ใบไม้เปลี่ยนสี “ฟุกุชิมะ” จากขุนเขาสู่ออนเซ็น
“โทโฮคุ” มีเซนไดเป็นเมืองหลัก แต่จังหวัดของภูมิภาคนี้ที่ชาวไทยไม่ควรพลาดคือ “ฟุกุชิมะ” จังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สามารถนั่งชินคันเซนเดินทางจากสถานีโตเกียวโดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ยังอยู่เหนือนิกโก้และอยู่ใต้เซนได ทำให้ง่ายต่อการวางเส้นทางท่องเที่ยว
ฟุกุชิมะโดดเด่นด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เทือกเขาสูง ทะเลสาบ ไปจนถึงหมู่บ้านออนเซ็น อีกทั้งยังคงรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่จากสมัยเอโดะไว้อย่างงดงาม จึงทำให้ได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีในหลากหลายบรรยากาศ ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนแถบนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
แห่งแรกที่ต้องไปคือ “ปราสาทสึรุงะ” ปราสาทไร้พ่ายที่ถือเป็นแลนด์มาร์กและหัวใจของเมืองไอสึวากามัตสึ จุดเด่นอยู่ที่หลังคาของปราสาทที่ยังคงรูปแบบของกระเบื้องสีแดงอย่างปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น และในปัจจุบัน ปราสาทสึรุงะเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ยังคงรูปแบบหลังคากระเบื้องสีแดงไว้อยู่ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปราสาทจะถูกล้อมรอบด้วยต้นเมเปิ้ลสีแดงสดและจัดแสดงไลท์อัพให้ชมในยามค่ำ เมื่อขึ้นไปถึงยอดปราสาทจะได้เปิดมุมมอง 360 องศาของเมืองและทิวเขารอบ ๆ นอกจากนี้บริเวณด้านล่างยังมีเรือนน้ำชาและร้านขนมของฝากมากมาย
สถานีชินคันเซ็นที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีโคริยามะ การเดินทางจากสถานี JR ไอสึ วากามัตสึ ให้นั่งรถบัสไฮคะระซังมาประมาณ 20 นาที จากนั้นลงที่ป้ายรถบัสสึรุงะโจ อิริกูชิ
เมื่อมาถึงจังหวัดฟุกุชิมะ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดที่สุดก็คือ การนั่งเรือข้ามฟากชมช่องเขาม่านหมอก“มุเก็นเคียว โนะ วาตาชิ” ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกให้เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น เหตุที่สถานที่นี้ได้ชื่อว่า “ช่องเขาม่านหมอก” นั้น เพราะในช่วงตอนเช้าและตอนเย็นของฤดูร้อน ที่นี่จะเกิดหมอกลึกลับปกคลุมเหนือแม่น้ำทาดามิซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากหิมะที่ละลาย ดังนั้นเมื่อแสงแดดอุ่นในยามเช้าหรือช่วงพลบค่ำปะทะเข้าสายน้ำที่เย็นเฉียบ จึงก่อให้เกิดไอหมอกลอยขึ้นปกคลุมทั่วหุบเขา และค่อย ๆ สลายหายไปเมื่อแสงแดดจ้าในวันรุ่งขึ้นเข้าสาดส่อง
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางของแม่น้ำจะกลายเป็นสีส้มแดง ใบไม้เปลี่ยนสีเหล่านี้จะสะท้อนบนผิวน้ำ ย้อมแม่น้ำทาดามิให้ออกมาเป็นสีส้มอ่อน ๆ จึงเป็นอีกฤดูกาลหนึ่งที่ได้รับความนิยม นอกจากนี้เรือไม้ที่พาเราข้ามฟากนั้น ในอดีตยังเป็นเรือที่ใช้รับส่งชาวบ้านข้ามฝั่งแม่น้ำทาดามิมาเป็นเวลายาวนานกว่า 300 ปี และคนขับเรือยังแต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศ ทำให้เรารู้สึกราวกับได้ย้อนอดีตอีกด้วย
