ผัวยิงเมียคนที่ 3 ดับ หลังรับเข้าบ้านคืนแรก ก่อนจบชีวิตตาม เมียที่เหลือช็อก
เมื่อเวลา 22.15น. ร.ต.อ. สำเริง มนฑนม รองสาวรวัตรสอบสวน สภ. แม่แจ่ม ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ยิงกันเสียชีวิต ที่โรงเพาะกล้าไม้ไม่มีเลขที่ บ้านแม่หมุม ตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทีมกู้ภัยและแพทย์นิติเวช จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ นางสาวทิพย์รดา อายุ 36 ปี ชาวบ้านขุนกลาง อำเภอจอมทอง ถูกอาวุธปืน 9 ม.ม. ยิงเข้าที่ ศรีษะ นอนเสียชีวิต ภายในโรงปุ๋ยหมัก ของโรงเพาะกล้า ใกล้กันกับศพของนางสาวทิพย์รดา นั้นพบศพนายภักค์ อายุ 43 ปี ชาวอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอนเสียชีวิต ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะเหมือนกัน
จากการสอบสวน นางสุนีย์แซ่ย่าง อายุ 40 ปี ภรรยาคนที่ 2 ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุหลังจากทานข้าวเสร็จเธอและลูกพร้อมเมียคนที่ 1 คือนางใส อายุ 43 ปี ได้เข้าไปในห้องพัก ซึ่งผู้ตายทั้งสองคนได้อยู่ที่โรงหมักปุ๋ย คุยกันสองคนแต่ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตนเองตกใจและได้วิ่งออกมาดูแต่ไม่กล้าเข้าไปที่เกิดเหตุ จึงได้โทรหาน้องชาย ให้เข้ามาดูแทน เมื่อน้องชายเข้าไปดูจึงพบว่ามีการยิงกัน โดยเห็นสภาพของฝ่ายหญิงยังหายใจโรยรินอยู่ แต่ฝ่ายชายนั้นนอนแน่นิ่งแล้ว จึงได้โทรแจ้งรถพยาบาลและโทรแจ้งตำรวจ สภ.แม่แจ่มเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ค. เวลา 9 สามีได้ชวนภรรยาทั้งสองคน คือนางใส และนางสุนีย์ นั่งรถยนต์กระบะ ไปสู่ขอภรรยาคนที่ 3 ที่บ้านขุนกลาง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง เมื่อสู่ขอเสร็จแล้ว เวลา 11.00 น. ทั้ง 4 คนผัวเมียก็ได้ พากันไปทานข้าวที่ห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริมเพื่อฉลองการแต่งงานใหม่ โดยทั้ง 4 คนได้คุยกันและตกลงกันว่าจะนอนร่วมกัน 4 คนผัวเมีย ก่อนจะเดินทางกลับบ้านในพื้นที่อำเภอแม่แจ่มมาที่โรงเพาะบ้านพักและช่วงเย็นได้ทานข้าวเย็นร่วมกัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันละทิศละทาง
สามีตนและภรรยาคนที่สามก็ได้พากันไปคุยกันที่โรงหมักปุ๋ยคาดว่าทะเลาะกันและภรรยาคนที่ 3 จะหนีกลับบ้านสามีจึงได้บันดาลโทสะยิงภรรยาคนที่ 3 เสียชีวิต และยิงตัวเองตามเพื่อหนีความผิด หลังเกิดเหตุตนและภรรยาคนที่ 2 จึงได้เรียกคนในครอบครัวช่วยกันนำทั้งสองส่งโรงพยาบาลแต่ไม่ทันเสียชีวิต
หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพเรียบร้อยแล้วทางครอบครัวของนางสาวนางสาวทิพย์รดา อายุ 36 ปี ผู้เสียชีวิต ถึงกับร่ำไห้ที่เห็นศพลูกสาวตัวเอง ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าการออกจากบ้านเกิดในบ้านหลวงอำเภอจอมทอง เพื่อมาเป็นภรรยาของนายภักค์ นั้นจะทำให้มาเสียชีวิตอย่างไม่มีวันกลับ
ล่าสุดเช้าวันนี้ ร.ต.อ. สำเริง มนฑนม รองสาวรวัตรสอบสวน สภ. แม่แจ่ม ได้เรียกตัว ใส อายุ 43 ปี ภรรยาคนที่ 1 และ นางสุนีย์ อายุ 40 ปี ภรรยาคนที่ 2 มาสอบปากคำที่ สภ.แม่แจ่ม อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อประกอบสำนวนคดี
ส่วนศพของนายภักค์ อายุ 43 ปี และนางสาวทิพย์รดา อายุ 36 ปี นั้นหลังเสร็จคดีทางครอบครัวจะนำไปฝังเพราะทั้งสองคนเป็นชาวเขาเผาม้ง ซึ่งทางครอบครัวฝ่ายหญิงถือว่าได้ยกให้มาเป็นเมียฝ่ายชายแล้วทางฝ่ายชายต้องเป็นผู้รับผิดชอบและประกอบพิธีให้ศพให้กับฝ่ายหญิงตามประเพณี