ศึกชิงเจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อ ทำไมเซเว่นฯ ถึงกินส่วนแบ่งไปกว่า 70% คู่แข่งกำลังทำอะไรเพื่อตามให้ทัน?
ธุรกิจร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย ยังคงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าตลาดในปี 2567 ขยายตัวอยู่ที่ 5.55 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย ระหว่างปี 2562-2567 อยู่ที่ 2.7% ต่อปี แต่อย่างไรก็ตาม ในสภาพตลาดที่มีการเติบโตนี้ ผู้นำอย่าง 7-Eleven ยังคงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในฐานะ “เจ้าตลาด”
บทความนี้จะพาไปสำรวจกลยุทธ์ของผู้นำและคู่แข่งที่กำลังปรับตัว ว่าสร้างจุดยืนในตลาดอย่างไรบ้าง?
7-Eleven ผู้นำตลาด กินส่วนแบ่งกว่า 70%
จากการวิเคราะห์ส่วนแบ่งการตลาด “ร้านสะดวกซื้อ - มินิมาร์ท” ในปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่า 7-Eleven ยังคงเป็นผู้เล่นหลักที่ครองตลาดอย่างชัดเจน ด้วยส่วนแบ่งสูงถึง 70.6% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด
ความสำเร็จนี้มาจากเครือข่ายสาขากว่า 13,000 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนการที่จะเร่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ ทิศทางการเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซื้อในภาพรวมจึงได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการเติบโตของ 7-Eleven
เจาะกลยุทธ์ที่แตกต่างของคู่แข่ง
แม้จะมีความแตกต่างด้านส่วนแบ่งตลาดอย่างมาก แต่ผู้เล่นรายอื่นก็กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันในตลาดที่ท้าทายนี้ คู่แข่งสำคัญของ 7-Eleven ได้แก่
- เครือ Lotus's (9.2%) และมีสาขาราว 1,750 แห่ง
- Mini Big C (4.9%)
- CJ Supermarket (4.4%)
ซึ่งดูเหมือน ผู้เล่นเหล่านี้มักแข่งขันกันที่ราคาและความหลากหลายของสินค้า ในขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยอย่าง Tops Daily และ Lawson 108 ก็เริ่มประสบความสำเร็จในการขยายสาขาในพื้นที่เมืองเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารายได้ระดับกลางถึงสูง โดยแต่ละแบรนด์ได้สร้างจุดยืนทางการตลาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
7-Eleven ยังคงมุ่งเน้นการเป็น "ร้านอิ่มสะดวก" ที่ครบวงจร พร้อมขยายบริการด้านดิจิทัล Lotus's Go Fresh และ Mini Big C หันไปให้ความสำคัญกับการนำเสนอสินค้าสดและอาหารพร้อมรับประทานที่มีคุณภาพสูง CJ Supermarket ใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อลดลง ต้นทุนสูง การแข่งขันรุนแรง ผู้บริโภคได้ประโยชน์
ต้นทุนสูง การแข่งขันรุนแรง ผู้บริโภคได้ประโยชน์
แต่อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจากรายงานของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH BANK) ระบุว่ากลยุทธ์การขยายสาขาแบบเดิมที่เคยเป็นแกนหลักในการเติบโตกำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาอัตรากำไร เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
นอกจากนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้ร้านสะดวกซื้อต้องเพิ่มความหลากหลายของสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าใกล้บ้าน การกำหนดตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนและแตกต่างจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้แต่ละแบรนด์สามารถรักษาฐานลูกค้าและส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้
เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงกับเราในฐานะผู้บริโภค เราจะเห็นร้านสะดวกซื้อพยายามเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาช่องทางออนไลน์เพื่อให้เราสามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย การแข่งขันในตลาดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของตัวเลขทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นสงครามที่แต่ละแบรนด์ต้องปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ยังคงเป็นตัวเลือกแรกในใจของลูกค้าทุกคน
ที่มา : วิจัย LH BANK
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศึกชิงเจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อ ทำไมเซเว่นฯ ถึงกินส่วนแบ่งไปกว่า 70% คู่แข่งกำลังทำอะไรเพื่อตามให้ทัน?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ล็อกซเล่ย์” พร้อมหนุนคู่ค้ารักษ์โลก
- เปิดโผเอ็มดี ทอท.สางปมดิวตี้ฟรี
- “ชฎาทิพ จูตระกูล”คว้า2รางวัลใหญ่ระดับโลก
- พาณิชย์พาเปิดตัวสู่มาเลเซียปิดดีลกว่า 200 ล้าน หนุน "แฟรนไชส์ไทย" โกอินเตอร์
- ไทยแลนด์โฟกัสคึกคักย้ำเชื่อมั่น ต่างชาติไม่กังวลคดีนายกฯอิ๊งค์
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath