สาเหตุ "สมปอง" ยืมเงิน "อดีตพระอลงกต" 13 ล้าน เส้นทางเงินใครโอนให้
ชี้แจงแล้ว สำหรับ "สมปอง นครไธสง" หรือ "อดีตพระมหาสมปอง" หลังโลกออนไลน์แห่จับตาประเด็น "อดีตพระอลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ มีการกล่าวอ้างว่า มีอินฟลูเอนเซอร์ดัง ซึ่งเป็นอดีตพระสงฆ์ เคยยืมเงินไปเมื่อครั้งครองสมณเพศ
โดย "สมปอง" ชี้แจงผ่านโหนกระแสว่า.. ส. คือสมปอง อย่าไปย่อ หรือไปทำเงา มันคือผม ผมอยากบอกนานแล้วแต่ว่ารออยู่ อยู่ๆจะบอกมันก็ยังไงอยู่ ก็ยืมไป 10 กว่าล้าน ถามว่าไปจักได้ยังไง ผมรู้จักท่านตั้งแต่ผมยังเป็นเณร ท่านมารอรับบริจาคที่สนามหลวง ตอนนั้นผมยังไม่กล้าเข้าไป ช่วงหลังผมไปอบรมนักเรียน ผมก็เอาผู้ป่วยเอดส์ เรื่องรักในวัยเรียนไปฉายให้นักเรียนดูตลอด
ผมไปทำ CHR กับ GMM ผู้บริหารถามว่าจะเอาเงินไปบริจาคที่ไหน ผมก็ตอบไปว่าวัดพระบาทน้ำพุ เหตุผลเพราะผมใช้สื่อของเขาบ่อย ก็เลยมอบให้เขา 3 งวด 8 แสน แล้วก็ 1.2 ล้าน และ 1.5 ล้าน รวมเป็น 3.5 ล้าน
ผมมีรายจ่ายเยอะตอนที่แม่ผมติดเตียง ก็มีค่าใช้จ่ายเยอะ แล้วตอนนั้นอยู่ช่วงโควิด ก็เลยตัดสินใจยืมท่านเป็น 10 ล้าน จินตนาการ 2 อย่าง คือโดนด่ามายืมอะไรตั้ง 10 ล้าน แต่สุดท้ายผมตัดสินใจโทรไป แล้วท่านก็บอกว่ายังไงนะ ผมก็เลยบอกว่าไปยืมคนอื่นมา ผมมีค่าใช้จ่ายเยอะแล้วผมเสียดอก ผมไม่อยากเสียดอกแล้วครับหลวงพ่อ ผมอยากขอยืมหลวงพ่อ
ท่านก็เลยสวนมาว่าจะใช้คืนภายในกี่ปี ผมก็เลยประเมินว่าเดือนมกราครับ แล้วโควิดเข้าเดือนมีนา ตอนนั้นผมบอกว่าภายใน 4 ปี คิดว่าน่าจะใช้คืนได้หมด สุดท้ายยืมได้ 2 เดือนโควิดเข้า งานก็ไม่ค่อยมี งานก็หายไปเยอะ หายไปเดือนละ 2-3 แสน 4-5 แสน
(ทำไมถึงคิดว่าหลวงพ่อมีเงิน?) ผมไม่รู้ครับ มันเดาได้ครับ พระมีชื่อเสียง พระมีบารมี คือเงินของพระมี 2 ส่วน คือสวด ฉันเพล ฉันเช้า สวดศพ นิมนต์ไปบรรยาย ต่างๆ เป็นปัจจัยส่วนตัว ซึ่งพระมีได้ ซึ่งในสำนวนเรียกว่าเงินก้นย่าม ซึ่งพระจะทำอะไรกับเงินส่วนนี้ก็ได้
และ 2 คือเงินวัด ที่แตะต้องไม่ได้เลย มีคณะกรรมการวัด ทั้งโยมทั้งพระ ไปยุ่งไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งผมก็ไม่เคยยุ่งกับเงินวัดสร้อยทอง เพราะว่ามันต้องผ่านคณะกรรมการ ผมเลยมั่นใจว่าเป็นเงินส่วนตัวของท่าน ถามว่ามั่นใจ 100% ไหม ผมก็ไม่ได้คิด คือ 10 ล้าน คงไม่มีกรรมการวัดที่ไหนอนุมัติหรอก
(ใช้คืนไปเท่าไหร่?) 5 ล้านกว่า ยืม 10 กว่าล้าน 13 ล้านครับ ใช้คืนไป 5.5 ล้าน เหลืออยู่ 8.8 ล้าน (เปิดใบกระดาษ) ผมมีสลิปทุกอัน ผมไม่ได้ยืมปากเปล่า ตอนยืมไม่ได้ทำสัญญาอะไร แต่ตอนคืนผมทำละเอียด ให้ทีมงานจดไว้หมดเลย ผมมีสลิปการคืนทุกใบ
(โอนให้คือคนใกล้ตัวอดีตเจ้าอาวาสใช่ไหม?) ใช่ครับ (กำหนดไหมว่าจะคืนยังไงเท่าไหร่?) คือตอนที่มีศักยภาพ ตั้งใจเดือนละ 2-3 แสน ที่บอกหลวงพ่อตอนนั้น แต่ทีนี้พอช่วงโควิด ผมก็พอมีอยู่ช่วงแรก 2-3 แสนได้ แต่ตอนหลังเริ่มเหลือ 1 แสน แต่ไม่เคยต่ำกว่าแสนครับ ซึ่งตัวผมเองพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลกับตำรวจ
ช่วงนึงผมป่วยเป็นแพนิคผมทำงานไม่ได้ เกือบ 3 ปี งานน้อยมาก โชคดีที่เขาไม่มาจี้ ผมมีสำนึกยืมต้องคืน จ่ายงวดสุดท้ายมกราปีนี้ ซึ่งหลวงพ่อไม่ได้โอนให้เอง แต่เป็นคนอื่นโอนให้ ก็คิดว่าน่าจะคนเดียวกันกับคนที่เราโอนคืน อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจให้ทีมงานช่วยดูอีกทีนึง (13ล้านโอนก้อนเดียวเลยไหม?) ไม่ครับก็ทยอย 3-5 แล้วก็มีสดบ้าง ไม่ได้จ่ายเป็นเช็ก เงินที่เหลือถ้ายังป่วยและงานน้อยอยู่ก็ขอใช้เวลา 4-5 ปี 7-8 ปี ตอนนี้ผมฟื้นแล้วกลับไปอยู่กับน้องชายขายออนไลน์ ตั้งใจถ้าหมดในปีนี้ถ้าทำได้
(มีสัญญากู้ยืมไหม?) ไม่มีครับ ท่านใจกับผมมาก ท่านบอกไม่เป็นไร ก็ตะลึงครับที่ท่านไม่เขียนสัญญา ผมตั้งใจคืนครับ ตั้งใจคืนเกินด้วยทำบุญกับวัด ยืม 13 ล้าน ตั้งใจคืน 14 ล้าน เพราะอยากทำบุญกับคนใจดี ไม่ใช่ดอกเบี้ย
พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา เผยต่อ ถ้าเป็นเงินส่วนตัวไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นเงินวัด อันนี้ไม่จบ เพราะเงินวัดจะต้องใช้กับกิจของสงฆ์ เพื่อสาธารณะประโยชน์ ท่านเจ้าอาวาสไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาไปให้บุคคลยืม เรื่องนี้ถ้าเป็นเงินวัด เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ เพราะมันมีตัวอยู่แล้วว่าใครเป็นคนโอน มีสัญญาไม่มีสัญญา อันนี้หนีไม่ออก เพราะฉะนั้นต้องตรวจสอบว่าคนโอนเอาเงินมาจากไหน วันนี้เงินมาจากเจ้าอาวาส ซึ่งท่านก็ต้องยืนยันว่าเงินมาจากไหน ถ้าท่านบอกว่าเป็นเงินส่วนตัว แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าเงินถูกโยนออกมาจากบัญชี แล้วเข้าบัญชีคนใกล้ตัวท่าน แล้วโอนไปต่อบัญชีของสมปอง ตรงนี้เค้าอาจจะเหนื่อย เพราะนี่คือข้อเท็จจริง