปาว จ.กาฬสินธุ์ นายสันติ จตุพันธ์ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่สร้างชุมชนผู้ประกอบการเกษตร BCG ตลาดนัดสีเขียว เครือข่ายชุมชนหนองเลิงเปือย ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชุมชน ตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ ตามแนวพระราชดำริ (ปิดทองหลังพระ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
โดยมีนายวิทยา ปัญจมาตย์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายมะณี อุทรักษ์ ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ นายวิจิตร งามชื่น โยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ นางกัญญ์ลภัส มหิพันธุ์ สถิติ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ทสจ.กาฬสินธุ์ เครือข่ายสมาชิกเครือข่ายโครงการปิดทองหลังพระ และเครือข่ายชุมชนหนองเลิงเปือยเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพียง ทั้งนี้ในงานยังมีการนำผลผลิตของเครือข่ายชุมชนหนองเลิงเปือยมาจัดบูธโชว์และมีเวทีเสวนาให้ความรู้เรื่อง “ป่าครอบครัว ตามแนวทางศาสตร์พระราชา” “ชุมชนต้นแบบ BCG Model” และ “ชุมชนปลอดขยะ มุ่งสู่เมืองคาร์บอนต่ำ”กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชนลุ่มน้ำหนองเลิงเปือย และสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันอีกด้วย
นายวิทยา กล่าวว่า สืบเนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อราษฎรผู้เดือดร้อน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการขุดลอกเพื่อพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ขาดแคลนน้ำกิน น้ำใช้ ในพื้นที่ หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เป้าหมายตามโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็งที่มีศักยภาพที่จะเป็นพื้นที่ต้นแบบในการต่อยอดพัฒนา และขยายผลโครงการ ตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ โดยการนำเกษตรอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่สร้างชุมชนผู้ประกอบการเกษตร BCG พัฒนาเครือข่ายและวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อเป็นพื้นที่ต้นแบบสู่วิถีชุมชนรักษ์สิ่งแวดล้อม
นายวิทยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ปัจจุบันประเทศไทยได้ขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน โดยใช้แนวทางการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยงการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model : เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว) ส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการผลิต และการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การปลูกต้นไม้ยืนต้นทรงคุณค่า สามารถเป็นทางเลือกให้ประชาชนสานต่อเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต โดยได้น้อมนำศาสตร์พระราชา ปลูกป่า 3 อย่าง เพื่อประโยชน์ 4 อย่าง หรือ ปลูก“พออยู่ พอกิน และพอใช้” ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นเพราะต้นไม้ยืนต้นทำหน้าที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยลดโลกร้อน รวมทั้งยังช่วยกรองและลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศ
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ จึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติฯครั้งนี้ เพื่อให้เกิดกลไกและการปรับตัวของชุมชน สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดำเนินการตามแนวทางศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาการเกษตร ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมแนวทางการสร้างรายได้ และพัฒนาอาชีพที่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีด้วยตนเองอย่างยั่งยืนต่อไป