เพื่อนไม่ซ้ำเติม! ‘ตั้ม วราวุธ’ ห่วง ‘มารี’ หลังมีคดีเมาแล้วขับ ชี้บทเรียนครั้งนี้หนักหนาสาหัสแล้ว!
ยังคงเป็นประเด็นร้อนอย่างมากบนโลกออนไลน์ สำหรับกรณีของนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ที่มีการปฏิเสธการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ขณะขับรถหรูเข้ามาที่ด่านตรวจของ สน.วังทองหลาง พร้อมทั้ง “ไฮโซบอส” เพื่อนชายคนสนิทมีพฤติกรรมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ตามคลิปปรากฏบนโลกออนไลน์ ต่อมาความคืบหน้า มารี ให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษาความผิดฐานขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ปรับเป็นพินัยชั้นพนักงานสอบสวน 1,000 บาท ฐานขับรถในขณะเมาสุรา พิพากษา จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี รายงานตัว 3 ครั้ง บริการสังคม 12 ชม. พักใบขับขี่ 6 เดือน ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้
ด่วน! ศาลสั่งจำคุก ‘มารี เบรินเนอร์’ เมาขับ 2 เดือน-‘ไฮโซบอส’ ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ 1 เดือน
ล่าสุดในงานแถลงข่าว “Ram Hero Run 2026” เพื่อนสนิทอย่าง“ตั้ม วราวุธ” หรือ “ตั้ม เดอะสตาร์” ก็ได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งตนยอมรับว่าหลังจากเห็นคลิปของเพื่อนสาวก็ตกใจหนักมากแต่ยังไม่ได้ติดตามข่าวสารล่าสุด และยังไม่ได้มีการติดต่อไปหาเพื่อนแต่อย่างใด
โดย ตั้ม วราวุธ เผยว่า “สำหรับเรื่องของมารี ผมยังไม่ได้ตามข่าวล่าสุดมากนัก แต่พอเห็นข่าวตอนแรกก็ตกใจมาก ก็ได้ดูคลิปว่าเพื่อนเราเป็นอะไรแบบไหน ก็ได้ติดตามอยู่ จริงๆ ในเรื่องของความเป็นห่วง เราก็เป็นห่วง เพราะเราเองก็เป็นคนดื่ม เลยเข้าใจว่าเวลาเมา สติสัมปชัญญะมันจะเป็นประมาณไหน อันนี้เราเข้าใจอยู่แล้ว ซึ่งผมก็ยังไม่ได้สอบถามอะไรว่าเขาเมาระดับไหน หรือเหตุการณ์ที่แท้จริงมันเกิดอะไรขึ้น ได้ดูแค่ตามคลิปเท่านั้น ดูเท่าที่ทุกคนได้ดู
ในมุมของความเป็นเพื่อนก็เป็นห่วง แต่ในมุมของความถูกต้องมันก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้ามีโอกาสได้เจอคงจะมีการพูดคุยกัน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ก็ต้องเตือนกัน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้อัปเดตอะไร เพราะคิดว่าสภาพจิตใจของเขาน่าจะหนักเหมือนกัน และก็ไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ในด่าน เขาพอจะรู้ตัวหรือเปล่าด้วย บางคนเมาก็ภาพตัด เราไม่รู้ระดับการเมาของเขา ยังไม่ได้สอบถามอะไร แต่ถ้าเป็นไปตามคลิป ผมว่าในเรื่องของความถูกต้องก็อีกส่วนหนึ่ง ในมุมของเพื่อนก็อีกส่วนหนึ่ง
ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง เราเป็นศิลปินดารา เราเป็นตัวอย่างของสังคมด้วย ถ้าจะต้องถูกดำเนินการอย่างไร เขาก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำไป ครั้งนี้น่าจะเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่สำคัญสำหรับเขาเลย เราคงไม่ได้ไปซ้ำเติมเพื่อน จริงๆ เตือนผมก็ยังไม่กล้าเตือนเลย เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้รับตอนนี้มันก็น่าจะพอสมควรแล้วเหมือนกัน ส่วนโทษที่โดนจำคุก 2 เดือน ถ้าเป็นผมโดน ผมก็รู้สึกว่า 2 เดือนมันก็หนักหนาสาหัส แต่ถ้ามันเป็นบทเรียนของเราก็จะได้รู้ว่าครั้งหน้าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก
ส่วนเวลาที่ผมดื่ม ผมก็จะเรียกแกร็บ และช่วงหนึ่งผมก็ใช้บริการคนขับรถส่วนตัวเหมือนกัน เพราะปกติเราเป็นคนขับรถไม่ได้ดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าดื่มไปยังไงก็ต้องมีคนมาขับให้ เพื่อนๆ ก็จะรู้ ผมก็จะบอกเพื่อนๆ ด้วยว่าผมเป็นคนดื้อ ถ้าผมไปคนเดียว ผมจะสั่งเพื่อนเลยว่าถ้าทุกคนกลับให้เรียกรถให้ด้วย”