โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สารพัดงานรัฐ ดันยอดขายเหล็ก ‘ทาทา’

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทาทาสตีลไร้ผลกระทบ โชว์ผลประกอบการ 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 68) รายได้พุ่ง 6.8 พันล้าน กำไร 373 ล้าน มั่นใจทั้งปีนี้ดีกว่าปีก่อน ชี้อานิสงส์รัฐลงทุนสารพัด ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ทางด่วนใหม่ รันเวย์สุวรรณภูมิ แต่ยังมีวิกฤตเหล็กจีนทะลักหนัก ร้องรัฐใช้ยาแรงสกัด ชี้ปรับตัวรับทรัมป์เอฟเฟ็กต์ หันผลิตขายในประเทศมากขึ้น เลี่ยงบริษัทส่งออกสหรัฐ หวั่นโดนข้อหาสวมสิทธิ

นายตารุน ดากา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีงบฯการเงิน 2569 (เมษายน-มิถุนายน 2568) บริษัทมียอดขายรวม 338,000 ตัน รายได้จากการขาย 6,838 ล้านบาท กำไร (หลังหักภาษี) 373 ล้านบาท ยังมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการภายในประเทศ โดยเฉพาะเหล็กเส้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยหลักมาจากการลงทุนต่อเนื่องของโครงการรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการบริโภคของเหล็กอย่างมาก ดังนั้น หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งปี 2568 เชื่อว่าจะเป็นปีที่อุตสาหกรรมเหล็กดีกว่าปีที่ผ่านมา

“ยอดขายมากขึ้นเพราะดีมานด์และบรรยากาศการซื้อเหล็กมันมาก เราเห็นชัดจากการลงทุนของรัฐส่งผลดีต่อเรา เชื่อว่าไตรมาส 2 ดีมานด์ความต้องการใช้เหล็กก็น่าจะพอ ๆ กับไตรมาสแรก แต่อาจต้องดูการใช้จ่ายรัฐ สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และผลกระทบจากการขึ้นภาษีของทรัมป์ ว่ามันจะกระทบมากน้อยขนาดไหน แต่ช่วงนี้อาจมีการก่อสร้างชะลอเล็กน้อยเพราะเป็นหน้าฝน”

สำหรับอานิสงส์จากโครงการรัฐ บริษัทได้งานในหลายโครงการที่จะส่งผลให้ปริมาณใช้เหล็กเพิ่มมากขึ้น เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ซึ่งมีการใช้เหล็กถึง 140,000 ตัน รถไฟทางคู่ เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย ใช้เหล็ก 20,000 ตัน ทางด่วนจตุโชติ-ลำลูกกา (ปทุมธานี) กูเกิล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ชลบุรี) รันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 3 ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 บางกอกมอลล์ บางนา และมอเตอร์เวย์ M7 เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ และหากมีการประเมินสภาพเศรษฐกิจของไทย ยังมองว่ามีการเติบโตได้ แต่ยังมีความไม่แน่นอนจากผลกระทบด้านภาษีของสหรัฐ การเดินทางเข้าของนักท่องเที่ยว การใช้จ่ายของผู้บริโภค ค่าเงินบาท หนี้ครัวเรือน

จึงอาจมีผลต่อครึ่งปีหลังหากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ออกมาในเชิงลบที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และยังมีการคาดการณ์ว่าเหล็กสำเร็จรูปจากประเทศจีนจะยังคงทะลักเข้าเอเชียและไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะหากดูจากครึ่งปีแรก จะเห็นว่าเหล็กจีนส่งออกมาเอเชียเพิ่มขึ้นถึง 9.2% หรือ 58.2 ล้านตัน จาก 53.3 ล้านตัน เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะเหล็กลวด

Tata Steel

“เหล็กจีนจะยังคงทะลักส่งออกมาที่เอเชีย แม้เราจะสกัดด้านมาตรการการทุ่มตลาด (AD) ก็ตาม แต่พอมันมากขึ้น การใช้มาตรการเดียวในการสกัดกั้นก็คงไม่พอ มันก็ต้องมีอย่างอื่นที่แรงกว่ามาช่วย แม้เราไม่ได้นำเข้าเหล็กลวดเลย เราผลิตขายเอง แต่เราก็เห็นว่าในอุตสาหกรรมเหล็กได้รับผลกระทบ เราก็หวังว่ารัฐจะช่วยเหลือเช่นกัน”

สำหรับตลาดเหล็กในไทยครึ่งปีแรก (ผลิต นำเข้า ส่งออก บริโภค) ขณะนี้มีการบริโภคอยู่ที่ 8.9 ล้านตัน จาก 8.1 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงประเมินว่าความไม่แน่นอนทั้งด้านการส่งออก การท่องเที่ยว ที่อาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม

Tata Steel

แม้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 19% ของทรัมป์ แต่บริษัทได้มีการหารือกับเอกชนมาโดยตลอด นอกจากนี้ ด้วยบริษัทไม่มีสัดส่วนการส่งออกไปที่สหรัฐ แต่สิ่งที่ต้องกังวลคือการ Transshipment สินค้าสวมสิทธิ หรือสินค้าส่งผ่านของจีนที่เข้ามาไทยและไปสหรัฐ เนื่องจากมีบริษัทบางส่วนที่ต้องเอาวัตถุดิบนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่บริษัทได้พยายามปรับการดำเนินงานด้วยการหันมาใช้ในประเทศแล้วขายในประเทศ และพยายามใช้วัตถุดิบในประเทศที่เป็นของไทย เพื่อลดผลกระทบกับลูกค้าบางรายที่ต้องส่งออกไปสหรัฐ

“ถ้าให้สถานะของอุตสาหกรรมเหล็กในปี 2568 เรามองว่ามันเป็นสถานะที่เรียกว่าดี ถ้าดูตัวเลขดีมานด์มันดูเป็นบวกทั้งตัวเลข ข่าวที่ว่าบางรายลดการผลิต บางรายกลับมาผลิตใหม่ เพิ่มกำลังการผลิต ขึ้นอยู่กับปัจจัยการจับจ่ายใช้สอย มันจะส่งผลที่ดีต่อธุรกิจเหล็กเช่นกัน ถ้าสัญญาณดีขึ้น ดูจากเหล็กเส้นที่ผลิตเพิ่ม แต่การนำเข้าเหล็กลวดยังสูงทำให้กดดัน หลายบริษัทต้องหยุดการผลิต แต่ถ้าลงรายละเอียดก็จะแค่มีบางโปรดักต์ที่มีวิกฤต”

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมขอใบรับรอง (Certificate) เรื่องของการปล่อยคาร์บอน เพื่อเตรียมการในอนาคตหากต้องมีการขยายตลาดส่งออกไปยุโรป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ส่งออกโดยตรง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการ CBAM โดยบริษัทได้เก็บข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเรื่องของการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตเหล็กของบริษัท พบว่ากระบวนการผลิตเหล็กจากบริษัทส่วนใหญ่มาจากเศษเหล็กซึ่งมีมลพิษน้อย มีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 0.6-0.7 ตันคาร์บอนตัน/น้ำเหล็ก ในขณะที่การถลุงเหล็กจะปล่อยคาร์บอนสูงถึง 2.2 ตันคาร์บอนตัน/น้ำเหล็ก

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สารพัดงานรัฐ ดันยอดขายเหล็ก ‘ทาทา’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนฝนตกเพิ่ม-ตกหนักยาวๆ 10-21 ส.ค. นี้

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ลัมโบร์กินี ปรับราคาขายทุกรุ่นลง 15% ตามโครงสร้างภาษีปี 2569

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เงินผู้สูงอายุ เดือนสิงหาคม 2568 ตรวจสอบได้สิทธิได้กี่บาท?

sanook.com

บิีกเนมค้าปลีกอัดโปร “วันแม่” ชิงกำลังซื้อ She-Economy

ฐานเศรษฐกิจ

ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อสังคม สนับสนุน SMEs แบ่งเบาปัญหาการเงิน

SMART SME

EXIM BANK ครบวงจรเรื่องนำเข้า-ส่งออก พร้อมแพ็กเกจเพียบเพื่อคนธุรกิจ

SMART SME

10 สตาร์ทอัพ Travel Tech เกาหลีใต้ บุกตลาดท่องเที่ยวไทย ผนึก ททท. ยกระดับท่องเที่ยวด้วย AI–บล็อกเชน

Manager Online

“ยัสปาล กรุ๊ป” อัปเกรดJPS CLUB เปิดตัวแคมเปญ “Better Than Ever”

Manager Online

“ไมเนอร์ฟู้ด” ปูพรมแฟรนไชส์รุกโลก

Manager Online

สถาบันอาหาร มาตรฐานครบวงจร ขอแค่ SME มีไอเดีย มือใหม่ก็ส่งออกได้

SMART SME

ข่าวและบทความยอดนิยม

สารพัดงานรัฐ ดันยอดขายเหล็ก ‘ทาทา’

ประชาชาติธุรกิจ

ลัมโบกินี ปรับราคาขายทุกรุ่นลง 15% ตามโครงสร้างภาษีปี 2569

ประชาชาติธุรกิจ

บาทปรับตัวในกรอบจำกัด ตลาดยังรอปัจจัยใหม่

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...