สถานีชินคันเซ็นที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีโคริยามะ การเดินทางสามารถนั่งรถไฟสาย JR ทาดามิมาลงที่สถานี JR ฮายาโตะ
สำหรับคนที่หลงเสน่ห์ของยุคเอโดะต้องตรงไปที่ “หมู่บ้านโบราณโออุจิจุคุ” หมู่บ้านโบราณแห่งเดียวในฟุกุชิมะที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมจากยุคเอโดะไว้อย่างสมบูรณ์ ที่นี่เคยเป็นเส้นทางสัญจรสำคัญของโชกุนและพ่อค้าเมื่อกว่า 300 ปีก่อน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “เขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารดั้งเดิมสำคัญของชาติ” ตั้งแต่ปี 1981
ภายในหมู่บ้านมีอาคารกว่า 30 หลังเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบสองฝั่งของถนนสายเก่า รายล้อมด้วยภูเขาที่ถูกย้อมด้วยสีส้มแดงเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ทางเดินขึ้นจุดชมวิวยังเดินสะดวกและไม่ไกล รับรองได้เลยว่าจะได้ภาพมุมหลังคาหมู่บ้านแบบเดียวกับของช่างภาพแน่นอน ทุกมุมทุกช็อตจึงกลายเป็นภาพสวยเหมือนในนิยาย
ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของที่นี่คือ “เนกิโซบะ” โซบะเส้นสดเสิร์ฟพร้อมต้นหอมญี่ปุ่นที่ใช้แทนตะเกียบ ทานคู่กับน้ำซุปหวานๆ หอมโชยุอ่อน ๆ เป็นประสบการณ์ท้องถิ่นสุดแปลกใหม่ที่หาได้เฉพาะที่หมู่บ้านโออุจิจูคุเท่านั้น ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นจุดแวะพักผ่อนสำหรับนักเดินทางจากเมืองไอสึไปยังนิกโก
สถานีชินคันเซ็นที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีชินชิราคาวะ การเดินทางจากสถานีนิชิวะกะมัทสึ ขึ้นรถไฟท้องถิ่นไอสึเรียลเวย์ ลงสถานียูโนะคะมิออนเซ็น และต่อรถบัสซารุยุโกะ มุ่งหน้าไปยังโออุจิจุคุ ประมาณ 20 นาที หลังจากเที่ยวปราสาทสึรุกะหรือหมู่บ้านโออุจิจูคุ แนะนำให้แวะพักที่โรงแรมโอคาวะโซ ในย่านอาชิโนะมากิออนเซ็น ห้องพักทุกห้องตั้งอยู่ริมธารน้ำที่ไหลจากภูเขา นอกจากนี้ยังติดกับวิวภูเขา ฉะนั้นรับรองได้เลยว่าจะได้เห็นทิวทัศน์ที่ถูกย้อมเป็นสีส้มแดงเมื่อมองออกมาจากหน้าต่างห้องพักแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเย็นของทุก ๆ วันจะมีการแสดงชามิเซ็น ณ ใจกลางโรงแรมที่ได้รับการออกแบบภายในได้อย่างเป็นเอกลักษณ์
ออกไปที่ “บึงน้ำห้าสี” หรือ “ทะเลสาบโกชิคินุะ” ธรรมชาติอันงดงามที่ได้ดาวจากมิชลิน กรีนไกด์ บึงน้ำห้าสีที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต เมื่อแร่ธาตุทำปฏิกิริยากับสภาพแวดล้อมรอบด้านทำให้มองเห็นน้ำในทะเลสาบเป็นสีต่าง ๆ ตั้งแต่สีฟ้า น้ำเงินเข้ม เขียว เหลืองไปจนถึงแดง ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ธรรมชาติที่รายล้อมบึงจะกลายเป็นสีส้มแดงตัดกับสีของบึงอย่างงดงาม นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมพายเรือ หรือถ้าหากใครสนใจชมหลายบึง ที่นี่ก็มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เดินง่าย และเป็นเส้นทางที่สามารถชมบึงโกชิกินุมะได้ถึง 3 บึงด้วย
การเดินทางจากสถานี JR อินะวะชิโระ ให้ขึ้นรถบัสสายอุระบันได โคเก็น ผู้ที่ต้องการชมบึงที่นิยมที่สุด บึงบิโชมอน นูมะ แห่งเดียว ให้ลงที่ป้ายเมอร์เคียว อุระบันได ส่วนผู้ที่ต้องการเดินเส้นทางชมธรรมชาติของป่าอุระบันได ให้ลงที่ป้ายอุระบันได เลค รีสอร์ท
สำหรับใครที่ชื่นชอบการเช่ารถยนต์เที่ยวญี่ปุ่น “เส้นทางบันได อาซูมะ เลคไลน์” คือคำตอบ เพราะนี่คือเส้นทางสำหรับขับรถชมใบไม้เปลี่ยนสีโดยเฉพาะ ถนนสายเลคไลน์นี้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวแห่งเดียวกับบึงน้ำห้าสี เป็นเส้นทางที่พาไปพบกับวิวทะเลสาบถึง 3 แห่งและหนองน้ำสวย ๆ กว่า 100 แห่งโดยมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีไปตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ระหว่างทางยังสามารถแวะเดินเล่นที่ “หุบเขานาคาสึกาวะ” ซึ่งเป็นหุบเขาที่สวยและมีชื่อเสียงในภูมิภาคโทโฮคุ หรือจะถ่ายวิวของหุบเขาจากบนสะพานก็ได้เช่นกัน
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสีแถบนี้จะสั้นกว่าที่อื่น ๆ คือจะอยู่ช่วงกลางเดือนตุลาคม-ปลายเดือนตุลาคมเท่านั้น แนะนำให้แวะพักที่โรงแรมอุระบันได เลครีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติอุระบันได อยู่ติดกับทะเลสาบฮิบาระ ทั้งยังใกล้บึงน้ำห้าสีโดยใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาที ไฮไลต์ขของที่นี่คือมองเห็นวิวเทือกเขาบันได ซึ่งเป็นเป็น “หนึ่งใน 100 ภูเขาชื่อดังของญี่ปุ่น” นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น กิจกรรมพาทัวร์ชมบึงน้ำห้าสี กิจกรรมพายเรือ กิจกรรมล่องเรือ ณ ทะเลสาบฮิบาระ
ยิ่งไปกว่านั้น น้ำออนเซ็นของที่นี่ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “อ่างอาบน้ำเพื่อผิวสวย” หรือ “โลชั่นธรรมชาติ” อีกด้วย เพราะคุณสมบัติของออนเซ็นที่นี่มีกรดเมตาซิลิเกตซึ่งเป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติถึง 200 มก. สามารถเดินทางมาที่สถานี JR อินะวะชิโระ จากนั้นให้ขึ้นรถบัสสายอุระบันได โคเก็นแล้วลงที่ป้ายอุระบันได เลครีสอร์ท นอกจากนี้ที่โรงแรมยังมีรถบัสรับส่งไป-กลับสถานีอินะวะชิโระด้วย
ฟุกุชิมะในฤดูใบไม้ร่วงไม่ใช่แค่จุดชมใบไม้ แต่เป็นประสบการณ์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และรสชาติของวัฒนธรรมท้องถิ่น ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ รับรองว่าฟุกุชิมะจะทำให้รู้สึกตกหลุมรักและอยากมาอีกแน่นอน ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวเกี่ยวกับจังหวัดฟุกุชิมะเพิ่มเติมทาง Facebook ภาษาไทย “Welove Fukushima” หรือเว็บไซต์ https://welovefukushima.com/