รวมมิตร วิบากกรรม “แพทองธาร ชินวัตร” กับ 1 ปีบนเก้าอี้นายกฯ
16 สิงหาคม 2568 ถือเป็นวันครบรอบ 1 ปี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 และกลายเป็นนายกฯ คนที่ 3 ที่มาจากตระกูลชินวัตร ตามรอยพ่อและอาสาว
ตลอดระยะเวลา 1 ปี น.ส.แพทองธาร ทั้งในฐานะนายกฯ และทายาททางการเมืองของอดีตนายกฯ ทักษิณ ถูกจับจ้อง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเด็น โดยเฉพาะความสามารถในการบริหารประเทศ
ทว่า…ระเบิดลูกใหญ่ที่สุด คงหนีไม่พ้นการที่ นายกฯ แพทองธาร ถูกอดีตผู้นำกัมพูชาบันทึกและเผยแพร่เสียงสนทนา เรื่องการเจรจาปัญหาพรมแดนไดย-กัมพูชา จนกระทั่งวันที่ 1 ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 36 สว. และมีคำสั่งให้นายกฯ แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี บนเก้าอี้นายกฯ และอีกราว หนึ่งสัปดาห์ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ชะตาคดีแพทองธาร ในวันที่ 29 ส.ค.นี้
SPRiNG ชวนย้อนดูเส้นทางตั้งแต่ Day 1 เรื่อยมาจนครบ 1 ปี ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตในเรื่องใดบ้าง
จุดเริ่มต้นบนเก้าอี้นายกฯ
วันที่ 16 ส.ค. 67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ด้วยคะแนนเสียง 319 ต่อ 145 เสียง หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ และจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ครบ 1 ปีพอดี
รวมประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์
- นายกฯ แพทองธาร กับ iPad คู่ใจ
7 ต.ค. 67 ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ iPad อ่านสคริปต์ระหว่างการประชุมนานาชาติ เช่น การประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Summit) ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ แต่ น.ส.แพทองธารก็ยืนยันว่าผู้นำทั่วโลกต่างก็ทำเช่นเดียวกัน และเป็นเรื่องปกติในการประชุมระดับประเทศ
ต่อมา ผู้ใช้ X รายหนึ่ง แชร์ภาพนายกฯ ก้มอ่าน iPad พร้อมระบุข้อความว่า “อย่างน้อยศึกษาข้อมูลให้มีในสมองบ้างครับ ก้มหน้าอ่านจากไอแพด มันดูน่าขายขี้หน้าประเทศ ประยุทธ์ว่าแย่แล้ว คนนี้แย่พอหรือแย่กว่าด้วย”
หลังจากนั้นไม่นาน นายกฯ แพทองธาร ได้เข้าไปคอมเมนต์ตอบกลับว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ รบกวนดูข่าว ข้อมูลเยอะๆนะคะ เวลาประชุมแบบนี้ทั่วโลกเขาอ่านกันค่ะ มันเป็นสิ่งที่ต้องบันทึก อ่านทุกคน ตั้งแต่ Sheikh ถึง Minister เลยค่ะ”
“ลองหาข้อมูลเพิ่มดู ถ้าเป็นทวิภาคีส่วนใหญ่จะจดหัวข้อไป แล้วพูดกันแบบไม่ต้องอ่าน จะเกิดการสร้าง Connection (การเชื่อมต่อ) ที่ดี ดูแค่หัวข้อให้ครบถ้วน ไม่มีใครแย่กว่าใครหรอก ทุกคนมีความสามารถกันคนละด้านค่ะ เปิดใจกว้างๆ ลองให้โอกาสตัวเอง ลดอคติลงจะมีความสุขขึ้นค่ะ”
“ชี้แจงนิดหน่อยละกันเนาะ คือตอนก่อนไป ก็เตรียมตัวค่ะ ว่าต้องอ่าน หรือต้องเป็นรูปแบบไหน คนอื่นเค้าทำยังไงกันไม่ใช่ไปเฉยๆ ไม่ทำการบ้านค่า งานระดับประเทศ จะไปแหวกแนวคนอื่นเค้า ก็คงไม่ใช่”
- กำเนิดวลี “สามีคนใต้”
1 ธ.ค. 67 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คำพูดว่า "สามีเป็นคนใต้" หลังจากถูกตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงไม่ลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ โดยนายกฯ กล่าวไว้เช่นนี้
“คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีก็คนใต้ ถ้าละเลยคนใต้หรือไม่รักคนใต้ แต่งงานกับคนใต้ไม่ได้นะคะ” นี่คือคำตอบจากนายกฯ แพทองธาร ซึ่งถูกวิจารณ์ในการตอบคำถามพอสมควร
ต่อมาในวันที่ 17 ธ.ค. 67 นายกฯ แพทองธาร ควงสามีคนใต้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ‘นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี’ และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานดูแลทุกเรื่องให้เต็มที่ และย้ำว่าชีวิตประชาชนสำคัญที่สุด
- ถูกวิจารณ์แต่งตัวไม่เหมาะสม
อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกจับตามองคือ ‘สไตล์การแต่งตัว’ โดยประเด็นที่นายกฯ แพทองธารถูกติงมากที่สุดคือเรื่อง ‘ความเหมาะสม’ ถ้าเราไล่เรียงกันดู มีหลายเหตุการณ์ที่เสื้อผ้านายกฯ ถูกหยิบไปวิจารณ์อย่างถึงพริกถึงขิง
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 68 นายกฯ แพทองธาร ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการแต่งกายที่ไม่เป็นทางการในการเข้าพบนายสี จิ้นผิง ปธน.จีน ในวาระ 50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน โดยสวมรองเท้าสีดำประดับมุกจากแบรนด์ Chanel ราคาอยู่ที่ 1,550 USD หรือประมาณ 52,135 บาท
โดยความคิดเห็นแตกเป็น 2 ฝั่ง บ้างบอกว่านายกฯ แต่งตัวไม่เหมาะสม ไม่ถูกกาละเทศะ กับอีกฝ่ายก็มองว่าผู้นำในโลกปัจจจุบันได้ก้าวข้ามข้อจำกัด หรือขนบในการแต่งกายแบบเก่า ๆ แล้ว
- เผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก
“ดิฉันเสียภาษีให้รัฐมากกว่าท่านแน่นอน” นายกฯ แพทองธาร กล่าวเอาไว้ในวันแรกของการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 68 หลังรัฐบาลแพทองธารบริหารแผ่นดินมาได้ 6 เดือน
โดยฝ่ายค้านตั้งคำถามถึง นายกฯ แพทองธารไว้ในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการบริหารเศรษฐกิจ การสานต่อนโยบายที่ไม่เป็นธรรม และบทบาทในการกลับประเทศของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร การอภิปรายทั้ง 2 วัน นายกฯ ต้องเจอกับคำถามเหล่านี้จากฝ่ายค้าน
โดยการอภิปรายในครั้งนี้ เป็นการมุ่งเป้าไปที่นายกฯ เพียงคนเดียว ถือเป็นครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ไทย ที่นายกฯ ถูกล็อคเป้าเดี่ยว โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นกับพล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2540 แม้จะผ่านศึกการอภิปรายได้ แต่จบด้วยการลาออก
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 มี.ค. 68 สภาฯ ลงมติให้ความไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ด้วยเสียงทั่วท้น 319 เสียง ต่อ 162 เสียง
- แม้ป่วยเข้าโรงพยาบาล ยังถูกวิจารณ์
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 68 นายกฯ แพทองธาร มีอาการป่วย-ไข้ขึ้นสูง จนต้องแอดมิทโรงพยาบาลเมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย. 68 หลังกลับจากเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ นั่นทำให้กำหนดการของนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาลและการให้การต้อนรับผู้ที่เข้ามาพบหารือ เลื่อนออกไปก่อน
โดยก่อนหน้านี้ ในวันที่ 24 เม.ย. 68 “ปิฎก สุขสวัสดิ์” สามีนายกฯ โพสต์ภาพในไอจีสตอรีรูปนายกฯ นอนป่วยซมอยู่บนเตียง พร้อมใส่แว่นตาสีดำ และระบุแคปชันว่า “ใครเตือนไม่ฟัง ร่างกายเตือนแล้วว่าไม่ไหว”
เมื่อภาพถูกแชร์ออกไป สังคมโซเชียลกระหน่ำความคิดเห็นหลั่งใหลเข้ามา บ้างบอกว่า “ร่างกายเตือนแล้ว” ให้นายกฯ ลาออก “ป่วยแบบใดห์ ไม่เนียนตรงใส่แว่นนอนเนี่ยแหละ” “เล่นละครได้เก่งสมซื่อเพื่อไทยการละครจริงๆ” และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่แสดงความคิดเห็นด้วย Hate speech
- วิกฤตคลิปเสียง อาจสิ้นสุดเส้นทางนายกฯ?
ท่ามกลางความตึงเครียดชายแดน-ไทยกัมพูชา ช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิ.ย. 68 เกิดเป็นประเด็นร้อน หลังมีการแชร์คลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ ไทย กับสมเด็จฮุนเซน ยาว 9 นาที โดยเป็นคลิปเสียงที่ถูกอัดไว้จากการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 68
เนื้อหาการพูดคุยนั้น นายกฯ แพทองธารได้เรียกสมเด็จฮุนเซนว่า อังเคิล (Uncle) หรือ ท่านลุง และเรียกร้องอยากให้ชายแดนกลับมาสงบสุข อย่าไปฟังฝ่ายตรงข้าม อย่างแม่ทัพภาคที่ 2 พูดเอาเท่ ไม่เป็นประโยชน์ต่อชาติ “เห็นใจหลานหน่อย ตอนนี้เขาไล่ไปเป็นนายกฯ เขมรแล้ว”
เนื้อหาภายในคลิปเสียงนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายระดับ ทั้งในแง่ความเหมาะสม ความไม่รอบครอบ ขาดประสบการณ์ ปัญหาความไม่ลงรอยระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ นี่คือชนวนสำคัญที่จุดระเบิดให้รัฐบาลแพทองธาร ระส่ำที่สุดในรอบ 1 ปี ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกฯ
วันที่ 21 มิ.ย. 68 สว. คน ยื่นคำร้อง ขอศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่-ถอดถอน นายกฯ แพทองธาร กรณีคลิปเสียง หลังพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์สุจริต และฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ปมคลิปเสียงสนทนา “ฮุนเซน” บ่งบอกเป็นคนทรยศขายชาติ
โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
วันที่ 1 ก.ค. 68 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7:2 สั่งแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ส่งผลให้แพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ได้โดยตรงจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
- ปรับครม. ใหม่ “แพทองธาร 2” ประชาชนถึงกับท้อ
ในวันเดียวกัน ราชกิจจาฯ เผยแพร่พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรี "นายกฯ แพทองธาร" นั่งควบ วธ. "ภูมิธรรม" โยกนั่ง รองนายกฯ ควบ มท.1
อย่างไรก็ตาม ครม.แพทองธาร 2 ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยสังคมมองว่าเป็นแค่ ครม.เฉพาะกิจ หรือ ‘ลดแลกแจกแถม’ ตำแหน่งต่าง ๆ ให้กับพรรคร่วมกันถ้วนทั่ว โดยมีเป้าหมายคือยื้อเวลาเพื่อเคลียร์เรื่องสำคัญ และเตรียมความพร้อมเพื่อเลือกตั้งใหม่
จับตา 29 ส.ค. 68 แพทองธาร ชินวัตร กระเด็นเก้าอี้นายกฯ?
วันที่ 21 ส.ค. 68 ที่จะถึงนี้ นอกจากจะเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 39 ของนายกฯ แพทองธารแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก คือ ผู้ถูกร้อง และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในวันเดียวกันนี้ด้วย
วันนี้ (15 ส.ค. 68) ที่อาคารรัฐสภา น.ส.แพทองธารเดินทางมาติดตามการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการไปในนัดสืบพยานของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 ส.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร แค่ยิ้มและไม่ตอบอะไร
อย่างไรก็ตาม หากพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียก ไม่มาตามกำหนดนัด ถือว่าไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจยื่น
"บทสรุปของคดีนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง