ควรซื้อไหม? เปรียบเทียบ เกฮี VS. โกนาเต้ ใครเจ๋งกว่ากัน
ในช่วงแรก หลายคนมองว่า เกฮี คงไม่ย้ายออกจาก "ดิ อีเกิ้ลส์" ในปีที่มีฟุตบอลโลก เพียงเพื่อไปนั่งเป็นตัวสำรองที่แอนฟิลด์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านักเตะจะได้รับการการันตีว่าจะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ หากตัดสินใจย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์
ปัจจุบัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม อายุ 34 ปีแล้ว แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องสภาพร่างกายของนักเตะมากกว่าช่วงหลายๆ ซีซั่นก่อนหน้านี้ แต่กระนั้น ปราการหลังชาวดัตช์ ยังคงเป็นหัวใจในแนวรับของทีมอยู่เสมอ
ดังนั้นถ้า เกฮี ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล จริงๆ คำถามสำคัญก็คือใครจะได้ยืนคู่กับ ฟาน ไดค์ ?
ขณะเดียวกัน เกฮี จะเข้ามายึดตำแหน่งตัวจริงทันทีแทนที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ เลยหรือไม่ ? โดยเฉพาะตอนนี้ กองหลังชาวฝรั่งเศส กำลังจะเข้าสู่ปีสุดท้ายของสัญญา และมีข่าวว่าเขายังไม่ตกลงขยายสัญญาใหม่
ถ้าหาก โกนาเต้ ยังคงอยู่กับทีมต่อไป และ เกฮี ย้ายมาร่วมทัพ งานนี้อาจต้องมีการพิสูจน์กันว่าทั้งสองคนนี้คนใดคนหนึ่งคู่ควรที่จะเป็นตัวเลือกแรกเคียงข้าง ฟาน ไดค์ ในแนวรับ
- สภาพร่างกายฟิตพร้อมลงสนาม
นี่อาจจะไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ถือว่ามีความสำคัญเช่นกัน เพราะการมีสภาพร่างกายสมบูรณ์และพร้อมลงสนามทุกสัปดาห์ คือสิ่งที่ช่วยให้นักเตะสร้างความสม่ำเสมอและจังหวะการเล่นที่มั่นคงได้
นับตั้งแต่ที่ โกนาเต้ ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พุล เมื่อปี 2021 เขาลงสนาม 132 เกม โดยฤดูกาล 2024/2025 ถือเป็นปีที่นักเตะรับภาระหนักที่สุด ด้วยการลงเล่นถึง 42 เกมในทุกรายการ และเป็นครั้งแรกที่เขาลงสนามในพรีเมียร์ลีกเกิน 22 นัดในฤดูกาลเดียว
กระนั้นหากนับรวมตลอด 4 ฤดูกาลที่อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ สตาร์แนวรับทีมชาติฝรั่งเศส พลาดลงเล่นให้ทีม 45 แมตช์จากปัญหาบาดเจ็บซึ่งเทียบเท่ากับการหายไปเกือบหนึ่งฤดูกาลเต็ม
ขณะที่ เกฮี ซึ่งย้ายมาเล่นกับ พาเลซ ในช่วงซัมเมอร์เดียวกับ โกนาเต้ ลงสนามให้ต้นสังกัดไปแล้ว 155 เกม โดยเขาลงเล่นให้ทีม 44 แมตช์หรือมากกว่านั้นจาก 3 ใน 4 ฤดูกาล แถมในซีซั่น 2023/2024 นักเตะได้รับผลจากอาการบาดเจ็บและพลาดช่วยทีมเพียง 13 เกมเท่านั้น
แน่นอนว่า ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ วัย 25 ปี มีโอกาสได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เขาได้เปรียบ เมื่อต้องพิจารณาเรื่องความมั่นคงในระยะยาว
- ผลงานเกมรับ
เกฮี มีส่วนร่วมในเกมพรีเมียร์ลีกมากกว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยมีตัวเลขการเข้าเสียบสกัด, การดวลแบบตัวต่อตัว, การปะทะลูกกลางอากาศ และการแย่งบอลกลับมาสูงกว่า อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของประสิทธิภาพในการเล่น โกนาเต้ ยังคงเหนือกว่า
โกนาเต้ มีสถิติการเสียบสกัดสำเร็จถึง 65 เปอร์เซนต์ ส่วนการชนะการดวลลูกกลางอากาศ 66. 2 เปอร์เซนต์ ขณะที่ เกฮี มีสถิติ 55.7 เปอร์เซนต์ และ 59.2 เปอร์เซนต์ ตามลำดับ
สำหรับการชนะในการปะทะลูกกลางอากาศ โกนาเต้ มีสถิติถึง 70.8 เปอร์เซนต์ ขณะที่ เกฮี ทำได้แค่ 53.9 เปอร์เซนต์ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจาก ดาวเตะชาวอังกฤษ มีส่วนสูง 182 เซนติเมตร ถือว่าตัวเล็กสำหรับผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก และเป็นจุดด้อยของนักเตะรายนี้
ด้วยการทีม ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กจำเป็นต้องรับมือกับบอลยาว และเกมสวนกลับบ่อยครั้ง ดังนั้นความแข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศจึงมีความสำคัญมาก ยกตัวอย่าง ฟาน ไดค์ ซึ่งมีอัตราความสำเร็จในการดวลลูกโด่งถึง 72.1 เปอร์เซนต์เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เกฮี มีจุดเด่นที่ไม่ธรรมดาเมื่อเขาสามารถตัดบอลจากคู่แข่งได้มากกว่า (28) โกนาเต้ (17) และแย่งบอกลกลับมา เกฮี ทำได้สูงกว่า (146) โกนาเต้ (98) ซึ่งสะท้อนถึงการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการคาดเดาจังหวะล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ
กระนั้นหากมองจากความเป็นจริง พาเลซ เป็นทีมที่เน้นการตั้งรับลึก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เซนเตอร์แบ็กจะมีโอกาสมากกว่าในการตัดบอล และแย่งบอลกลับคืนมา ส่วน ลิเวอร์พูล เน้นเกมรับน้อยกว่า แต่เมื่อถึงจังหวะที่ต้องป้องกัน และเป็นสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงโกนาเต้ สามารถรับมือได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
- การครองบอล
ในแง่ของการครองบอล โกนาเต้ ยังทำได้เหนือกว่า โดยเขามีสถิติผ่านบอลไปข้างหน้าได้อย่างแม่นยำถึง 78.1 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับ เกฮี ที่ทำได้แค่ 44.5 เปอร์เซนต์เท่านั้น ซึ่งมันแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของการพยายามที่จะสร้างเกมขึ้นมาจากแดนหลัง
แนวรับเลือดเฟร้นช์ มักจะลำเลียงบอลขึ้นไปข้างหน้าบ่อยครั้ง นั่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในการพาบอลขึ้นไปยังพื้นที่แดนกลาง สำหรับ เกฮี แม้จะพยายามจ่ายบอลขึ้นด้านหน้าได้มากกว่า (72.9) โกนาเต้ (54.4) แต่อัตราความสำเร็จต่ำกว่า ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงแนวทางการเล่นที่เสี่ยง และไม่แม่นยำ โดยมันจะคล้ายกับเป็นการเตะทิ้งไปข้างหน้ามากกว่าการสร้างเกมอย่างมีระบบ
เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเป็นเพราะระบบการเล่นที่เน้นเป้าหมายในการเล่นเร็ว และเคลียร์บอลให้พ้นพื้นที่อันตรายให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่มันไม่สอดคล้องกับแนวทางของ ลิเวอร์พูล ซึ่งมักจะครองบอลด้วยความอดทนและใจเย็น พร้อมทั้งมีความแม่นยำ
โดยรวมแล้ว โกนาเต้ ยังคงเหมาะสมกับสไตล์การเล่นของ ลิเวอร์พูล มากกว่าทั้งในแง่นของรูปแบบและประสิทธิภาพ เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถเล่นได้ตามแนวทางที่ อาร์เน่อ สล็อต ต้องการ และถ้า เกฮี ย้ายมาร่วมทีม คงต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควรก่อนจะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันได้
- การมีส่วนร่วมในเกมบุก
มันอาจไม่ใช่สิ่งแรกที่คุณต้องการจากผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก แต่ที่ ลิเวอร์พูล ทุกคนมักจะคุ้นเคยกับการเห็นกองหลังขึ้นมาสร้างความอันตรายเมื่อทัพ "หงส์แดง" ได้เล่นลูกตั้งเตะ
หากย้อนกลับไปแบบไม่ต้องนานมาก นักเตะอย่าง ซามี่ ฮูเปีย และ มาร์ติน สเคอร์เทล สามารถโหม่งทำประตูได้ปีละ 5-6 ลูก ปัจจุบัน ฟาน ไดค์ ก็ทำได้เหมือนกัน ซึ่งนั่นเป็นที่มาของเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องว่า -ฟาน ไดค์ ขึ้นมาแล้ว!- ทั่วสนามแอนฟิลด์ตอนที่ "หงส์แดง" ได้ลูกเตะมุม
กระนั้นแฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" ไม่ค่อยได้ยินแบบนี้ในกรณีของ โกนาเต้ และมีตัวเลขสามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แม้นักเตะจะมีรูปร่างสูงใหญ่และเต็มไปด้วยพละกำลัง แต่เขาไม่ค่อยอันตรายในพื้นที่สุดท้าย โดยทำได้แค่ 3 ประตูในซีซั่นแรก แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีประตูในซีซั่นถัดมาก่อนจะกลับมาซัด 2 ลูกเมื่อซีซั่น 2024/2025
สำหรับนักเตะที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งขนาดนี้ เขายังไม่สามารถสร้างความอันตรายสม่ำเสมอในพื้นที่สุดท้ายได้เท่าที่ควร ขณะที่ เกฮี กลับมาสถิติในการเล่นเกมรุกที่น่าสนใจมากกว่า นั่นก็คือเขายิงได้ 3 ลูกในเกมลีกซีซั่นล่าสุด
นอกจากนี้นักเตะยังมีโอกาสได้ยิงในกรอบเขตโทษ 13 ครั้งโดยเข้ากรอบ 7 ครั้ง ส่วน โกนาเต้ มีโอกาสยิงในกรอบมากกว่า (15 ครั้ง) แต่ตรงกรอบแค่ครั้งเดียว สถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เกฮี มีความเฉียบคมมากกว่าในการใช้โอกาสที่ได้ แม้จะไม่โดดเด่นเรื่องลูกโด่งเหมือน ฟาน ไดค์ แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่าหากมีการเปิดบอลที่แม่นยำมากพอ เขาก็สามารถสร้างอันตรายได้
ดังนั้นถ้าหาก เกฮี ได้ย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ นักเตะไม่ได้มีดีแค่เรื่องการเล่นเกมรับเท่านั้น แต่สามารถสร้างความอันตรายในเขตโทษคู่แข่งซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการดึงตัวมาร่วมทัพ
- บทสรุป
ณ ตอนนี้ โกนาเต้ เหมาะสมที่สุด โดยเขาสามารถผลงานได้น่าประทับใจในฤดูกาลแรกภายใต้การทำงานร่วมกับโค้ชอาร์เน่อ สลอต โดยเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง และเข้าใจระบบทีมได้เป็นอย่างดี
ส่วน เกฮี อายุน้อยกว่า 2 ปี และถือเป็นว่าเป็นการเสริมทัพเพื่อทดแทนการจากไปของ ควอนซาห์ ทั้งในแง่ประสบการณ์และศักยภาพในการพัฒนา ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับ ลิเวอร์พูล ในอนาคต
หากเกิดกรณีที่ โกนาเต้ ตัดสินใจฝากอนาคตเอาไว้กับทีมด้วยการขยายสัญญาใหม่ ทั้งสองคนนี้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกระดูกสันหลังในเกมรับของสโมสรทันทีที่ ฟาน ไดค์ ก้าวลงจากบทบาทหัวใจในแดนหลัง
แน่นอนว่ามีแค่เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ในเรื่องนี้ กระนั้นไม่ว่าดีลนี้จะสำเร็จหรือไม่ แต่ความพยายามที่จะเซ็นสัญญา เกฮี เป็นการบ่บองให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน ยิ่งถ้าหากสามารถเซ็นสัญญากับนักเตะได้ ก็ถือเป็นการเสริมทัพที่น่าตื่นเต้นสำหรับอนาตของทัพ "หงส์แดง" จริงๆ
TOMMY TEE.