โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาหาร

4 เครื่องปรุงยอดฮิต ใช้มากเกินไป ทำลายตับไม่รู้ตัว

สยามนิวส์

เผยแพร่ 10 ต.ค. เวลา 07.13 น. • ทีมข่าวสยามนิวส์
รายงานจากสื่อต่างประเทศ เปิดเผยถึงเครื่องปรุงรส ภัยเงียบใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม แม้จะเป็นเครื่องปรุงรสที่คุ้นเคยและช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การบริโภคเครื่องปรุงบางชนิดในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ ตับทำงานหนัก และเสี่ยงต่อโรคตับร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัว

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา รายงานจากสื่อต่างประเทศ เปิดเผยถึงเครื่องปรุงรส ภัยเงียบใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม แม้จะเป็นเครื่องปรุงรสที่คุ้นเคยและช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การบริโภคเครื่องปรุงบางชนิดในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ ตับทำงานหนัก และเสี่ยงต่อโรคตับร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัว

แอลกอฮอล์ถือเป็น ศัตรูหมายเลขหนึ่ง ของตับมาอย่างยาวนาน เมื่อเข้าสู่ร่างกาย เอทานอลในแอลกอฮอล์จะถูกตับจัดการและเปลี่ยนเป็นอะซีตัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถทำลายเซลล์ตับและก่อให้เกิดการอักเสบ หากดื่มบ่อยๆ ตับต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อขจัดสารพิษ ทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ ตับแข็ง และอาจลุกลามเป็นมะเร็งตับได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึงคือ แม้จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ตับก็ยังสามารถถูกทำลายได้จากสิ่งของธรรมดาในครัว หลายชนิดเป็นเครื่องปรุงที่คุ้นเคย แต่หากใช้มากเกินไปอาจทำให้ตับเสื่อมเร็วกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียอีก เช่น

1. เกลือ

การกินเค็มไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อหัวใจเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดภาระหนักต่อตับอีกด้วย เมื่อร่างกายมีปริมาณเกลือสูงเกินไป กระบวนการขับของเสียจะถูกขัดขวาง ทำให้สารพิษตกค้างอยู่ในตับนานขึ้น นอกจากนี้ การบริโภคเกลือมากเกินยังทำให้รู้สึกกระหายน้ำมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การดื่มน้ำหวานหรือน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้นไปอีก

2. น้ำตาล

น้ำตาลช่วยให้อาหารรสชาติดีขึ้น แต่หากบริโภคมากเกินไป ตับจะต้องแปรสภาพน้ำตาลส่วนเกินให้เป็นไขมัน ทำให้เกิดภาวะไขมันสะสมในตับ (Fatty Liver) ซึ่งอาจลุกลามเป็นตับอักเสบหรือตับแข็งได้

รายงานจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ระบุว่า การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพิ่มความเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ถึง 30% ขณะที่ WHO แนะนำให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน หรือประมาณ 50 กรัมต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่

3. ซีอิ๊ว (ซอสถั่วเหลือง)

ซีอิ๊วถือเป็นเครื่องปรุงคู่ครัวของคนไทย แต่หากใช้มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อตับได้ เพราะกระบวนการหมักถั่วเหลืองอาจก่อให้เกิด สารอะมิโนไนไตรต์ (ammonium nitrite) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ตับซึ่งทำหน้าที่ขจัดสารพิษต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดสารนี้ ส่งผลให้เซลล์ตับถูกทำลายและฟื้นตัวได้ช้าลง

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ซีอิ๊วในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 10–15 มิลลิลิตรต่อวัน และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่หมักด้วยวิธีธรรมชาติ หลีกเลี่ยงชนิดที่มีสารกันเสียหรือสีสังเคราะห์

4. น้ำมันพืช

น้ำมันพืชเป็นแหล่งไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากบริโภคมากเกินไป ตับจะต้องเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและภาวะอักเสบในเซลล์ตับ ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อใช้น้ำมันทอดซ้ำหรือใช้น้ำมันหมดอายุ เนื่องจากอาจเกิด สารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตับที่อันตรายแม้ในปริมาณเล็กน้อย

นักโภชนาการแนะนำให้บริโภคน้ำมันไม่เกิน 25–30 กรัมต่อวัน และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทอดซ้ำ ควรเก็บน้ำมันไว้ในที่แห้ง เย็น และพ้นแสงแดดเพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพ

แม้เครื่องปรุงเหล่านี้จะเป็นของคู่ครัว แต่การใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ตับทำงานหนักและเกิดโรคได้ในระยะยาว การปรับพฤติกรรมการกินและใช้เครื่องปรุงอย่างพอดี คือ กุญแจสำคัญในการดูแล สุขภาพตับ ให้แข็งแรงในทุกมื้ออาหาร

ขอบคุณ soha

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...