โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

The Wall Street Journal วิเคราะห์ การทำความตกลงภาษีทรัมป์ ทุกชาติเสี่ยงกำไรขาดทุนแบบนักเล่นหุ้น

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มาภาพ : YouTube

หลังจากเป็นผู้นำรัฐบาลสหรัฐฯมาได้ 6 เดือน โดนัลด์ ทรัมป์โจมตีการค้าโลก จนแทบไม่เหลือร่องรอยเดิมไว้เลย ทรัมป์เปลี่ยนเส้นตายแบบทันทีทันใด จนนักข่าว Financial Times ตั้งฉายาให้ว่า “ทรัมป์เป็นฝ่ายเปลี่ยนใจเสมอ” หรือ TACO (Trump Always Chickens Out) ทรัมป์พลิกคว่ำการเจรจาการค้าในนาทีสุดท้าย และหยิบยกประเด็นใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ทรัมป์เอาปัญหาภาษีไปโยงกับเรื่องที่ไม่ใช่การค้า เช่น การที่บราซิลปฏิบัติต่ออดีตประธานาธิบดี หรือการที่ยาระงับปวดเฟนทานิล ทะลักมาจากแคนาดา

ก่อนจะบรรลุข้อตกลงอินโดนีเซียกับสหรัฐฯ Airlangga Hartarto รัฐมนตรีกิจการเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย กล่าวกับนักข่าวว่า “การเจรจากับสหรัฐฯ เหมือนเดินไปในเขาวงกต แล้วก็กลับมาที่เดิมอีก” ความไม่แน่นอนจากการเจรจาการค้าดังกล่าว ทำให้ธุรกิจและรัฐบาลไม่สามารถวางแผนอะไรได้เลย เพราะความปั่นป่วนได้เข้ามาแทนที่ความเป็นระเบียบการค้าโลก

หลายชาติรู้อัตราภาษีผ่าน Social Media

เพราะฉะนั้น ความคิดที่ว่าจะทำข้อตกลงการค้ากับ 90 ประเทศภายใน 90 วัน จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว ตามที่ทรัมป์กล่าวไว้ในเดือนเมษายน เมื่อครั้งมีการประกาศอัตราภาษีแก่ประเทศต่างๆ สหรัฐฯทำได้แค่ลงนามข้อตกลงการค้าพื้นฐานกับสหราชอาณาจักร จีนและเวียดนาม ส่วนอีกหลายประเทศได้รับจดหมายมีข้อความเหมือนกันว่า อัตราภาษีสูงจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

ส่วนกลุ่ม EU และเม็กซิโกเพิ่งได้รับจดหมายจากทรัมป์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เรื่องอัตราภาษีเรียกเก็บ 30% Maros Sefcovic กรรมาธิการค้า EU และหัวหน้าการเจรจากับสหรัฐฯแสดงความผิดหวัง ที่ทรัมป์ประกาศขู่ภาษีที่สูงกับ EU ทั้งๆที่สองฝ่ายใกล้จะบรรลุความตกลง ผู้แทนการค้า EU บอกว่า ภาษี 30% จะเท่ากับห้ามการค้าระหว่างสองฝ่าย ทั้งที่มีเศรษฐกิจเชื่อมโยงกันมาก และเศรษฐกิจ EU กับสหรัฐฯ จะแยกตัวออกจากกัน (decoupling)

ที่มาภาพ : Pinterest

ทรัมป์ใช้กลยุทธ์แบบนักเล่นหุ้น

หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal (WSJ) ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม ได้รายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่เป็นผู้ช่วยทรัมป์ว่า การเคลื่อนไหวสไตล์ลมหมุนเรื่องการค้าของทรัมป์ มาจากความคิดของทรัมป์ที่ว่า การทำให้ประเทศคู่ค้าคาดเดาอยู่ตลอดเวลาว่า ทรัมป์จะมาไม้ไหน จะทำให้ตัวทรัมป์เป็นฝ่ายกำหนดเงื่อนไขการเจรจา ในที่สุด ก็ง่ายที่จะทำให้ประเทศคู่ค้าทำตามความต้องการของทรัมป์

แต่ยุทธวิธีของทรัมป์นี้มีความเสี่ยง แบบเดียวกับความเสี่ยงของนักเล่นหุ้น ในเวลาเมื่อหุ้นตกและขาดทุนจากราคาหุ้น ความเสี่ยงนี้ปรากฏให้เห็นในไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์มีแนวโน้มจะถอยจากคำขู่เส้นตาย เมื่อตัวเส้นตายเองทำให้อิทธิพลอำนาจของทรัมป์อ่อนลง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ล้มการเจรจาการค้า โดยส่งจดหมายไป 20 กว่าประเทศ ระบุภาษีประเทศนั้นจะต้องเสียนับจาก 1 สิงหาคม ทรัมป์บอกว่าจะไม่เปลี่ยนเส้นตาย แต่ก็เรียกร้องให้ประเทศคู่ค้าเจรจาต่อเนื่อง

แต่ในวันที่อาทิตย์ 13 กรกฎาคม ทรัมป์ประกาศอัตราภาษีที่สูงกับ EU และเม็กซิโก ทั้งๆที่ทีมงานของเม็กซิโกและ EU ยังอยู่ในนครวอชิงตัน ดีซี วันจันทร์ 14 กรกฎาคม ในการประชุมที่ทำเนียบขาว ทรัมป์พูดว่า ตัวเขาเองพอใจ หากจะไม่มีข้อตกลงทางการค้าเลย ข้อความตรงนี้ขัดกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทรัมป์ เช่น สก๊อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง ที่กล่าวมาตลอดว่า ข้อตกลงการค้านับสิบใกล้จะตกลงกันได้แล้ว

ทรัมป์กล่าวถึงเบสเซนต์ว่า “เขาออกโทรทัศน์เพื่อทำให้ตลาดสงบลง ส่วนผมออกโทรทัศน์เพื่อทำให้ตลาดโกรธ วันนี้ได้ทำข้อตกลงอะไรมาบ้างหรือยัง เรามีข้อตกลงนี้จำนวนมาก แต่ข้อตกลงดีที่สุดเพิ่งจะส่งออกไป (คือจดหมายเรื่องภาษี)”

พวกพันธมิตรทรัมป์บอกกับ WSJ ว่า คำพูดดังกล่าวของทรัมป์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของสไตล์การเจรจาของทรัมป์ ทรัมป์พยายามทำให้คนเห็นตัวอย่างที่ดีจากเงินรายได้ที่มาจาภาษีนำเข้า เดือนมิถุนายน สหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าได้ 27 พันล้านดอลลาร์ มากเป็น 3 เท่าของเดือนมิถุนายน 2024

Everett Eissenstat อดีตรองผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของรัฐบาลทรัมป์สมัยแรกกล่าวว่า “การควบคุมเวลาคือความได้เปรียบสำคัญในการเจรจา ทรัมป์ควบคุมเวลา การก้าวเดิน จังหวะ เงื่อนไข จัดโต๊ะเจรจา และเป็นคนตัดสินใจคนสุดท้าย”

ที่มาภาพ : Pinterest

“วิธีเคลื่อนไหวเร็ว พลาดไม่เป็นไร”

อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า “วิธีการแบบเคลื่อนไหวเร็วและพลาดไม่เป็นไร” (move fast and break things approach) ของรัฐบาลทรัมป์สมัยที่สอง ได้แรงดลใจจากการทำงานสมัยแรก ที่ใช้วิธีการทางกฎหมาย กับเรื่องอัตราภาษีนำเข้า แต่ในที่สุด บรรดาพันธมิตรทรัมป์ได้ข้อสรุปว่า สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เพื่อกำหนดความสัมพันธ์การค้าใหม่ขึ้นมา และตัดการขาดดุลการค้าที่เรื้อรังของสหรัฐฯออกไป

Kush Desai โฆษกทำเนียบขาวก็กล่าวว่า “คนอเมริกันมีหัวหน้าใหญ่ผู้ทำข้อตกลง อยู่ในทำเนียบขาว พวกเขามั่นใจได้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะยังคงใช้อำนาจฝ่ายบริหารทุกทาง เพื่อให้มีข้อตกลงมากขึ้น มีโอกาสมากขึ้น และชัยชนะมากขึ้น สำหรับสหรัฐฯ”

