นศ.เขมร ทุนไทย เนรคุณต่อเนื่อง หลังกลับประเทศจับอาวุธสู้ทหารไทย
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2568 เฟซบุ๊ก Ron Chhît ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาที่ได้ทุนเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศไทย แต่ล่าสุดได้กลับประเทศตนเอง ไปเป็นทหารเขมร เพื่อสู้กับทหารไทย จนกลายเป็นที่ถูกพูดถึงกันในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก ซึ่งโพสต์ของ Ron Chhît ได้ยกคำพูดของ ฮุน เซน พร้อมภาพ และข่าวที่เคยด้อยค่าปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย หลังโดนเพิกถอน พร้อมระบุว่า ข้อความจากสมเด็จฮุนเซน เรื่องของผมเหมือนสมเด็จฮุนเซนเลย ช่วยส่งต่อให้คนไทยด้วย
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า ทรพี ดีครับ เอาให้สุด ได้ข่าวว่ามีครูออกมาดิ้น บอกว่าข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ครบถ้วนยังไง? เรื่องนี้จริงเท็จยังไงฝากช่วยชี้แจ้งด้วยครับ ล่าสุดมันโพสต์อ้างอิงคำพูดของ i ฮุน เซน เห็นรึเปล่า ทำคุณบูชาโทษ เลี้ยงเขมร ก็เหมือนเลี้ยงงูเห่า มันพร้อมแว้งกัดผู้มีพระคุณ นี่ละ เลี้ยงไม่เชื่อง
ฉันทิ้งมันไปนานแล้ว มันไม่มีค่าอะไรให้เก็บรักษาไว้เลย!
วันนี้ฉันเห็นสถาบันของไทยอีกแห่งหนึ่งประกาศเพิกถอนประกาศนียบัตรที่มอบให้ฉันไปแล้ว ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า ฉันทิ้งประกาศนียบัตรทั้งสามใบจากสถาบันไทยที่เคยมอบให้ฉันเมื่อนานมาแล้ว ประกาศนียบัตรเหล่านั้นไม่มีค่าสำหรับฉันเลยและไม่คุ้มค่าที่จะเก็บรักษาไว้เลย
ประกาศนียบัตรใบแรกได้รับในปี พ.ศ. 2544 ใบที่สองในปี พ.ศ. 2549 และใบที่สามในปี พ.ศ. 2562 ฉันไม่ได้ภาคภูมิใจในเอกสารเพียงแผ่นเดียวของสถาบันของคุณเลย
สติปัญญาและความรู้ของฉันไม่ได้เกิดจากประกาศนียบัตรหรือโรงเรียนของคุณ แต่เกิดจากคนกัมพูชาและโรงเรียนในกัมพูชาที่ให้การศึกษาแก่ฉัน
ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า หากคุณลองพิจารณาช่วงเวลาที่คุณมอบประกาศนียบัตรเหล่านั้นให้ฉัน (ซึ่งฉันไม่เคยขอจากคุณ) และเปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่ฉันรับราชการทหาร จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าประกาศนียบัตรของคุณไม่ได้มีส่วนช่วยใดๆ ต่อความสำเร็จของฉัน
ประกาศนียบัตรเหล่านั้นได้รับหลังจากที่ผมบรรลุเป้าหมายสำคัญดังต่อไปนี้แล้ว:
ในปี พ.ศ. 2522 ตอนอายุ 27 ปี ผมได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2524 ตอนอายุ 29 ปี ผมได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2528 ตอนอายุ 32 ปี ผมได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
ผมเชื่อว่าคุณน่าจะรู้สึกละอายใจหากจะกลับไปทบทวนการประเมินคุณสมบัติของคุณเมื่อครั้งที่ผมขอให้ผมรับประกาศนียบัตร ผมจะสั่งการให้สำนักงานของผมเผยแพร่ผลการประเมินของคุณเกี่ยวกับคุณงามความดีของผม เพื่อเป็นการเตือนความจำ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืม คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ และขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า คุณมาเพื่อมอบประกาศนียบัตรเหล่านั้นพร้อมกับคำยกย่องอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ในทางกลับกัน การจะรับหรือไม่รับนั้นเป็นการตัดสินใจของผมโดยสิ้นเชิง และผมไม่เคยเป็นคนที่มองข้ามสิ่งต่างๆ อย่างไร้เหตุผล