สินค้าไทยขาดตลาดในเกาะกง พ่อค้าซื้อจากเวียดนามทดแทนแต่ขายไม่ดี

วันที่ 14 ก.ค.68 หลังจากที่ฝ่ายความมั่นของของไทยประกาศปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก และจุดผ่อนปรนในจังหวัดตราดและในจังหวัดอื่นๆที่ติดกับชายแดนไทยกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2568 ปรากฏว่า ผู้ประกอบการค้าทั้งในจ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก ต่างได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ล่าสุด เจ้าของร้านสะดวกซื้อชื่อดัง 7-11 บ้านหาดเล็ก ได้ปิดตัวลงแล้ว หลังขายไม่ได้

นายพรชัย ลิ้มพลอยพิพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายต้อนรับ โรงแรมเกาะกงรีสอร์ท จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่ตั้งสำนักงานต้อนรับอยู่ที่ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก และทำธุรกิจค้าสินค้าอุปโภคบริโภคในกัมพูชา เปิดเผยว่า หลังปิดด่านฯหาดเล็กไปนานกว่า 20 วันและห้ามส่งสินค้าไปยังกัมพูชาทั้งหมด ทำให้สินค้าไทยทั้งในตลาดเสาธง (ตลาดในตัวจังหวัดเกาะกง)และตลาดบ้านใหม่หรือตลาดตลาดภูมิเทมียหมด โดยเฉพาะสินค้า บะหมี่สำเร็จรูปยี่ห้อดังของไทย และสินค้าขบเคี้ยวต่างๆที่หมดแผงขายไปและไม่สามารถซื้อมาจำหน่ายได้เนื่องจากไม่มีสินค้าจากไทย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าของกัมพูชาต้องสั่งสินค้าจากเวียตนามมาขายแทน อย่างไรก็ตาม สินค้ากัมพูชายังไม่เป็นที่ต้องการของชาวเกาะกงมากนัก นอกจากนี้ สินค้าอื่นๆที่เคยสั่งซื้อจากไทยก็ขาดตลาดไม่มีสินค้าวางขายอีกแล้ว รวมทั้งสินค้าที่มีความจำเป็นทั้งน้ำมัน หรือวัสดุก่อสร้างด้วย

ด้านนายสมชาย กิมสร้อย อดีตกำนันต.หาดเล็ก และรองนายกเทศบาลตำบลหาดเล็ก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้ชาวกัมพูชาในจังหวัดเกาะกง และเจ้าของร้าน7-11 ในตลาดหาดเล็ก เปิดเผยว่า วันนี้ ได้ตัดสินใจปิดร้านสะดวกซื้อ 7-11 ไปแล้วในเช้าวันนี้ ซึ่งการปิดเป็นการปิดชั่วคราว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเปิดอีกเมื่อใด เพราะสถานการณ์ชายแดนในเรื่องการเปิดชายแดนยังมีความไม่แน่นอนว่าจะผ่อนปรนเมื่อใด ซึ่งร้านค้าอุปโภคบริโภคที่เปิดก็ส่งสินค้าไปจำหน่ายในเกาะกงไม่ได้ จากที่เคยมีพ่อค้าแม่ค้าในเกาะกงสั่งซื้อสินค้าไทยไปจำหน่ายก็ไม่มีอีกแล้ว นักท่องเที่ยวในตลาดชายแดนหาดเล็กก็เดินทางมาน้อย ถึงขั้นไม่มีมากเลย สินค้าทีทจำหน่ายก็จำหน่ายเฉพาะคนในพื้นที่หาดเล็กซึ่งก้เหลือเพียงไม่มาก และจะมีรายได้เพียงพอหรือการปิดจำหน่ายจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

“วันนี้ ตลาดหาดเล็กร้านค้าที่มีมากกว่า 100 ร้านค้า และมีชาวเกาะกงมาเปิดจำหน่ายสินค้าต่างชาติ เพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวไทย แต่วันนี้ปิดร้านกลับไปยังกัมพูชาแล้ว ซึ่งร้านค้าขณะนี้หายไปร้อยละ 90 เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวและชาวหาดเล็กมรามาซื้อสินค้าในร้าน ซึ่งต้องรอว่าสถานการณ์ชายแดนจะเป็นอย่างไรและนานเท่าไร ซึ่งการปิดอาจจะนานหลายเดือน หรืออาจจะเปิดเร็วก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไป“

นายสมชาย กล่าวว่า สิ่งน่าเป็นห่วงก็คือเรื่องของตลาดสินค้าไทยในเกาะกง และกัมพูชา หากสถานการร์ยังไม่ปกติเช่นนี้ อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการสูญเสียตลาดสินค้าบางประเภทไปให้กับสินค้าจากประเทศอื่นโดยเฉพาะเวียตนามเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาได้สั่งสินค้าจากเวียตนามมาทดแทนสินค้าไทยแล้ว แม้สินค้าเวียตนามจะไม่เป็นที่นิยมและมีคุณภาพต่ำกว่าสินค้าไทย แต่เมื่อไม่มีสินค้าในประเภทเดียวกัน ก็จำเป็นต้องสั่งมาเพื่อทดแทนสินค้าไทยชั่วคราวก่อน จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยต้องรับฟังและนำไปปรับสถานการณ์เอาเอง