แต่เรื่องภาษีตอบโต้นั้น ทรัมป์เองก็เป็นคนที่สร้างความไม่แน่นอนให้เกิดขึ้น 2 ครั้ง วันที่ 2 เมษายน ทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้กับ 57 ประเทศ ที่จะมีผลวันที่ 9 เมษายน แต่ผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้น จึงเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 8 กรกฎาคม ต่อมาเลื่อนอีกเป็น 1 สิงหาคม นอกจากนี้ พรรคพวกในพรรครีพับลิกันของทรัมป์เกรงว่า คำพูดที่ขัดแย้งกันของทรัมป์ เสี่ยงที่จะไปบั่นทอนอำนาจการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม Kevin Hasset ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติกล่าวให้สัมภาษณ์สถานโทรทัศน์ ABC ว่า ทรัมป์ไม่พอใจต่อร่างข้อเสนอทางการค้า ที่เสนอมาโดยที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพราะคิดว่าจำเป็นต้องได้ดีกว่านี้

Susan Schwab อดีตอัครราชทูตในสมัยรัฐบาลจอร์จ บุช กล่าวว่า หลายครั้งทรัมป์พูดขัดกันกับผู้แทนการเจรจาสหรัฐฯ ทำให้เกิดบรรยากาศที่ว่า ผู้แทนการเจรจาไม่ได้รับมอบอำนาจมาอย่างแท้จริง หากประเทศคู่ค้ารู้ว่า คนที่ตัดสินไม่ได้เห็นด้วยกับที่ตกลงกันได้ สหรัฐฯก็จะไม่ได้รับข้อเสนอสุดท้ายหลังสุดและดีที่สุด จากประเทศคู่ค้า

พรรคพวกทรัมป์ยอมรับว่า วิธีการที่รวดเร็วในเรื่องการค้า อาจทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาด เมื่อคณะทำงานไม่ได้ทำงานประสานกัน เดือนพฤษภาคม เมื่อสหรัฐฯกับจีนเดินทางไปเจนีวา เพื่อเจรจาสงบศึกด้านภาษี เวลาเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯออกประกาศห้ามส่งออกไมโครชิปทันสมัยไปจีน ทำให้มีการส่ง “สัญญาณที่ขัดกัน” แก่จีน

แต่บทรายงานของ The New York Times ก็กล่าวว่า การบรรลุข้อตกลงการค้า ไม่ได้หมายความว่า ความไม่แน่นอนจะหมดหายไป ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯกับเวียดนาม ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ว่าตกลงอะไรกันบ้าง มากกว่าที่ทรัมป์แถลงออกมา วันที่ 2 กรกฎาคม เมื่อทรัมป์โทรศัพท์ไปหาผู้นำเวียดนาม โต ลัม ทรัมป์กลับไปต่อรองใหม่ในบางเรื่อง ที่สร้างความประหลาดใจอย่างมากแก่เจ้าหน้าของสองฝ่าย

เอกสารประกอบ

As Trump Sows Tariff Confusion, Rules of Global Commerce Give Way to Chaos, July 12, 2025, The New York Times.

President Trump Bets Shifting Strategy On Trade Can Help Negotiation, July 16, 2025, The Wall Street Journal.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยพับลิก้า

EIC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง ขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนด 1 ส.ค.

21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

SET Sustainability Forum:ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผนึกพลังสร้างระบบนิเวศเอื้อการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ชื่นชม ‘ตำรวจศรีราชา’ ช่วยเงินแรงงาน ‘ผัว-เมีย’ ถูกเบี้ยวค่าจ้าง ไร้เงินเดินทางกลับบ้าน

เดลินิวส์

'ธีรรัตน์' เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศภูพานน้อย แลนด์มาร์คทางธรรมชาติของจังหวัดหนองบัวลำภู ฟังเสียงสะท้อน ปชช.

VoiceTV

คลื่นความร้อนคุกคามซีกโลกเหนืออย่างรุนแรง กระทบหลายล้านคน

SpringNews

กรมอนามัย รับสมัครพนักงานราชการ 24 อัตรา เงินเดือนสูงสุด 2.36 หมื่นบาท

ฐานเศรษฐกิจ

"พระธรรมวชิรธีรคุณ" เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ย่องลาสิกขากลางดึก

PostToday

สึกกลางดึก! "พระธรรมวชิรธีรคุณ" อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

PPTV HD 36

สภาพอากาศวันนี้ -25 ก.ค.ไทยฝนตกหนักบางแห่ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ฐานเศรษฐกิจ

กองทัพไทย ประณามกัมพูชา ลุกล้ำอธิปไตยไทยวางทุ่นระเบิด จี้แสดงความรับผิดชอบ

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...