ฐาน CCUS ขนาดใหญ่ในจีนตอนเหนือ หนุนผลิตน้ำมันแบบประหยัดน้ำ-ลดคาร์บอน
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
ฮูฮอต, 11 ส.ค. (ซินหัว) — รัฐบาลเทศบาลเมืองปาเยี่ยนเน่าเอ่อร์ เขตปกครองตนเองมองโกเลียในทางตอนเหนือของจีน รายงานว่าโครงการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ของบ่อน้ำมันปาเยี่ยนได้อัดฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บ่อน้ำมันมากกว่า 70,000 ตัน ซึ่งนับเป็นการจัดตั้งฐานใช้ประโยชน์และกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขนาดใหญ่ในมองโกเลียใน
รายงานระบุว่าบ่อน้ำมันปาเยี่ยนมีบ่อผลิตจากแหล่งน้ำมันดิบที่อยู่ลึกมากกว่า 300 บ่อ และใช้ประโยชน์จากวิธีการอัดน้ำเข้าสู่แหล่งน้ำมันดิบเพื่อผลักดันน้ำมันขึ้นมายังบ่อผลิตนานแล้ว ทำให้อัตราการสกัดน้ำมันดิบด้วยวิธีการนี้อยู่ที่ราวร้อยละ 20
หยางเสวี่ยซง หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำหน่วยงานสำรวจและพัฒนาปาเยี่ยน สังกัดบริษัทปิโตรไชน่า หัวเป่ย ออยล์ฟิลด์ กล่าวว่าบ่อน้ำมันปาเยี่ยนเริ่มต้นสำรวจการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการสกัดน้ำมันดิบตั้งแต่ปี 2020 เพื่อประหยัดน้ำและลดปล่อยคาร์บอน โดยโครงการฯ ได้เพิ่มอัตราการสกัดน้ำมันดิบเป็นราวร้อยละ 45
ทั้งนี้ โครงการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนกลายเป็นแนวทางใหม่ในการพัฒนาพลังงานฟอสซิลที่มีประสิทธิภาพและคาร์บอนต่ำ ซึ่งช่วยรับมือกับภาวะโลกร้อนด้วยการกักเก็บหรือใช้ประโยชน์จากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับไว้ และสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของจีนที่จะปล่อยคาร์บอนแตะระดับสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนก่อนปี 2060
เทคโนโลยีการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนของจีนมีความก้าวหน้าโดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยแผนงานดักจับคาร์บอนระดับชาติที่เผยแพร่เมื่อปี 2024 ระบุว่าจีนมีโครงการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนทั่วประเทศ จำนวน 126 โครงการ ซึ่งเพิ่มขึ้น 77 โครงการจากปี 2020
จีนได้เริ่มต้นดำเนินโครงการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนนอกชายฝั่งแห่งแรกบนแท่นขุดเจาะเอินผิง 15-1 ในพื้นที่ลุ่มปากแม่น้ำจูเจียงทางตอนใต้ของประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยโครงการนี้ดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้บริสุทธิ์และเพิ่มแรงดันจนอยู่ในสภาวะวิกฤตยิ่งยวด (supercritical state) แล้วอัดฉีดลงสู่แหล่งน้ำมันใต้ดิน ซึ่งช่วยเพิ่มการผลิตน้ำมันและการกักเก็บคาร์บอน