ปชน.เคาะพร่งนี้ย้ำยุบสภาเท่านั้น ไม่ไว้ใจทั้งคู่หวั่นจับขั้วอยู่อีก 2 ปี ปัดใช้อารมณ์แต่ไม่ลืมแผลจากพท.-ภท.
"พริษฐ์‘" เผย วงประชุมปชน.รอเคาะพรุ่งนี้ จี้ "ภูมิธรรม" ยุบสภาเท่านั้น รับไม่ไว้ใจทั้งคู่ กังวล แดง-น้ำเงินจับขั้วอยู่อีก 2 ปี ปัดตอบเลือกพท. เหตุกรอบเวลาสั้นกว่า ไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ แต่ไม่ลืมอดีตพท.ฉีก MOU ขณะภท.อภิปราย "พิธา"
วันนี้ (1 ก.ย. 68) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะโฆษกพรรค แถลงผลการประชุมกรรมการบริหารพรรคและ สส. ในการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ว่าการประชุมในวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว วันนี้มี สส. มาเข้าร่วมประชุม 90 กว่าคนหรือร้อยละ 60 ซึ่งหลายคนติดภารกิจที่นัดไว้ล่วงหน้า ของคณะกรรมาธิการหรือในพื้นที่ ซึ่งปกติจะประชุมกันในวันอังคาร แต่วันนี้เป็นนัดพิเศษประชุมในวันวันจันทร์ ขอเรียนตามตรงว่าความเห็นในที่ประชุมมีความเห็นที่หลากหลาย หลายคนแสดงความคิดเห็นด้วยความหนักใจไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง จึงมีข้อสรุปวันนี้ว่าจะมีการประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ สส. ที่มาประชุมในวันนี้ ตกผลึก และแสดงความเห็นเพิ่มเติม ประกอบกับให้ สส.ที่มาในวันนี้ไม่ได้ ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และจะนำความเห็นของ สส. มาประกอบความเห็นจากภาคส่วนอื่น ๆ ของพรรค ทั้งทีมเครือข่ายและ พนักงานมาพิจารณาร่วมกัน
“ผมคิดว่า 2 ประเด็นที่มีการพูดคุยกันค่อนข้างชัดเจน 1. ค่อนข้างชัดเจนมากยืนยันจุดเดิมเดิมสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศคือการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เราเป็นฝ่ายที่เรียกร้องการยุบสภามาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่มีคลิปเสียงของคุณแพทองธาร กับฮุนเซนหลุดออกมา เพียงแต่ก่อนหน้านี้ผู้มีอำนาจไม่ได้ตอบสนองข้อเสนอดังกล่าว วันนี้ยังคงยืนยันว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ ดังนั้นหากสมมุติว่ารักษาการนายกที่มีอำนาจในการยุบสภาในวันนี้ จะยื่นเพื่อดำเนินการยุบสภาจะสอดคล้องกับจุดยืนของเราก็ยินดีและพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง” นายพริษฐ์กล่าว
นายพริษฐ์กล่าวต่อ หากรักษาการนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา และไม่มีพรรคการเมืองใดรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง พรรคประชาชนจะใช้กระบวนการในการพิจารณาเลือกนายกคนใหม่ เพื่อนำไปสู่การยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว และเข้าใจดีว่าหลายคนหนักใจไม่ว่าจะเป็น สส. หรือ ประชาชน หากยังไม่มีใครยุบสภาก่อนและต้องใช้เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บางคนมองว่าจำเป็นหรือไม่ หากไม่สามารถทำอะไรได้เลยด้วยการงดออกเสียง
แต่พยามคิดอีกมุมหนึ่งหากยังไม่มีการยุบสภาและจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ณ เวลานี้ไม่มีกลุ่มใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้นต้องคิดต่อว่าพรรคประชาชนงดออกเสียงอยู่เฉยจะเกิดอะไรขึ้น จึงมองไปถึงความน่ากังวล 2 ประการ คือ 1. ปัจจุบันทั้งแดงและน้ำเงินไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง แล้วแดงกับน้ำเงินจะไหลไปรวมกัน ก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากมีแนวโน้มที่จะอยู่ครบวาระไปอีกเกือบ 2 ปี ที่ขัดกับจุดยืนในการต้องการเห็นการเลือกตั้งโดยเร็ว โดยหยิบยกสภาพการเมืองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า ไม่มีนโยบายใดที่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นว่าในช่วงที่แดงกับน้ำเงินเป็นรัฐบาลร่วมกัน คดีหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ถูกตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาแต่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือการต่อรองทางการเมือง
“สิ่งที่เราต้องการป้องกัน คือสถานการณ์ที่แดงกับน้ำเงินนั้นจะกลับไปรวมกัน จะทำให้ประเทศเสียหาย ทั้งการเลือกตั้งใหม่ที่ออกไป 2 ปี และการมีนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ และกระบวนการยุติธรรมที่ถูกดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา” นายพริษฐ์กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่าความเป็นไปได้ในข้อที่ 2 หากสมมุติแดงกับน้ำเงินไม่ไหลกลับไปรวมกันก็ความเสี่ยงจะไหลไปถึงนายกฯ ที่มาจากนอกระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่ส่งผลดีต่อระบบการเมืองไทย จึงมีความหนักใจ และเข้าใจดีถึงความรู้สึกหลายคน หากอยู่เฉย แต่ก็ยืนยันว่าหากรักษาการนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา และฝ่ายใดรวบรวมเสียงข้างมากไม่ได้เกินเกินหนึ่ง หากไม่ทำอะไร และยังไม่สามารถจะสรุปได้ว่าในวันพรุ่งนี้จะได้คำตอบชัดเจน
โฆษกพรรคประชาชนกล่าวต่อว่าวันนี้ในที่ประชุมอภิปรายหลากหลายประเด็น และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุม สส. ที่ปกติ และจะมี สส. ประชุมเพิ่มขึ้น และขณะนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนว่าสภาผู้แทนราษฎรจะนัดโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่
แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าความเห็นในที่ประชุมพรรคมีความแตกต่างหลากหลาย พร้อมเชิญชวนตัวแทนเครือข่ายพรรคแสดงความเห็นได้ โดยพรรคประชาชนไม่ได้ไปพูดคุยเพิ่มเติมกับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคภูมิใจไทย หลังจากที่ 2 พรรคได้ตอบรับเงื่อนไขของพรรคแล้ว โยนถามภูมิใจไทยผู้ให้ข่าวในทำนองว่าจะลงนาม Agreement กับพรรคประชาชนแล้ว
และอย่างว่าไม่มีพรรคไหนจะจัดตั้งรัฐบาลและมีเสียงเกิน 280 เพราะพรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาล และตัวเลข สส. ของพรรคประชาชนจะไม่ถูกรวมอยู่ในฝั่งรัฐบาลใด ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะอ้าง ตัวเลข 280 เกินกึ่งหนึ่งไม่ใช่เป็นผลลัพธ์จากเงื่อนไขของพรรคประชาชนอย่างแน่นอน
ส่วนข้อเสนอพรรคเพื่อไทยที่ชูว่าจะยุบสภาได้ไวกว่า 4 เดือนหรือใช้เวลา 2 เดือนนั้น นายพริษฐ์ ยืนยันว่าเงื่อนไขของพรรคประชาชนมีความชัด 3 ข้อ เหตุผลที่ต้องวางกรอบไว้ 4 เดือนเพราะจะต้องติดตามดูว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 กันยายนจะวินิจฉัยว่าทำประชามติกี่ครั้ง หากวินิจฉัยประชามติ 3 ครั้ง ก็จะมีการทำประชามติครั้งแรกทันที ซึ่งไม่ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน หากศาลวินิจฉัยว่าทำประชามติ 2 ครั้งนั่นหมายความว่าครั้งแรกจะไม่ใช่การทำประชามติ แต่จะต้องผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน จึงมองว่ากรอบเวลา4เดือนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านไปได้ หากพูดถึงพรรคเพื่อไทยโดยตรงไม่ต้อง 4 เดือน หากรักษาการนายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทยจะยุบสภาก็ดำเนินการได้เลย
ส่วนการทำประชามติพ่วงเรื่องเกี่ยวกับการยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 พรรคประชาชนไม่ได้พิจารณาอะไรนอกเหนือจาก 3 เงื่อนไข ซึ่งเป็นจุดยืนของแต่ละพรรคที่ได้แสดงออกมา แต่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนาที่มาพูดคุยกับประชาชน จี้ในการเจรจายึด 3 เงื่อนไขของพรรคประชาชน
เมื่อถามว่าประเมินความจริงใจพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยในการตอบรับ นายพริษฐ์ ระบุว่าความจริงใจเป็นสิ่งที่ สส. และประชาชนหลายคนใช้ในการประเมิน และหลายคนมองว่าพรรคประชาชนจะทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่จะเข้าไป รักษาสัญญากับพรรคประชาชนได้อย่างไรโดยมี 2 ปัจจัย ได้แก่ 1. ออกแบบกลไกให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญา การทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยในฐานะแกนนำฝ่ายค้านสามารถใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจล้มรัฐบาลที่เบี้ยว 2.ประเมินเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ
“ไม่ไว้ใจทั้งคู่ แต่ว่าก็ต้องประเมินความเสี่ยง ว่าจากสาระและท่าทีที่ได้เห็นที่วัดด้วยหลักฐานอันไหนมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ยืนยันตัดสินใจด้วยเหตุและผลไม่ได้เอาความแค้นเอาเอาอารมณ์ตัดสิน แน่นอนบางคนอาจจะรู้สึกเกี่ยวกับกรณีกรณีที่พรรคเพื่อไทยฉีก MOU ไปตั้งรัฐบาลและหลายคนอาจจะรู้สึกตอนที่พรรคภูมิใจไทยอภิปราย เกี่ยวกับพรรคเราตอนโหวตคุณพิธาเป็นนายก เราไม่ได้เอาความรู้สึกเป็นตัวตั้ง เราพยายามใช้เหตุและผลได้ มากที่สุดเพื่อทำให้ประเทศนี้มีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและแก้ไขปัญหาได้โดยเร็ว” นายพริษฐ์กล่าว
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนถูกกระทำมาไม่เคยลืมอยู่แล้ว แต่ไม่ได้นำอารมณ์มาเป็นตัวตัดสิน โดยมองว่าจะต้องมีการพูดคุยกันในพรรคให้ตกผลึก ในขณะนี้ยังไม่สามารถตอบข้อสรุปแทนพรรคได้ และสื่อสารเพียงประชาชนว่า พรรคประชาชนตระหนักดีมาอยู่จุดนี้ได้เพราะใคร เพราะประชาชน 14 ล้านคน ดังนั้นให้สัญญาว่าจะไม่นำความไว้วางใจตรงนั้นไปทำอะไรที่ขัดหลักการ หรือผิดคำพูด หรือไม่ได้ทำประโยชน์สูงสุดของประเทศ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO