เปิดเงื่อนไข ‘ฮิลลารี คลินตัน’ เสนอชื่อทรัมป์ชิงโนเบลสันติภาพ
สมัยนี้การรับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าในเวลาใดก็ตามย่อมสร้างความงุนงง แต่วันก่อนมีรายงานว่า รัฐมนตรีคลังนอร์เวย์รับไปหนึ่งสายที่สร้างความประหลาดใจให้มากที่สุดระหว่างเดินอยู่กลางกรุงออสโล
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นอร์เวย์ Dagens Naeringsliv คนแปลกหน้าที่โทรมาคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ถามกับเจนส์ สโตลเตนเบิร์ก รมว.คลังว่า ทำอย่างไรผู้นำอเมริกันถึงจะได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ
เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ทรัมป์ แสดงออกชัดเจนว่าเขาปรารถนาอยากได้รางวัลนี้ บางคนกล่าวว่า นี่คือปัจจัยสำคัญทำให้เขาพยายามเป็นคนกลางทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย รวมถึงการที่เขามุ่งเน้นเรื่องอิสราเอลและกาซา
แต่เมื่อเดือน มิ.ย. เขากลับบ่นผ่านทรูธโซเชียล
“ผมไม่ได้รางวัลโนเบลสันติภาพหรอกไม่ว่าจะทำอะไร ทั้งรัสเซีย/ยูเครน อิสราเอล/อิหร่าน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง แต่ประชาชนรู้ดี และนั่นคือสิ่งสำคัญสำหรับผม!”
สัปดาห์นี้ผลกระทบของทรัมป์ต่อเศรษฐกิจจะถูกจับตา เมื่อกลุ่มของผู้ได้รับรางวัลโนเบลที่ทรัมป์หวังร่วมวงด้วย จะพบกันในงานประจำปีที่เมืองลินเดา ประเทศเยอรมนี
ทำเนียบขาวคงไม่ยากฟังนัก เพราะหนึ่งในนั้นคือโจเซฟ สติกลิตซ์ หนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์โนเบลผู้โด่งดังที่สุด เขาเคยบอกกับเดอะการ์เดียนก่อนหน้านี้ว่า
“ผมบอกได้เลย สหรัฐกลายเป็นที่ที่ไม่น่าลงทุน” นโยบายภาษีของรัฐบาลเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อสูง (stagflation) สร้าง“ความกังวลใจชัดเจน” ให้กับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
โรเจอร์ ไมเออร์สัน เป็นอีกหนึ่งคนที่จะร่วมงานในลินเดา เขากังวลเรื่องการเมืองอเมริกันมากกว่า เจ้าตัวเขียนบททัศนวิจารณ์ชิ้นหนึ่งลงใน The Hill ว่า
“เมื่อโหวตเตอร์กลุ่มใหญ่ถูกจูงใจว่า มีเพียงพรรคการเมืองเดียวเท่านั้นที่ห่วงใยพวกเขาจริงๆ เมื่อนั้นพวกเขาอาจไม่รู้สึกถึงการมีส่วนได้ส่วนเสียกับประชาธิปไตย แล้วสนับสนุนผู้นำสลัดข้อติดขัดในรัฐธรรมนูญออกไป”
ขณะที่ไซมอน จอห์นสัน ห่วงเรื่องลัทธิแยกตนเองของอเมริกา บอกในรายการพอดแคสต์ Nobel Prize Conversations ว่า นั่นคือ “การทำลายทุนมนุษย์ และมอบความได้เปรียบอย่างมหาศาลให้กับคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นการกระทำที่โง่เขลาทำลายตัวเองของรัฐบาลทรัมป์”
ดูเหมือนว่าทรัมป์จะมีแต่คนวิจารณ์ กระนั้นเขายังมีผู้สนับสนุนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้คนหนึ่ง ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ฮิลลารี คลินตัน อดีตเฟิร์สเลดี้และคู่แข่งจากเดโมแครต ที่กล่าวว่า หากเขาสามารถยุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียได้
“โดยไม่ทำให้ยูเครนต้องยอมยกดินแดนให้กับผู้รุกราน ดิฉันจะเสนอชื่อเขาเข้าชิงโนเบลสันติภาพ”