"กลาโหมกัมพูชา" โพสต์เฟซบุ๊กย้ำกองกำลังเตรียมพร้อมสูงสุด
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จนถึงเวลา 20.45 น.ของวันที่ 3 ส.ค. สถานการณ์บริเวณแนวหน้ายังคงสงบ แต่กองกำลังกัมพูชาอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสูงสุด พร้อมย้ำว่ากัมพูชายึดมั่นอย่างเคร่งครัดต่อข้อตกลงหยุดยิง และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดจากข่าวปลอม
ทันทีที่ล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 4 ส.ค. หรือ 00.01 น. กระทรวงกลาโหมกัมพูชาโพสต์ซ้ำอีกครั้ง ย้ำว่ายังสถานการณ์ยังสงบ แต่กองกำลังยังคงอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสูงสุด
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วงค่ำวันที่ 3 ส.ค. กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์อ้างแหล่งข่าวระบุว่า กองทัพไทยสั่งอพยพชาว จ.สุรินทร์ ภายในคืนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่มาเลเซีย โดยสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต่างแชร์แถลงดังกล่าวบนเฟซบุ๊กของตัวเอง ก่อนที่ฝ่ายไทยจะยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ขณะที่เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ในขณะที่พี่น้องชาวกัมพูชาหลับไปหมดแล้ว แต่ตนยังคงประชุมผ่านระบบวิดีโอกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง หลังจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกัมพูชาออกเดินทางไปเตรียมตัวสำหรับการประชุม GBC ที่มาเลเซียเช้านี้ (4 ส.ค.) ขณะเดียวกันที่ศูนย์บัญชาการแห่งหนึ่ง ฮุน มาเนต และทีมงานก็กำลังปฏิบัติงานอย่างขะมักเขม้น เพื่อหาทางติดต่อกาชาดระหว่างประเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกไทยจับกุมหลังจากการหยุดยิงและยังไม่ได้ส่งกลับคืนให้กัมพูชา
สมเด็จฮุน เซน ระบุด้วยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนและภรรยาได้ติดต่อผู้บัญชาการแนวหน้าหลายคน ซึ่งพวกเขากำลังปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมในระดับสูงหากอีกฝ่ายละเมิดการหยุดยิง
ขณะที่เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา โพสต์ภาพ ปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ พาคณะทูตจากต่างประเทศรวม 26 คน ลงสำรวจพื้นที่ใน จ.อุดรมีชัย และเสียมเรียบ เมื่อวันที่ 1-2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้แทนจากต่างประเทศได้เยี่ยมชมพื้นที่ใน 2 หมู่บ้าน ที่โครงสร้างพื้นฐานพลเรือน ซึ่งรวมถึงบ้าน โรงเรียน ศูนย์สุขภาพและสถานที่ทางศาสนาได้รับความเสียหายจากการโจมตีของฝ่ายไทย ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงหยุดยิง รวมทั้งยังเยี่ยมชมศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 แห่ง โดยคณะทูตได้พบปะกับครอบครัวที่ต้องพลัดถิ่น 440 ครอบครัว
ส่วนสำนักข่าวเฟรช นิวส์ รายงานอ้างกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากฝ่ายทหารของ 7 ประเทศสมาชิก มีกำหนดลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์การหยุดยิงใน จ.อุดรมีชัย และ จ.พระวิหาร เมื่อวันที่ 3 ส.ค. โดยเน้นจุดที่เพิ่งเกิดการปะทะระหว่างไทยและกัมพูชา คณะดังกล่าวนำโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาเลเซียประจำกัมพูชา ส่วนตัวแทนจากชาติสมาชิกประกอบด้วยผู้แทนจากอินโดนีเซีย ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และเวียดนาม
ชาวกัมพูชาในต่างแดนชุมนุมหนุนรัฐบาล
สำนักข่าวเฟรช นิวส์ รายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ชาวกัมพูชาประมาณ 1,000 คนในฝรั่งเศส รวมตัวกันในกรุงปารีส พร้อมชูธงกัมพูชาและป้ายข้อความต่างๆ ประท้วงต่อต้านการรุกรานของไทย
ขณะที่ชาวกัมพูชาในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐฯ รวมตัวแสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาและความพยายามของรัฐบาลในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในประเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องให้โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนการริเริ่มการหยุดยิงต่อไป มีส่วนร่วมฟื้นฟูสันติภาพในระยะยาว และช่วยทำให้มั่นใจว่ากัมพูชาจะได้รับความยุติธรรม
ส่วนชาวกัมพูชาและแรงงานกัมพูชาประมาณ 500 คนในญี่ปุ่น ออกมาขอบคุณทรัมป์ที่กระตุ้นให้เกิดการหยุดยิงระหว่างกัมพูชากับไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องพรมแดนโดยสันติวิธีผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ไทยส่งทหารกัมพูชากลับประเทศบ้านเกิด
อ่านข่าว
"โฆษก ทบ." โต้ข่าวลือเขมร อ้างไทยสั่งอพยพคนสุรินทร์ เตรียมโจมตีกัมพูชา
"มทภ.2" ประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสาน เข้มมาตรการ "กำจัดโดรน
ศบ.ทก.โต้ กสม.กัมพูชา-ชี้หลายประเด็นให้ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง